กรุงเทพฯ--25 ธ.ค.--สมาคมผู้ผลิต ผู้ค้าและส่งออกไข่ไก่
นายมงคล พิพัฒสัตยานุวงศ์ นายกสมาคมผู้ผลิต ผู้ค้าและส่งออกไข่ไก่ กล่าวว่า แนวทางแก้ไขปัญหาปริมาณไข่ไก่ล้นตลาดในประเทศอย่างได้ผลเร็วที่สุดคือการระบายไข่ไก่ส่วนเกินไปยังตลาดต่างประเทศ โดยกำหนดปริมาณส่งออกไข่ไก่ในเดือนมกราคม กุมภาพันธ์ และมีนาคม ปี 2552 ที่เดือนละ 200 ตู้คอนเทนเนอร์ จากเดิมที่ส่งออกเพียงเดือนละ 100-150 ตู้คอนเทนเนอร์ ในปี 2551
“ในไตรมาสแรกของปีหน้า สมาชิกสมาคมฯ จะร่วมกันส่งออกไข่ไก่ไปยังฮ่องกงและตะวันออกกลางให้ได้เดือนละ 200 ตู้คอนเทนเนอร์ เพื่อลดปริมาณไข่ในประเทศซึ่งเป็นวิธีที่สามารถช่วยพยุงราคาไข่ในประเทศไม่ให้ตกต่ำลงไปกว่าที่เป็นอยู่ ขณะที่ตลาดต่างประเทศเองก็ให้การยอมรับไข่ไก่จากประเทศไทย ในเรื่องคุณภาพความปลอดภัยอย่างมาก ขณะเดียวกันเกษตรกรผู้เลี้ยงไก่ไข่ทั่วประเทศไทย ต้องพยายามยืนราคาขายไข่คละหน้าฟาร์มที่ฟองละ 2.00 บาทต่อไปด้วย” นายกสมาคมฯ กล่าว
ปัญหาราคาไข่ไก่ตกต่ำเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นต่อเนื่อง ส่งผลกระทบให้เกษตรกรผู้เลี้ยงไก่ไข่ต้องประสบภาวะขาดทุนมาตลอด 3 ปีติดต่อกัน โดยสาเหตุหลักมาจากผลผลิตไข่ไก่ที่ล้นตลาด จากปัจจัยความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีการเลี้ยงไก่ไข่ที่ช่วยเพิ่มผลผลิตได้เป็นอย่างดี สวนทางกับอัตราการบริโภคที่ไม่เพิ่มขึ้นและยังลดน้อยลงในบางช่วง เช่น ภาวะเศรษฐกิจซบเซา นักท่องเที่ยวต่างประเทศลดลง และอัตราคนว่างงานเพิ่มขึ้นในขณะนี้ ทั้งนี้ สมาคมฯได้พยายามหาแนวทางแก้ไขโดยเน้นการอาศัยความร่วมมือกันในกลุ่มของสมาชิกสมาคมฯ เป็นหลัก รวมถึงขอความช่วยเหลือจากภาครัฐในบางกรณี
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ
นายมงคล พิพัฒสัตยานุวงศ์
โทร. 081-862-5248