สหพัฒน์ ทุ่มงบ 30 ล้าน ท้าพิสูจน์ “ฮาร์ทติ เบเนคอล?” ลดโคเลสเตอรอลสูงสุด 15% ด้วย “แพลนท์ สตานอล”

ข่าวทั่วไป Thursday December 18, 2008 14:33 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--18 ธ.ค.--อินทิเกรเต็ด คอมมูนิเคชั่น สหพัฒน์ เปิดตัว “ฮาร์ทติ เบเนคอล” เครื่องดื่มเสริมอาหารผสม “แพลนท์ สตานอล” นวัตกรรมสุขภาพจากฟินแลนด์ ซึ่งสร้างปรากฏการณ์ใหม่ให้วงการแพทย์ด้วยคุณสมบัติที่ช่วยลดโคเลสเตอรอลชนิดเลว (LDL) สูงสุดถึง 15% ตั้งแต่สัปดาห์ที่ 2 เป็นต้นไป มั่นใจคุณสมบัติของแพลนท์ สตานอล ที่สร้างชื่อให้เบเนคอล เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านโคเลสเตอรอลมาแล้วทั่วโลก และยังได้รับการจัดอันดับจากสถานทูตฟินแลนด์ในประเทศอังกฤษให้เป็น 1 ใน 10 นวัตกรรมที่สร้างชื่อเสียงให้ประเทศฟินแลนด์ โดยทุ่มงบประมาณกว่า 30 ล้านบาท จัดกิจกรรมการตลาดทุกรูปแบบ นายสุรัตน์ เกตุรัตนกุล ผู้จัดการฝ่ายผลิตภัณฑ์ 2 บริษัท สหพัฒนพิบูล จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ก่อนเปิดตัวเครื่องดื่มเสริมอาหาร “ฮาร์ทติ เบเนคอล” สหพัฒน์ได้วิจัยตลาดพบว่ามีโอกาสทางธุรกิจสูง เนื่องจากคนไทยจำนวนมากมีปัญหาโคเลสเตอรอล ซึ่งก่อให้เกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดที่คร่าชีวิตคนไทยมากเป็นอันดับ 2 ขณะเดียวกัน คนไทยจำนวนมากหันมาใส่ใจเรื่องสุขภาพมากขึ้น ส่งผลให้ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพเติบโตขึ้นมากโดยเฉพาะเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพซึ่งมีอัตราการเติบโตเพิ่มกว่า 10% เมื่อเทียบกับเครื่องดื่มชนิดอื่น “ฮาร์ทติ เบเนคอล มีส่วนผสมของแพลนท์ สตานอล ซึ่งจดลิขสิทธิ์ภายใต้แบรนด์เบเนคอล โดยบริษัท ไรซิโอ จำกัด (มหาชน) ยักษ์ใหญ่ด้านผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพจากฟินแลนด์ ซึ่งได้สร้างความฮือฮาในวงการแพทย์เพราะช่วยลดโคเลสเตอรอลชนิดเลวได้อย่างมีประสิทธิภาพ จนได้รับการยอมรับว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านโคเลสเตอรอล และประสบความสำเร็จในการทำตลาดมาแล้วทั่วโลกถึง 28 ประเทศ อาทิ เบลเยี่ยม ฝรั่งเศส เยอรมนี อิตาลี สเปน สวีเดน สวิสเซอร์แลนด์ อังกฤษ อเมริกา” นายสุรัตน์ กล่าว แพลนท์ สตานอล เป็นสารสกัดจากธรรมชาติที่มีอยู่ในข้าวโพด ข้าวสาลี ข้าวไรย์ และพืชอื่นๆ ซึ่งผลวิจัยทางการแพทย์กว่า 50 ผลงาน ระบุว่า สามารถลดโคเลสเตอรอลชนิดเลว (LDL) ได้สูงสุดถึง 15% โดยไม่ส่งผลใดๆ ต่อโคเลสเตอรอลชนิดดี (HDL) และผลวิจัยอีกหลายชิ้นระบุว่าประสิทธิภาพของแพลนท์ สตานอล จะเริ่มแสดงผลตั้งแต่ 2 สัปดาห์เป็นต้นไป โดยจะช่วยยับยั้งการดูดซึมโคเลสเตอรอลจากทางเดินอาหารไม่ให้เข้าสู่กระแสเลือด และขจัดออกผ่านทางระบบขับถ่าย นายสุรัตน์ กล่าวว่า ฮาร์ทติ เบเนคอล มี 2 รสชาติ คือ ส้มและสตรอเบอรี่ จำหน่ายขวดละ 25 บาท เน้นกลุ่มเป้าหมายหลัก คือ ที่ต้องการดูแลตัวเองในเรื่องของโคเลสเตอรอล เป็นการป้องกันไม่ใช่รักษา อายุตั้งแต่ 30 ปีขึ้นไป ดื่มวันละขวดพร้อมอาหารมื้อใดก็ได้ โดยได้ทุ่มงบประมาณกว่า 30 ล้าน เพื่อใช้ดำเนินกิจกรรมการตลาดทุกรูปแบบ สร้างการรับรู้ให้กับกลุ่มเป้าหมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การให้ความรู้กับผู้บริโภค อาทิ จัดโรดโชว์ไปยังอาคารสำนักงานพร้อมรับสมัครสมาชิก การโฆษณาประชาสัมพันธ์ครบวงจร อีกกลยุทธ์หนึ่งที่สหพัฒน์ให้ความสำคัญคือการให้ความรู้เกี่ยวกับโคเลสเตอรอลทั้งเรื่องสาเหตุ การป้องกันและการรักษา จึงได้จัดทำเว็บไซต์ www.toreducecholesterol.com และมี คอลเซ็นเตอร์ Hearti Line 02 296 9955 เพื่อเป็นศูนย์กลางข้อมูลเกี่ยวกับโคเลสเตอรอล และข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ฮาร์ทติ เบเนคอล “จากคุณสมบัติของแพลนท์ สตานอล ที่มีงานวิจัยจากยุโรปและอเมริกายืนยันกว่า 50 ผลงาน ทำให้มั่นใจว่าฮาร์ทติ เบเนคอล? จะประสบความสำเร็จเป็นที่ยอมรับจากผู้บริโภคว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญในการลดโคเลสเตอรอล และบรรลุเป้าหมายทางการตลาดที่ตั้งเป้าไว้ว่าจะมียอดขาย 100 ล้านบาทภายในปี 2552 ซึ่งขณะนี้ฮาร์ทติ เบเนคอล ได้รับการตอบรับจากคู่ค้าเพื่อนำไปวางจำหน่ายแล้วหลายแห่ง อาทิ เซเว่นอีเลฟเว่น ท็อปส์ 108 Shop วิลล่า ฟูจิ อิออน เดอะมอลล์ ฟู้ดแลนด์ รวมทั้งซูเปอร์มาร์เก็ตชั้นนำทั่วไป” นายสุรัตน์ กล่าว นายวินเซนต์ พอร์จาเดียว รองประธาน ธุรกิจด้านส่วนประกอบอาหารและพัฒนาธุรกิจ บริษัท ไรซิโอ จำกัด (มหาชน) ประเทศฟินแลนด์ กล่าวเพิ่มเติมว่า แพลนท์ สตานอล เป็นนวัตกรรมที่นักวิจัยชาวฟินแลนด์คิดค้นเมื่อปี 1972 ซึ่งเป็นช่วงที่ฟินแลนด์ประสบปัญหาคนวัยทำงานเสียชีวิตด้วยโรคหัวใจและหลอดเลือดอุดตันที่มีสาเหตุมาจากโคเลสเตอรอลสูง ซึ่งแพลนท์ สตานอล เป็นสารตัวหนึ่งที่รัฐบาลฟินแลนด์ให้ประชาชนรับประทานจนทำให้อัตราการเสียชีวิตลดลงถึง 70% ภายในเวลา 5 ปี ซึ่งคุณสมบัติของแพลนท์ สตานอล ที่สร้างปรากฏการณ์ให้วงการแพทย์ทั่วโลก ทำให้สถานทูตฟินแลนด์ในประเทศอังกฤษจัดอันดับให้แพลนท์ สตานอล เป็น 1 ใน 10 นวัตกรรมที่สร้างชื่อเสียงให้กับฟินแลนด์ “ไรซิโอได้นำแพลนท์ สตานอล มาพัฒนาให้อยู่ในรูปของเหลว ผง และขี้ผึ้ง โดยใช้ชื่อเบเนคอล ซึ่งสามารถนำไปเป็นส่วนผสมในอาหาร เครื่องดื่ม โดยไม่เสียรสชาติและคุณค่าอาหาร ปัจจุบันได้รับความนิยมในประเทศต่างๆ ถึง 28 ประเทศ โดยประเทศไทยเป็นประเทศล่าสุดลำดับที่ 29 ที่ได้นำเบเนคอล มาเป็นส่วนผสมในเครื่องดื่ม ส่วนในประเทศอื่นได้นำเบเนคอล ไปเป็นส่วนผสมในอาหารหลากหลายรูปแบบ อาทิ นม โยเกิร์ต พาสต้า ขนมปัง คุ้กกี้ มาร์การีน สเปรด ผงแป้งบำรุงกำลัง หมากฝรั่ง น้ำผลไม้ ชา ครีมชีส และเจลาติน เป็นต้น สำหรับการนำเบเนคอล มาเป็นส่วนผสมในเครื่องดื่มเสริมอาหาร ฮาร์ทติ เบเนคอล เพื่อทำตลาดในไทยนั้น ไรซิโอมั่นว่าจะว่าประสบความสำเร็จเช่นเดียวกับเบเนคอล ใน 28 ประเทศที่ประสบความสำเร็จมาแล้ว” นายวินเซนต์ กล่าว ข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ อุษณีย์ ถาวรกาญจน์ บริษัท อินทิเกรเต็ด คอมมูนิเคชั่น จำกัด โทร.0 2354 3588 อีเมล : usanee@incom.co.th

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ