กรุงเทพฯ--28 ส.ค.--ฟิทช์ เรทติ้งส์
บริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด ประกาศคงอันดับเครดิตภายในประเทศ (National Ratings) ระยะยาวของบริษัท ปตท. เคมิคอลจำกัด (มหาชน) (“PTTCH”) ที่ ‘A+(tha)’ แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ นอกจากนี้ ฟิทช์ยังประกาศคงอันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้นของ PTTCH ที่ ‘F1(tha)’ และอันดับเครดิตของหุ้นกู้ในประเทศของบริษัท โดยหุ้นกู้ที่ไม่มีหลักประกันและไม่ด้อยสิทธิคงอันดับเครดิตที่ ‘A+(tha)’ ส่วนหุ้นกู้ที่มีหลักประกันคงอันดับเครดิตที่ AA-(tha) (AA ลบ (tha))
การประกาศคงอันดับเครดิตสืบเนื่องจากการที่บริษัทประกาศซื้อหุ้นที่เหลือจำนวน 50% ของบริษัท พีทีที โพลิเอทิลีน จำกัด (“PTTPE”) และ บริษัท บางกอกโพลีเอททีลีน จำกัด (มหาชน) (“BPE”) จากบมจ ปตท. (“ปตท.”) การซื้อหุ้นดังกล่าวซึ่งมีผลทำให้บริษัทถือหุ้นทั้งหมดใน PTTPE และ BPE เป็นส่วนหนึ่งในแผนการดำเนินธุรกิจปิโตรเคมีของ ปตท. ซึ่งจะให้ PTTCH เป็นตัวแทนหลักในการดำเนินธุรกิจปิโตรเคมีที่ใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นวัตถุดิบ การซื้อหุ้นดังกล่าวซึ่งคาดการณ์ว่าจะต้องใช้เงินประมาณ 3.75 พันล้านบาทรวมกับการลงทุนของ PTTPE ในอนาคตซึ่ง PTTCH จะต้องรวมบัญชีของ PTTPE และ BPE เข้ามาในบัญชีของบริษัท จะทำให้แผนการลงทุนของ PTTCH เพิ่มขึ้นเป็น 9.7 หมื่นล้านบาทในระหว่างปี 2549 ถึง 2553 จาก 5.9 หมื่นล้านบาทก่อนการซื้อหุ้นดังกล่าว เนื่องจากเงินลงทุนที่เพิ่มขึ้นจากแผนการลงทุนเดิมโดยส่วนใหญ่ (ร้อยละ 70) จะใช้เงินจากการเพิ่มทุนของบริษัทจำนวน 2.8 หมื่นล้าน (ซึ่งบริษัทได้ประกาศเพิ่มทุนพร้อมกับการประกาศซื้อหุ้นดังกล่าว) ดังนั้นผลกระทบต่อสถานะทางการเงินของ PTTCH น่าจะมีไม่มากนัก ฟิทช์คาดว่าบริษัทน่าจะสามารถรักษาระดับหนี้สินในช่วงปี 2549 ถึงปี 2553 ให้อยู่ในระดับที่มีความคล่องตัวทางการเงินที่ค่อนข้างสูง โดยอัตราส่วนหนี้สินสุทธิต่อกำไรจากการดำเนินงานก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมและค่าตัดจำหน่าย (net debt to EBITDA) คาดว่าจะอยู่ในระดับที่ต่ำกว่า 2.0 เท่า ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายทางการเงินของกลุ่ม ปตท.
อันดับเครดิตของ PTTCH สะท้อนถึงความสำคัญของบริษัทต่อ ปตท. เนื่องจาก ปตท. มีนโยบายที่จะใช้ PTTCH เป็นตัวแทนหลักในการดำเนินธุรกิจปิโตรเคมีที่ใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นวัตถุดิบ นอกจากนี้ อันดับเครดิตยังอยู่บนพื้นฐานของการที่บริษัทได้รับการสนับสนุนในด้านต่างๆ จากปตท. รวมถึงการที่ PTTCH มีขนาดของกิจการที่ใหญ่และมีสัญญาการจัดซื้อวัตถุดิบในระยะยาวโดยมีโครงสร้างของราคาแบบ Profit Sharing ฟิทช์ยังมองว่าการที่บริษัทได้เข้าไปลงทุนในธุรกิจปิโตรเคมีขั้นปลายจะเป็นการเพิ่มระดับการผลิตแบบครบวงจร ซึ่งจะเป็นส่วนสนับสนุนการเติบโตของรายได้รวมทั้งยังสามารถช่วยลดความผันผวนของรายได้ในระยะยาวอีกด้วย อันดับเครดิตยังพิจารณาถึงการที่ PTTCH มีสถานะทางการเงินที่ค่อนข้างแข็งแกร่ง ในขณะเดียวกัน บริษัทมีปัจจัยความเสี่ยงทางด้านความผันผวนของราคาผลิตภัณฑ์ตามวัฏจักรอุตสาหกรรมปิโตรเคมี รวมถึงความเสี่ยงที่เกิดขึ้นจากการดำเนินงาน (Execution Risk) ที่สืบเนื่องมาจากการลงทุนใหม่และการที่บริษัทมีแผนการลงทุนขนาดใหญ่ในช่วงที่มีการคาดการณ์ว่าวัฏจักรอุตสาหกรรมจะอยู่ในช่วงขาลง นอกจากนี้ การที่ PTTCH ขายผลิตภัณฑ์ส่วนใหญ่ในตลาดในประเทศ ทำให้บริษัทมีความเสี่ยงในด้านการพึ่งพาตลาดเพียงตลาดเดียวค่อนข้างสูง
ติดต่อ: อรวรรณ การุณกรสกุล, เลิศชัย กอเจริญรัตนกุล, Vincent Milton + 662 655 4755
หมายเหตุ : การจัดอันดับเครดิตภายในประเทศ (National Ratings) เป็นการวัดระดับความน่าเชื่อถือในเชิงเปรียบเทียบกันระหว่างองค์กรในประเทศนั้นๆ โดยจะใช้ในประเทศที่อันดับเครดิตแบบสากลของรัฐบาลในประเทศนั้นอยู่ในระดับที่ค่อนข้างต่ำ อันดับเครดิตขององค์กรที่ดีที่สุดของประเทศได้จัดไว้ที่ระดับ “AAA” และการจัดอันดับเครดิตอื่นในประเทศ จะเป็นการเปรียบเทียบความเสี่ยงกับองค์กรที่ดีที่สุดนี้เท่านั้น อันดับเครดิตภายในประเทศได้ถูกจัดทำขึ้นเพื่อใช้ในตลาดในประเทศเป็นหลักและจะมีสัญลักษณ์ที่กำหนดไว้ต่อท้ายจากอันดับเครดิตสำหรับประเทศนั้นๆ เช่น “AAA(tha)” ในกรณีของประเทศไทย ดังนั้นอันดับเครดิตภายในประเทศจึงไม่สามารถใช้เปรียบเทียบระหว่างประเทศได้
คำจำกัดความของอันดับเครดิตและการใช้อันดับเครดิตดังกล่าวของฟิทช์ สามารถหาได้จาก www.fitchratings.com อันดับเครดิตที่ประกาศ หลักเกณฑ์และวิธีการจัดอันดับเครดิต ได้แสดงไว้ในเว็บไซต์ดังกล่าวตลอดเวลา หลักจรรยาบรรณ การรักษาข้อมูลภายใน ความขัดแย้งทางผลประโยชน์ที่อาจเกิดขึ้น แนวทางการเปิดเผยข้อมูลระหว่างบริษัทในเครือ กฏข้อบังคับรวมทั้งนโยบายและกระบวนการที่เกี่ยวข้องอื่นๆของฟิทช์ ได้แสดงไว้ในส่วน ‘หลักจรรยาบรรณ’ ในเว็บไซต์ดังกล่าวเช่นกัน