กรุงเทพฯ--25 ธ.ค.--ซีพีเอฟ
ดร.สัจจา ระหว่างสุข รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส ด้านการปรับปรุงพันธุ์สุกร บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอฟ เปิดเผยว่า ซีพีเอฟเป็นผู้นำในธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรมและอาหาร ที่มีวิสัยทัศน์มุ่งสู่การเป็นครัวของโลก (Kitchen of the World) และได้ทุ่มเทด้านการพัฒนาและปรับปรุงสายพันธุ์สุกรอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด ตั้งแต่การคัดเลือกสุกรสายพันธุ์ดี เพื่อทำการพัฒนาและปรับปรุงพันธุ์ ขณะนี้จึงสามารถผลิต หมูดำซีพี คูโรบูตะ (Kurobuta) สุกรสายพันธุ์ใหม่ ที่มีความนุ่มของเนื้อมากกว่าเนื้อสุกรปกติกว่า 30 % เป็นลักษณะเด่น เนื่องจากมีไขมันแทรกในชั้นกล้ามเนื้อมากขึ้น ทำให้มีรสชาติที่ชุ่มฉ่ำอร่อยถูกปากผู้บริโภค โดยซีพีเอฟถือเป็นบริษัทแรกในประเทศไทยที่สามารถผลิตเนื้อสุกรชนิดนี้ได้สำเร็จ
“ซีพีเอฟ มุ่งมั่นผลิตอาหารคุณภาพอย่างครบวงจรตั้งแต่ต้นทางจนถึงมือผู้บริโภค การผลิตสินค้าด้วยความใส่ใจในทุกขั้นตอนจึงถือเป็นหัวใจสำคัญ กระบวนการผลิตเนื้อสุกรสดอนามัยตราซีพี จึงเริ่มตั้งแต่การคัดเลือกสายพันธุ์สุกรชั้นดี ผนวกกับการเลือกใช้อาหารสัตว์คุณภาพสูง โดยเลี้ยงสุกรในระบบโรงเรือนปิดปรับอากาศด้วยการระเหยของน้ำ (อีแว๊ป) ซึ่งเป็นโรงเรือนมาตรฐาน ภายใต้ระบบการจัดการฟาร์มที่มีประสิทธิภาพ มีระบบการควบคุมและป้องกันโรคป้องกันโรคอย่างเข้มงวด เพื่อให้สามารถผลิตสุกรที่มีสุขภาพดีและลดการใช้ยาปฏิชีวนะ ทั้งหมดนี้ถือเป็นหลักการ 5 หัวใจการเลี้ยงสัตว์ ที่บริษัทยึดถือปฏิบัติมาโดยตลอด ทำให้ได้สุกรพันธุ์แท้ของซีพีเอฟ ซึ่งเป็นพ่อ-แม่พันธุ์สุกรที่มีพันธุกรรมที่ดี สามารถผลิตลูกสุกรที่มีลักษณะเด่นคือ เลี้ยงง่าย โตเร็ว แข็งแรง ซึ่งตรงกับความต้องการของผู้เลี้ยงสุกรขุน นอกจากนี้ยังมีไขมันบาง และมีเนื้อแดงมาก โดยที่ไม่จำเป็นต้องใช้ยาหรือสารเร่งใดๆ ถือเป็นการลดสารปนเปื้อนและสารตกค้างที่อาจเป็นอันตรายต่อผู้บริโภค ส่งผลให้ได้เนื้อสุกรสดอนามัยตราซีพี ที่มีคุณภาพ ปลอดสาร ปลอดภัย สะอาด และสดใหม่เสมอ ที่สำคัญยังสามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ในทุกขั้นตอนการผลิต เป็นที่ถูกใจของคนรักสุขภาพที่นิยมบริโภคอาหารประเภท Food Safety เป็นอย่างยิ่ง” ดร.สัจจา กล่าว
นอกจากนี้ ซีพีเอฟยังให้มีระบบติดตามสุขภาพสุกรอย่างสม่ำเสมอเพื่อเฝ้าระวังและป้องกันโรคร้ายแรง โดยเฉพาะโรค PRRS (โรคทางระบบสืบพันธุ์และระบบทางเดินหายใจ) ซึ่งหากเกิดการระบาดขึ้น จะสร้างความเสียหายต่ออุตสาหกรรมสุกรเป็นอย่างมาก เพราะต้องใช้ยารักษาจำนวนมาก จึงเสี่ยงต่อสารตกค้างในเนื้อสุกร โดยในปัจจุบันซีพีเอฟได้ทำการผลิตสุกรปลอดโรค PRRS ตั้งแต่ฟาร์มระดับทวดพันธุ์ ไปจนถึงฟาร์มสุกรขุน ดังนั้นผู้บริโภคจึงสามารถวางใจได้ว่าเนื้อสุกรสดอนามัยของซีพีเอฟ มาจากฟาร์มสุกรปลอดโรค ที่ได้มาตรฐาน ปลอดสาร ปลอดภัย และเหมาะต่อการบริโภคอย่างแท้จริง
ทั้งนี้ ดร.สัจจา กล่าวยังกล่าวด้วยว่า สำหรับความสำเร็จในการผลิตหมูดำซีพี คูโรบูตะ ที่นอกจากจะได้หมูเนื้อนุ่มรสชาดดีแล้ว ยังสามารถปรุงเป็นอาหารได้หลากหลาย แต่วิธีที่นิยมปรุงด้วยเนื้อคูโรบูตะมากที่สุด คือ ชาบู ชาบู (shabu shabu) เนื้อกระทะญี่ปุ่น (teppanyaki) และสเต็ก (steak) โดยได้ออกผลิตภัณฑ์ใหม่จากสายพันธุ์สุกรที่ได้พัฒนาขึ้นมา เน้นฐานลูกค้าที่ต้องการเนื้อคุณภาพดีและพึงพอใจกับการบริโภคเนื้อ ที่มีความนุ่ม (tenderness) และชุ่มฉ่ำ (juiciness) เป็นหลัก ซึ่ง 2 ผลิตภัณฑ์ใหม่ ได้แก่ หมูดำซีพี คูโรบูตะ พอร์คชอพ และหมูดำซีพี คูโรบูตะ พอร์คชอพ สเต็กส์ ที่หมักด้วยเครื่องปรุงสูตรพิเศษจนเข้าถึงเนื้อใน เพียงนำไปย่างก็จะได้เนื้อสเต็กส์ที่ นุ่ม หวาน ฉ่ำ และกลิ่นหอมเป็นพิเศษ โดยปัจจุบันมีวางจำหน่ายแล้วที่ร้านซีพี เฟรชมาร์ท
สำนักสื่อสารและประชาสัมพันธ์ CPF โทร. 0-2625-7344-5, 0-2631-0641, 0-2638-2713 e-mail : pr@cpf.co.th