กรุงเทพฯ--21 ธ.ค.--แม็กซิม่า คอลซัลแตนท์
ออกสตาร์ทกันแล้ว... สำหรับโครงการดีๆ ที่มีกิจกรรมอุ่นๆ มาให้ครอบครัวทุกบ้านเต็มอิ่มกับสายใยแห่งรักสายใยแห่งความผูกพัน เมื่อ วิไล เคียงประดู่ ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการส่วนงานประชาสัมพันธ์ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส ตีธงเปิดการแข่งขัน "เอไอเอส แฟมิลี่ แรลลี่" เพื่อสายใจไทย ครั้งที่ 14 ตอน สานรักแอ่วดอย ร้อยพลังครอบครัว เส้นทางกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เมื่อวานก่อน (9 ธ.ค. 2549) โดยมีรถเข้าแข่งขันจำนวน 110 คัน 110ครอบครัว เริ่มต้น ณ ลานจอดรถ อาคารชินวัตร 1 และสิ้นสุด ณ โรงแรมเชอราตัน จังหวัดเชียงใหม่ ท่ามกลางบรรยากาศแห่งรอยยิ้มและเสียงหัวเราะของคุณพ่อ คุณแม่ และคุณลูก ซึ่งรายได้จากการแข่งขันสบทบทุนมูลนิธิสายใจไทย
วิไล เคียงประดู่ ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการส่วนงานประชาสัมพันธ์ เอไอเอส กล่าวว่า “เพราะครอบครัวคือรากฐานสังคมที่แข็งแรง ด้วยเหตุนี้ โครงการเอไอเอส สานรัก จึงได้จัดกิจกรรมเพื่อส่งเสริมสถาบันครอบครัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยปีนี้เป็นกิจกรรมแรลลี่การกุศล เส้นทางกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ ที่เลือกเชียงใหม่เพราะว่าเป็นจังหวัดที่มีภูมิทัศน์สวยงาม และที่สำคัญมีงานมหกรรมพืชสวนโลกเฉลิมพระเกียรติฯ ราชพฤกษ์ 2549 ที่หลายครอบครัวนอกจากจะได้มาสนุกกับเราก็อาจถือโอกาสอันดีนี้ชมความงดงามของพรรณไม้ในงานดังกล่าวด้วย โดยตลอดเส้นทาง 760 กิโลเมตรที่แข่งขัน ทุกครอบครัวได้ร่วมสานรัก สานความห่วงใย และความเข้าใจระหว่างกันให้ลึกซึ้งและผูกพันมากยิ่งขึ้น กับการร่วมค้นหา R.C., จุด T.C. ตลอดจนการเล่นเกมอื่นๆ อาทิ เกมโบว์ลิ่งชาวดอย, เกมผมเอาแครอทมาฝาก เป็นต้น”
สิ้นสุดการแข่งขัน ได้มีงานเลี้ยงประกาศผลการแข่งขันและมอบรางวัลแก่ครอบครัวที่ชนะเลิศการแข่งขัน “เอไอเอส แฟมิลี่ แรลลี่” เพื่อสายใจไทย ครั้งที่ 14 ตอน สานรักแอ่วดอย ร้อยพลังครอบครัว ในช่วงค่ำ โดยได้รับเกียรติจาก ถกลรัตน์ แก้วกาญจน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ สำนักงานปฏิบัติการภูมิภาค-ภาคเหนือเอไอเอส เป็นประธานเปิดงานเลี้ยงประกาศผลการแข่งขัน ภายใต้ธีมการแต่งกาย “แอ่วดอยร้อยรักรับลมหนาว” และบรรยากาศงานเลี้ยงแบบชาวเหนือ ซึ่งเอไอเอส สานรักได้เตรียมซุ้มสอยดาว ตลอดจนเกม การจับฉลาก ต่างๆ ไว้ต้อนรับมากมาย รายได้จากการจำหน่ายบัตรเล่นเกมมอบให้แก่มูลนิธิขาเทียม จังหวัดเชียงใหม่ ผลการแข่งขันแรลลี่ปรากฏว่าผู้ชนะได้แก่ ครอบครัวฟ้าอรุณสวัสดิ์ นำโดย ฉัตรชัย ฟ้าอรุณสวัสดิ์ รับถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีไปครอง ท่ามกลางลมหนาวผสานกลิ่นอายที่อบอวลด้วยไออุ่นแห่งรักจาก 110 ครอบครัวที่มาร่วมยินดีกันถ้วนหน้า ปิดท้ายกิจกรรมดีๆ วันนั้นด้วยทาง เอไอเอส สานรัก ได้มอบผ้าห่ม ในโครงการ เอไอเอส รวมใจต้านภัยหนาว ให้กับ ประจญ ปรัชญ์สกุล หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จังหวัดเชียงใหม่ ณ โรงแรมเชอราตัน จังหวัดเชียงใหม่
โดย ฉัตรชัย ฟ้าอรุณสวัสดิ์ ผู้นำทีม “หมูอ้วน” เจ้าของรางวัลชนะเลิศในการแข่งขันแรลลี่ครั้งนี้ กล่าวอย่างดีใจว่า “การร่วมแข่งขันครั้งนี้ความสำเร็จของผมไม่ได้มุ่งหวังอยู่ที่รางวัลใดๆ เพราะรางวัลที่ได้รับอย่างแน่นอนคือความสำเร็จในการสานความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้นในครอบครัวญาติพี่น้อง ซึ่งนี่สิที่คือรางวัลที่ยิ่งใหญ่และมีค่าอย่างแท้จริง ผมชอบแข่งแรลลี่มาก ครั้งนี้เป็นปีที่ 5 แล้วครับ ในทีมผมมีทั้งหมด 5 ชีวิต มีแม่ ลูกชาย น้องสาว และเพื่อนของน้องสาว โดยใช้ชื่อทีมว่า “หมูอ้วน” ซึ่งมีที่มาจากรูปร่างอ้วนกลมของลูกชายผม ผมใช้ชื่อนี้ตั้งแต่การเล่นแรลลี่ครั้งแรก และใช้ชื่อนี้มาตลอด เพราะผมเชื่อว่าลูกคือเครื่องนำโชคที่ดีของพ่อแม่ การเล่นแรลลี่ครั้งนี้พวกเราต้องช่วยเหลือกันตลอดเวลา ต้องร่วมมือร่วมใจกัน ซึ่งทำให้เราเข้าใจกันมากขึ้น กอดกันมากขึ้น กล้าพูดกล้าคุยกันมากขึ้น และที่สำคัญที่สุดทำให้เรารักกัน และใส่ใจในรายละเอียดต่างๆ ของกันและกัน สำหรับการเตรียมตัว ผมเป็นคนขับก็จะเตรียมในเรื่องของสภาพรถ และนอนพักผ่อนให้มากๆ เพราะระยะทางค่อนข้างไกล จึงต้องอาศัยร่างกายที่พร้อมเต็มที่ครับ เวลาขับก็ไม่ต้องใช้ความเร็วมาก เน้นความปลอดภัยเป็นอันดับแรก ส่วนเรื่องการบอกทาง หรือเสบียงอาหารระหว่างทางนั้น ก็จะแบ่งกันไปตามความถนัดของแต่ละคนครับ”
ส่วนทีม “น่ารักอย่างนี้นี่เอง” นำโดย ธีรวัฒน์ สุตัณฑวิบูลย์ คุณพ่อที่แสนอบอุ่น เล่าถึงความประทับใจในการร่วมแข่งขันแรลลี่ครั้งแรกนี้ว่า “สนุกมากครับ ทีมผมมี 5 คน มีคุณพ่อ คุณแม่ของภรรยา ภรรยา และลูกสาว อาจจะดูเหมือนพาท่านมาลำบาก แต่จริงๆ ไม่นะครับ ผมเห็นท่านมีความสุข สนุกสนาน ยิ้มได้ตลอดเวลา และที่สำคัญท่านได้ใช้เวลาดีๆ ในการทำกิจกรรมกับลูกหลานมากขึ้น ผมได้เห็นลูกผมรู้จักวิธีเข้าหาผู้ใหญ่ รู้จักช่วยดูแลท่าน เอาใจใส่ในสิ่งเล็กๆ น้อยๆ อย่างช่วยจับมือเวลาท่านเดิน ผมก็มีความสุขมากแล้วครับ ตลอดการเดินทางพวกเราจะคอยให้กำลังใจกัน เวลาเล่นเกมทุกคนจะสามัคคีกันมาก ต้องร่วมแรงร่วมใจร่วมสมองกัน เกมที่พวกเราชอบ ก็เป็นเกม ผมเอาแครอทมาฝาก เพราะเราต้องเล่นกันทุกคน ชื่อทีมผมใช้ชื่อว่า “น่ารักอย่างนี้นี่เอง” ซึ่งภรรยาเป็นคนตั้งครับ มาจากลูกสาว ที่ยิ่งมองดูแกเท่าไรแกก็น่ารักจริงๆ น่ารักอย่างนี้นี่เอง”
ครอบครัวสมบูรณ์ ของ สมบูรณ์ วัชรพงษ์พันธ์ ผู้นำทีม “ขันโตก” คว้ารางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 ในการแข่งขันแรลลี่ครั้งนี้มาครอง กล่าวถึงความสนุกสนานในการแข่งแรลลี่ว่า “ทีมเรามีผม ภรรยา และลูกๆ 2 คน ซึ่งแข่งขันคาร์แรลลี่ครั้งนี้เป็นครั้งแรก แรลลี่ถือเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมของครอบครัว ที่ทำให้พวกเรารักกันมากขึ้น มีการใช้เวลาร่วมกันมากขึ้น ยิ้มให้กัน ร่วมมือกัน เห็นถึงการพัฒนาด้านต่างๆ ของลูกๆ นอกจากนี้ ยังเป็นการฝึกสังเกตสิ่งรอบๆ ตัว เพิ่มเติมความรู้จากสิ่งรอบๆ ข้าง และยังเป็นการทบทวนความรู้ของลูกๆ อีกด้วย ทำให้เราเห็นในมุมที่เราไม่เคยเห็น ทำให้เรารู้สึกภูมิใจในตัวลูกๆ ของเรามากยิ่งขึ้น และทำให้ครอบครัวเราแข็งแรงมากขึ้นอีกด้วย การแพ้ชนะในการเล่นไม่สำคัญเท่ากับความสัมพันธ์ที่ดีที่สวยงามในครอบครัว เทคนิคในการเล่นแรลลี่ของเรา เราจะมีการวางแผนกันในแต่ละฐานว่าใครจะทำหน้าที่อะไร ส่วนผมคนขับก็จะไม่ใช้ความเร็วที่มากเกินไป เพราะความสุข สนุกสนาน ต้องมาควบคู่กับความปลอดภัยของคนที่เรารักด้วย”
ด้าน ผกามาศ สุขุม คุณแม่ยังสาว ผู้นำทีม “น้องทราวิส” เข้าร่วมชิงชัยแรลลี่ครั้งนี้ เปิดเผยถึงกิจกรรมที่เข้าร่วมว่า “ประทับใจมากค่ะ ที่จริงมาร่วมแข่งขันได้เพราะว่าพี่สาวชวนมา ก็เลยยกพลกันมา 5 คนได้ โดยมีลูกชาย น้องทราวิส เป็นศูนย์ร่วมหัวใจ จะแข่งขันอะไรก็จะพยายามให้เขาเล่นด้วย แต่บางเรื่องอย่างเรื่องเส้นทาง คำถามก็จะช่วยกันคิดกับเพื่อนๆ และพี่สาว ซึ่งนี่เป็นครั้งแรกที่นั่งรถมาไกลขนาดนี้ แต่ว่าเราก็เตรียมเรื่องรถมาอย่างดี ตรวจเช็คความพร้อมทุกอย่าง เพราะว่าเรามีเด็กก็อยากจะให้ปลอดภัยที่สุด นอกจากนี้ ก็เป็นเรื่องของร่างกาย ที่ต้องนอนมาให้เต็มอิ่ม เวลาเดินทางจะได้ไม่ง่วง ไม่เพลีย จริงๆ การแข่งขันก็ขึ้นอยู่กับหลายอย่าง ทั้งความสามารถในการขับรถ ดวง สมอง หลายอย่าง แต่ที่แน่ๆ คือความรักความสามัคคีในครอบครัวค่ะ”
ทีมเพื่อนๆ อย่าง ปปกย ที่มีผู้นำทีมอย่าง ชนภัทร เสรีพรเศรษฐ์ กล่าวถึงการร่วมกิจกรรมครั้งนี้ว่า “เราอยากมาเที่ยวไกล ๆ แต่ขับรถมาไกลโดยไม่มีกิจกรรมอะไรให้ทำก็คงจะน่าเบื่อ เป็นโอกาสดีที่ได้ร่วมขบวน เอไอเอส คาร์ แรลลี่ครั้งนี้ด้วย ทำให้ช่วงการเดินทางของเราสนุกมากขึ้น ตื่นเต้นมากเตรียมตัวมาก่อน 1 อาทิตย์ คาร์แรลลี่มีอะไรให้เล่นมากกว่าที่คิด และสิ่งที่ได้เราได้ ทำงานเป็นกลุ่ม มีการวางแผนแบ่งหน้าที่ อย่างเพื่อนที่เป็นคนขับรถก็จะเอารถไปเช็ค ก่อนเดินทาง ฝ่ายเสบียงก็เตรียมมาพร้อม ฝ่ายเล่นเกมก็ฟิตร่างกายมาดี เป็นการเดินทางมาไกลที่ไม่มีง่วง ไม่มีเบื่อเลย”
ครอบครัว ณ พัทลุง นำโดย ปิยะวัตร ณ พัทลุง พาคุณตาคุณยายมาแอ่วเมืองเหนือที่แสนอบอุ่น และร่วมแข่งขันจนคว้ารางวัลรองชนะเลิศอันดับที่ 1 กล่าวถึงความรู้สึกในการแข่งแรลลี่ครั้งนี้ว่า “ทุกคนชอบและสนุกสนานกันมาก เราได้สังคมใหม่ที่ไม่ได้มีแค่ครอบครัวเราแต่ยังมีเพื่อนใหม่หลาย ๆ ครอบครัวมาเล่นเกมกัน คุณตาคุณยายก็ร่วมเล่นเกมด้วย ท่านยิ้มหัวเราะ ระหว่างทางที่ขับรถมามีอะไรให้หาให้ตื่นเต้นตลอด ทำให้ไม่ง่วงเลย เราก็จะขับรถมากันเรื่อย ๆ ไม่เน้นความเร็ว เพราะถ้ายิ่งขับเร็วก็จะยิ่งง่วง ถ้าทีมอื่น ๆ เขาจะแซงไป เราก็จะไม่แข่งแซงตาม ก่อนเดินทางไม่ลืมที่จะเช็คสภาพรถ ดูลมยาง และดูความพร้อมของคนขับด้วย แรลลี่ครั้งนี้ทำให้ครอบครัวเราที่รักกันอยู่แล้ว รักกันมากขึ้น คาดว่าปีหน้าอยากมาอีก”
หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ
บริษัทแม็กซิม่า คอลซัลแตนท์ จำกัด โทร 0-2434-8300
คุณสุจินดา, คุณแสงนภา, คุณปิติยา
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net