พฤติกรรมลูกค้า “บ้านมือสอง” ซื้อบ้านเพื่อแก้ 5 ข้อปัญหาของการอยู่อาศัย

ข่าวทั่วไป Monday April 17, 2006 13:30 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--17 เม.ย.--ธนาคารอาคารสงเคราะห์
กระแสการตอบรับที่เกิดขึ้นจากการจัดงาน “มหกรรมบ้านมือสองแห่งชาติ” ซึ่งจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 9-11 กันยายน 2548 เป็นเสมือนการส่งสัญญาณให้ผู้ที่เกี่ยวข้องกับวงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ประเภทที่อยู่อาศัย หันมาให้ความสำคัญกับ “ตลาดบ้านมือสอง” มากขึ้น กลุ่มนักลงทุนรายย่อยเริ่มมองหาโอกาสในการสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่อสังหาริมทรัพย์ประเภทบ้านมือสอง กลุ่มสถาบันการเงินเริ่มหันมาเพิ่มความสำคัญกับการจัดแคมเปญสินเชื่อเพื่อสนับสนุนลูกค้าประเภทที่ต้องการขอสินเชื่อเพื่อซื้อบ้านมือสอง ที่สำคัญคือสามารถกระตุ้นธุรกิจตัวแทนและนายหน้าให้ได้รับความสนใจขึ้นมาอีกครั้ง
พฤติกรรมของผู้บริโภคที่มีความต้องการซื้อบ้านมือสอง เป็นอย่างไร ? คือสิ่งที่หลายฝ่ายต้องการคำตอบ ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ จึงใช้วิธีการสำรวจข้อมูลภาคสนามเพื่อหาคำตอบในประเด็นดังกล่าว โดยสำรวจจากกลุ่มผู้เข้าชมงานมหกรรมบ้านมือสอง 4 มุมเมืองใน 4 ทำเล ในช่วงเวลาที่ต่างกันกล่าวคือระหว่างเดือนมกราคม-มีนาคม 2549 โดยการสำรวจครั้งที่ 1 เป็นผลสำรวจผู้เข้าชมงานมหกรรมบ้านมือสอง 4 มุมเมือผู้เข้าชมงานมหกรรมบ้านมือสอง 4 มุมเมือง ซึ่งจัดขึ้น ณ ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลปิ่นเกล้า ระหว่างวันที่ 19-24 มกราคม 2549 ครั้งที่ 2 สำรวจผู้เข้าชมงานมหกรรมบ้านมือสอง 4 มุมเมือง ณ ห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์งานวงศ์วาน ระหว่างวันที่ 3-5 กุมภาพันธ์ 2549 ครั้งที่ 3 จัดขึ้นที่ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลลาดพร้าว ระหว่างวันที่ 17-19 กุมภาพันธ์ 2549 และครั้งที่ 4 สำรวจจากผู้เข้าชมงานมหกรรมบ้านมือสอง 4 มุมเมือง ซึ่งจัดที่ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลบางนา ระหว่างวันที่ 2-6 มีนาคม 2549 :ซึ่งครอบคลุมพื้นที่ 4 มุมเมืองของกรุงเทพมหานครฯ และปริมณฑล โดยผลสำรวจพฤติกรรมผู้บริโภคที่อยู่อาศัยมือสองใน 4 มุมเมือง สามารถสรุปผลการสำรวจได้ดังนี้
มหกรรมบ้านมือสอง4มุมเมืองสะท้อนกำลังซื้อที่แท้จริง
ผู้ตอบแบบสอบถามทั้ง 4 ทำเลของการจัดงานมหกรรมบ้านมือสอง 4 มุมเมือง มากกว่าร้อยละ 56.4-63.1 เป็นกลุ่มผู้ซื้อบ้านที่มีความต้องการซื้อที่อยู่อาศัยมือสองทันทีภายในระยะเวลา 3-12 เดือน (หลังจากการจัดงาน) ซึ่งถือว่าเป็นกลุ่มผู้ที่มีความต้องการซื้อที่แท้จริง โดยกลุ่มผู้สนใจซื้อบ้านมือสองประมาณร้อยละ 29-33 ปัจจุบันเป็นเจ้าของที่อยู่อาศัยและไม่มีภาระการผ่อนชำระ แม้จะเป็นการซื้อบ้านมือสองเพื่อเป็นการลงทุน หรือซื้อไว้เป็นทรัพย์สิน ก็จะไม่มีปัญหาด้านกำลังซื้อ หรือหากขอใช้บริการสินเชื่อในระบบสถาบันการเงินจะไม่มีปัญหาเช่นกัน
กลุ่มรายได้ต่อครัวเรือนระดับ 20,001-50,000 บาทคือฐานกำลังซื้อหลัก
จากการสำรวจผู้เข้าร่วมชมงานทั้ง 4 ทำเล พบว่า ส่วนใหญ่มีรายได้ต่อครัวเรือนที่ระดับ 20,001-50,000 บาทต่อเดือน โดยคิดเป็นร้อยละ 40.6, 42.4, 41.4 และ 41.9 จากการเก็บรวบรวมข้อมูลจากสถานที่จัดงาน ณ ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลปิ่นเกล้า เดอะมอลล์งามวงศ์วาน เซ็นทรัลลาดพร้าว และเซ็นทรัลบางนาตามลำดับ
โดยสถานที่จัดงาน ณ เซ็นทรัลปิ่นเกล้า และเดอะมอลล์งามวงศ์วาน มีอันดับรายได้ต่อครัวเรือน ตรงกันทุกอันดับ คือ รายได้ระดับ 10,001-20,000 บาทเป็นอันดับที่ 2 คิดเป็นร้อยละ 29.0 และ 21.2 ตามลำดับ อันดับที่ 3 มีรายได้ต่อครัวเรือนอยู่ที่ระดับ 50,001-100,000 คิดเป็นร้อยละ 13.4 และ 16.3 ตามลำดับ
ส่วนระดับรายได้ที่ 7,500-10,000 บาทต่อเดือน คิดเป็นร้อยละ 8.5 และ 12.2 ตามลำดับ ลำดับต่อมาคือ มีรายได้ มากกว่า 100,000 บาทต่อเดือน คิดเป็นร้อยละ 7.6 และ 7.3 และสุดท้ายรายได้ต่อเดือนต่ำกว่า 7,500 คิดเป็นร้อยละ 0.9 และ 0.4 ตามลำดับ
ในขณะที่ทำเลการจัดงาน ณ ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลลาดพร้าว และเซ็นทรัลบางนา มีลำดับของรายได้ครัวเรือนต่อเดือนเหมือนกัน คือ มีรายได้ระดับ 50,001-100,001 บาทต่อเดือน คิดเป็นร้อยละ 21.7 และ 27.4 ตามลำดับ กลุ่มที่มีรายได้ระดับ 10,001-20,000 บาทต่อเดือน คิดเป็นร้อยละ 20.5 และ 12.6 ตามลำดับ ส่วนผู้ที่มีรายได้มากกว่า 100,000 บาทต่อเดือน คิดเป็นร้อยละ 11.9 และ 10.7 ตามลำดับ ต่อมาเป็นผู้ที่มีรายได้ระดับ 7,500-10,000 บาทต่อเดือน คิดเป็นร้อยละ 3.7 และ 6.0 ตามลำดับ สุดท้ายเป็นกลุ่มผู้มีรายได้ต่ำกว่า 7,500 บาทต่อเดือน คิดเป็นร้อยละ 0.8 และ 1.4 ตามลำดับ
บ้านมือสองราคา 1-3 ล้านบาท ตลาดยังต้องการ
นอกจากนี้จากผลการสำรวจยังพบด้วยว่าผู้ตอบแบบสอบถามทั้ง 4 ทำเล ของการจัดงานมหกรรมบ้านมือสอง 4 มุมเมือง จำนวนประมาณร้อยละ 46-59 ต้องการซื้อบ้านมือสองในระดับราคาตั้งแต่ 1-3 ล้านบาท โดยกลุ่มตัวอย่างที่เดอะมอลล์งามวงศ์วาน มีสัดส่วนถึงร้อยละ 45.7 กลุ่มตัวอย่างที่เซ็นทรัลบางนา ต้องการซื้อบ้านมือสองในระดับราคาเดียวกันนี้ ร้อยละ 50.9 ขณะที่กลุ่มตัวอย่างที่ เซ็นทรัลปิ่นเกล้า มีความต้องการถึงร้อยละ 57.7 และกลุ่มตัวอย่างที่ เซ็นทรัลลาดพร้าว ร้อยละ ร้อยละ 58.6
ส่วนวงเงินต่ำกว่า 1 ล้านบาทเป็นวงเงินที่ผู้ตอบมีความต้องการเป็นอันดับรองลงมา และมีสัดส่วนมากพอสมควร กล่าวคือ ร้อยละ 25.4-41.2 ของผู้ชมงาน โดยที่เซ็นทรัลลาดพร้าว มีความต้องการซื้อบ้านมือสองในระดับราคาดังกล่าวร้อยละ 25.4- ขณะที่ เซ็นทรัลบางนา มีความต้องการร้อยละ 29.9, mujเซ็นทรัลปิ่นเกล้ามีความต้องการซื้อบ้านในระดับราคาไม่เกิน 1 ล้านบาทร้อยละ 33.8 และที่เดอะมอลล์งามวงศ์วานมีความต้องการซื้อบ้านมือสองในระดับราคาเดียวกันนี้สูงที่สุดถึงร้อยละ 41.2 ซึ่งกลุ่มผู้ตอบแบบสอบถามทั้ง 4 ทำเล ต้องการเลือกผ่อนชำระกับทางสถาบันการเงินมากกว่าร้อยละ 84.0-88.6 ที่เหลือจะซื้อด้วยเงินสด และบ้านเดี่ยว-บ้านแฝด ยังคงเป็นประเภทที่อยู่อาศัยที่ได้รับความสนใจสูงสุด
เป้าหมายการซื้อบ้านมือสองเพื่อแก้ปัญหาที่อยู่อาศัย
จากผลการสำรวจข้อมูลมีประเด็นที่น่าสนใจคือ ทั้ง 4 ทำเล พบว่าผู้ตอบแบบสอบถามมีปัญหาที่อยู่อาศัยมากถึง ร้อยละ 70.7-77.6 ต้องการซื้อบ้านมือสองเพื่อแก้ปัญหาเกี่ยวกับพื้นที่ใช้สอยและขนาดของบ้านที่พักอาศัยอยู่ในปัจจุบัน ร้อยละ 57.7 — 63.2 ต้องการซื้อบ้านมือสองเพื่อแก้ปัญหาด้านสภาวะแวดล้อม การเสียเวลาและค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปทำงาน ความปลอดภัยในทรัพย์สิน ห่างไกลสิ่งอำนวยความสะดวก และปัญหาการเงิน
สำหรับเหตุผลที่น่าสนใจต่อการแก้ปัญหาที่อยู่อาศัยโดยการย้ายที่อยู่อาศัยใหม่นั้นพบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามทั้ง 4 ทำเลการจัดงานมหกรรม ให้เหตุผลว่าการซื้อที่อยู่อาศัยใหม่นั้นเพื่อต้องการเก็บไว้เป็นทรัพย์สิน มากที่สุดอันดับแรก คิดเป็นร้อยละ 59.3-68.7 ซึ่งเหตุผลที่เหลือส่วนใหญ่ ต้องการเก็บไว้ให้ลูกหลาน พ่อแม่, หรือการมีเงินออมเพียงพอ, จำเป็นต้องย้ายภูมิลำเนา เป็นต้น
ปัจจัยประกอบการพิจารณาในการซื้อบ้านมือสอง 5 อันดับแรก
ทั้งนี้ผลการสำรวจยังระบุถึงปัจจัยประกอบการพิจารณาซื้อบ้านมือสอง 5 อันดับแรก โดยระบุว่าผู้ตอบแบบสอบถามทั้ง 4 ทำเล ต้องการซื้อบ้านมือสองที่มีข้อดีดังนี้ 1.ทางเข้าออกสะดวก 2. ต้องใกล้สิ่งอำนวยความสะดวก 3. ต้องมีสภาพแวดล้อมที่ดี 4.มีรูปแบบเป็นไปตามต้องการ และ5.ใกล้ที่ทำงานเดิม
ทั้งนี้ ผลการสำรวจครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงความต้องการที่อยู่อาศัยมือสองที่แท้จริงของผู้ตอบแบบสอบถาม เนื่องจากผู้ตอบส่วนใหญ่มีแผนการซื้อที่อยู่อาศัยมือสองภายในระยะเวลา 3-12 เดือน และที่สำคัญคือ สัดส่วนหรือร้อยละของคำตอบหรือความต้องการของผู้ตอบในแต่ละประเด็นเป็นไปในทางเดียวกันหรือใกล้เคียงกัน นั่นเป็นเหตุให้ข้อมูลที่ได้มีความน่าเชื่อถือมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม ผลการสำรวจข้อมูลที่ได้ในครั้งนี้สามารถใช้พิจารณาประกอบการวางแผนกลยุทธ์หรือนโยบาย หรือแก้ไขปัญหาได้เพียงในพื้นที่ 4 ทำเลที่มีการสำรวจพฤติกรรมการซื้อบ้านมือสองของกลุ่มเป้าหมายเท่านั้น ความหลากหลายของสถานการณ์ และสภาวะแวดล้อมของแต่ละพื้นที่และช่วงเวลาอาจมีผลต่อการแก้ไขปัญหาหรือวางนโยบายหรือกลยุทธ์เชิงลึกได้ในโอกาสต่อไป.
ฝ่ายประชาสัมพันธ์และบริการข้อมูล
ศูนย์ข้อมูลอสังหารนิมทรัพย์ 0-2645-9675-6 หรือ 01-402-7560 /ณัฎติกา นาคสุบรรณ

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ