กรุงเทพฯ--22 ก.ย.--ด็อกเตอร์ ยังเกอร์ คลินิก
รู้ไหม...ผู้หญิงสูญเสียคอลลาเจน ทุก 1% ต่อปี เพื่อผิวพรรณที่สวยสมดุล...มารู้จักกับเทคนิคความงามแนวใหม่ “ฝังเข็มและเลเซอร์” ศาสตร์ผสมผสานจากโลกตะวันออกสู่โลกตะวันตก
ผู้หญิงเมื่ออายุ 20 ปีขึ้นไป จะพบกับภาวะ Micro aging ซึ่งก็คือภาวะที่ธรรมชาติของชั้นผิวหนังจริง คือ เซลล์ Fibroblast ซึ่งทำหน้าที่ผลิตคอลลาเจนทำงานได้ช้าลงอันเนื่องมาจากอายุที่เพิ่มมากขึ้น การผลิตคอลลาเจน ในชั้นผิวจึงทำงานน้อยลงไปด้วย รวมทั้งสิ่งแวดล้อมภายนอกเช่น รังสี ควัน ฝุ่นละออง และมลพิษ ทำให้คอลลาเจนสูญเสียไปในเวลาเดียวกัน โดยพบว่าผู้หญิงจะสูญเสีย Collagen ไปเฉลี่ยแล้ว 1% ต่อปี ดังนั้นอย่าปล่อยให้แต่ละวันที่ล่วงเลยไป ปล่อยปะละเลยการดูแลผิวพรรณ
การดูแลความงามทั้งผิวพรรณและรูปร่างนั้นมีหลากหลายวิธีตามแต่ความถนัดและความสะดวกของแต่ละบุคคล หากแต่จะมีวิธีไหนที่จะเห็นผลอย่างรวดเร็วและได้ผลลัพท์เป็นที่น่าพอใจบ้าง...ล่าสุดจากการสัมมนาพิเศษ “ด็อกเตอร์ ยังเกอร์กับระบบการฝังเข็มร่วมกับนวัตกรรมเลเซอร์ความงาม (LASER-ACUPUNCTURE System)” ทำให้เรารู้ว่าปัจจุบันนี้ มีวิธีดูแลความงามของผิวพรรณและรูปร่างให้สวยเพรียวไปได้พร้อมๆกัน อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยศาสตร์แห่งการผสมผสานสุดยอดเทคโนโลยีอันทันสมัยด้านเลเซอร์เข้ากับศาสตร์แห่งการฝังเข็มอันเก่าแก่ที่มีมายาวนานนับพันปีภายใต้แนวคิด ‘EAST MEETS WEST’ โดย แพทย์หญิงวิไล ธนสารอักษร แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังและเลเซอร์ผิว ได้ให้ความรู้เกี่ยวกับศาสตร์แห่งการผสมผสานเพื่อความงามหรือ LASER-ACUPUNCTURE System นี้ว่าเป็นเทคนิคการนำเลเซอร์เพื่อความงามมาผสานกับเทคนิคการฝังเข็ม ซึ่งเทคนิคนี้สามารถใช้รักษา 2 ประเภทคือ เพื่อผิวพรรณที่สวยงาม และเพื่อรูปร่างที่เพรียวสวย
“ปัจจุบันเลเซอร์เป็นที่นิยมในการนำมาใช้ในแวดวงความงามมากขึ้น เลเซอร์ที่เป็นที่นิยมโดยมากมักจะใช้กับใบหน้าเพื่อลดริ้วรอยเหี่ยวย่น สิว กระ ลบรอยสักคิ้ว กำจัดขนถาวร ไฝ และขี้แมลงวันเป็นต้น นอกจากนี้ยังสามารถนำมาใช้กับเรือนร่างเพื่อลดไขมันและเซลลูไลท์ โดยเทคโนโลยีด้านเลเซอร์ที่ก้าวไกลไปมากทำให้การรักษาในปัจจุบันสะดวกและง่ายดายขึ้น ซึ่งเลเซอร์ที่เป็นที่นิยมมากในขณะนี้คือเลเซอร์กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนเพื่อลดริ้วรอยเหี่ยวย่น เนื่องจากเมื่ออายุ 20 ปีขึ้นไป ผู้หญิงจะพบกับภาวะ Micro aging คือภาวะที่ธรรมชาติของชั้นผิวหนังจริง คือ เซลล์ Fibroblast ซึ่งทำหน้าที่ผลิตคอลลาเจนทำงานได้ช้าลงอันเนื่องมาจากอายุที่เพิ่มมากขึ้น การผลิตคอลลาเจน ในชั้นผิวจึงทำงานน้อยลงไปด้วย รวมทั้งสิ่งแวดล้อมภายนอกเช่น รังสี ควัน ฝุ่นละออง และมลพิษ ทำให้คอลลาเจนสูญเสียไปในเวลาเดียวกัน โดยพบว่าผู้หญิงจะสูญเสีย Collagen ไปเฉลี่ยแล้ว 1% ต่อปี ทั้งนี้เทคโนโลยีเลเซอร์สามารถช่วยแก้ปัญหาตรงจุดนี้ได้ โดยเลเซอร์จะก่อให้เกิดความร้อนเล็กน้อยใต้ผิวหนังเพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ซึ่งชนิดของเลเซอร์ที่ใช้ก็จะแตกต่างกันไปตามลักษณะของริ้วรอย เช่น Aramis Laser เป็นเทคโนโลยีเลเซอร์ที่ทันสมัยมากใช้ในการรักษาริ้วรอยที่อยู่ลึกช่วยชะลอการเกิด Micro aging ได้ดีและเป็นธรรมชาติที่สุด โดยเลเซอร์ชนิดนี้จะสามารถช่วยให้กระตุ้น Collagen ให้เกิดใหม่ กระชับรูขุมขน ผิวนุ่มขึ้น โดยพบว่าด้วยเลเซอร์ชนิดนี้จะทำให้ชั้นผิวหนังมีความหนาขึ้น 11% ทำให้ผิวไม่สูญเสียน้ำ และมีความกระจ่างใสขี้น ทั้งยังลดริ้วรอยลง 41% ทำให้ผิวแลดูเนียนเรียบ อ่อนเยาว์”
“ส่วนการฝังเข็มนั้น เป็นการกระตุ้นระบบประสาทวิธีหนึ่ง สามารถปรับการทำงานของส่วนต่างๆ ภายในร่างกายที่เสียสมดุลให้กลับคืนสู่สภาพปกติ เรียกกระบวนการนี้ว่า Neuromodulation การฝังเข็มเพื่อรักษาโรคก่อกำเนิดมานานนับพันปี และในปัจจุบันได้รับการรับรองจากองค์การอนามัยโรคว่าสามารถรักษาโรคได้ผล ไม่ว่าจะเป็น โรคปวด การติดเชื้อ โรคเกี่ยวกับระบบการหายใจ ระบบประสาท ระบบย่อยอาหาร ระบบหัวใจและหลอดเลือด ระบบทางเดินปัสสาวะและระบบสืบพันธุ์ โรคเลือด โรคทางนรีเวช โรคเด็ก โรคทางอวัยวะสัมผัส โรคผิวหนัง มะเร็ง และโรคทางจิตเวช นอกจากใช้ในการรักษาโรคแล้ว ปัจจุบันการฝังเข็มยังเป็นที่นิยมนำมาใช้เพื่อความงามไม่ว่าจะเป็นผิวพรรณหรือรูปร่าง สามารถช่วยในการปรับสมดุลการทำงานของอวัยวะต่างๆ ภายในร่างกายให้สมดุล แก้ไขการไหลเวียนโลหิตที่ติดขัด และกระตุ้นภูมิต้านทาน ซึ่งสิ่งเหล่านี้ส่งผลโดยตรงกับสภาพผิว โดยปัจจุบันการฝังเข็มพัฒนาก้าวไกลไปมาก สามารถนำมาใช้ที่ใบหน้าเพื่อยกกระชับ ลดสิว ฝ้า ริ้วรอย ทำให้หน้าเปล่งปลั่ง ดูอ่อนเยาว์ การฝังเข็มในแต่ละครั้งจะทิ้งไว้ประมาณ 20-30 นาที สามารถทำได้ทุกวันติดต่อกัน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพและความรุนแรงของสิ่งที่ต้องการรักษา ถือว่าเป็นทางเลือกหนึ่งเพื่อความงามที่ปลอดภัย ไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องความเจ็บปวดเพราะปัจจุบันเทคโนโลยีพัฒนาขึ้นมาก เข็มที่ใช้มีขนาดเล็กลงแต่ประสิทธิภาพดีขึ้น โดยมากจะไม่มีอาการเจ็บปวด”
“แต่ด้วยมลภาวะต่าง ความเครียด และพฤติกรรมการรับประทานอาหารและการใช้ชีวิตของสังคมปัจจุบัน ทำให้ผิวพรรณและรูปร่างเกิดการสะสมสิ่งปลอมปนหรือพิษในร่างกายมากขึ้น ก่อให้เกิดความไม่สมดุลและการไหลเวียนในร่างกายผิดปกติ ทำให้บางครั้งการรักษาด้วยวิธีฝังเข็มหรือเลเซอร์วิธีใดวิธีหนึ่งเพียงอย่างเดียวอาจเห็นผลช้า ดังนั้นก่อนอื่นแพทย์จะตรวจดูว่าภายในเป็นปกติหรือไม่ ซึ่งการฝังเข็มจะเข้าไปทำหน้าที่ปรับระบบต่างๆภายในร่างกายที่เสียสมดุลภายให้กลับคืนสู่ปกติมากขึ้น หรือ ให้การไหลเวียนโลหิตทำงานได้ดีขึ้น ส่งผลให้ผิวหนังและระบบร่างกายมีความพร้อมเต็มที่สำหรับรับการรักษาด้วยเลเซอร์ ดังนั้นการฝังเข็มร่วมกับเลเซอร์ความงามจะได้ผลลัพธิ์ที่มีประสิทธิภาพสูง นี่จึงเป็นที่มาของการนำการฝังเข็มมาทำงานร่วมกับนวัตกรรมเลเซอร์ความงาม หรือ LASER-ACUPUNCTURE System” แพทย์หญิงวิไลกล่าว
“ทั้งนี้การฝังเข็มและการใช้เลเซอร์สามารถทำไปพร้อมๆ กันได้เลย โดยแพทย์จะพิจารณาถึงความเหมาะสมด้านระยะเวลาและวิธีการรักษาเพื่อวางแผนการรักษาโดยใช้สองวิธีนี้ร่วมกันให้ได้ผลสูงสุด สามารถใช้ได้กับทุกส่วนในร่างกายไม่ว่าจะเป็นใบหน้าหรือตัว โดยหลังจากการทำ LASER-ACUPUNCTURE แล้วเพื่อรักษาสภาพความงามของผิวพรรณและรูปร่างให้สวยเพรียวเป็นเวลานาน แพทย์จะแนะนำเคล็ดลับ “6 อ.” เพื่อให้คนไข้กลับไปทำได้เองที่บ้านดังนี้ อาหารและน้ำคือเพิ่มการรับประทานผักผลไม้ วิตามินเกลือแร่ และดื่มน้ำเยอะๆ ลดแป้ง น้ำตาล อาหารทอด มัน แอลกอฮอล์ น้ำอัดลม ออกกำลังกายสม่ำเสมออย่างน้อยอาทิตย์ละ 3 ครั้ง ครั้งละ 20-30 นาทีหรืออาจจะฝึกหายใจ โยคะ ทำสมาธิก็ได้ อากาศที่บริสุทธิ์และควรฝึกหายใจอย่างถูกวิธี เอนหลังโดยพักผ่อนให้เพียงพอ 6-8 ชั่วโมง พยายามนอนหัวค่ำและอย่าใช้ยานอนหลับ อารมณ์ดี คิดในแง่บวก เพราะความเครียดจะทำให้เกิดฮอร์โมนที่เป็นปัญหาและทำให้เลือดเกิดสภาวะเป็นกรด ขาด O2 ทำให้เกิดมะเร็งได้ และอุจจาระ โดยพยายามให้ได้วันละ 1 ครั้ง หลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดอาการท้องผูกเพื่อรักษาสุขภาพของลำไส้ โดยจากการศึกษาพบว่า ท้องผูกอาจเป็นสาเหตุหนึ่งของอาการบวมน้ำ อ้วน ภูมิแพ้ และมะเร็ง”
“สิ่งที่คนรักสวยรักงามทั้งหลายต้องคำนึงถึงคือการเลือกแพทย์และสถานพยาบาลในการเข้ารับบริการ ควรเลือกแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ คลินิกหรือโรงพยาบาลที่ได้มาตรฐาน และปฏิบัติตามคำสั่งแพทย์ทั้งก่อนและหลังการรักษาอย่างเคร่งครัด เพื่อความสวยอย่างปลอดภัยสูงสุด” แพทย์หญิงวิไลกล่าวทิ้งท้าย
สนับสนุนข้อมูลโดย Doctor Younger โทร 0-2261-3697-8
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net