อมก๋อย...พื้นที่แห่งการรอโอกาสทางการศึกษา

ข่าวทั่วไป Friday December 26, 2008 10:35 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--26 ธ.ค.--แม็กซิม่า คอนซัลแตนท์ การให้สิ่งใดก็ไม่มีคุณค่าเท่ากับการให้โอกาส...มูลนิธิคาร์ฟูร์และคาร์ฟูร์ประเทศไทย ล่าสุด ได้จัดกิจกรรม “พี่ๆ คาร์ฟูร์ ตะลุยดอย พบน้องๆ อมก๋อย” โดยพาเหล่าผู้ใหญ่ใจดีกว่า 70 ชีวิต บุกดอย เพื่อไปสัมผัสและติดตามชีวิตความเป็นอยู่ของเด็กและเยาวชนชาวไทยภูเขา ในโครงการพัฒนาชีวิตเด็กและเยาวชน ในศูนย์การเรียนรู้ชาวไทยภูเขา (แม่ฟ้าหลวง) อ.อมก๋อย จ.เชียงใหม่ โครงการในพระราชดำริในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ซึ่งเป็นโครงการที่คาร์ฟูร์ได้ให้การสนับสนุนมาตลอดตั้งแต่ปี พ.ศ.2544 โดยได้บริจาคเงินอย่างต่อเนื่องรวมกว่า 30 ล้านบาท ในการสร้างศูนย์การเรียนรู้ชุมชนชาวไทยภูเขาไปแล้วถึง 92 แห่ง พร้อมติดตั้งอุปกรณ์ที่ใช้ในการเรียนและสื่อการเรียนการสอน เพื่อเป็นแหล่งการเรียนรู้ด้วยตนเองสำหรับเด็กที่ด้อยโอกาสบนดอยสูง ตลอดจนพัฒนาความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ผ่านการสนับสนุนสิ่งอำนวยความสะดวก และสาธารณูปโภค ทั้งระบบประปาภูเขา แผงพลังงานแสงอาทิตย์เพื่อผลิตไฟฟ้า รวมทั้งการมอบทุนการศึกษาแก่เด็กๆ ในโครงการฯ โดยก่อนหน้านี้ได้จัดกิจกรรม “น้องๆ อมก๋อยตะลุยกรุงเทพฯ” โดยพาเด็กๆ บนดอยกว่า 30 ชีวิตลงไปเก็บเกี่ยวประสบการณ์ ในการเที่ยวชมสถานที่สำคัญต่างๆ ในกรุงเทพฯ ที่เปรียบเสมือนห้องเรียนแห่งใหม่ในชีวิต และครั้งนี้ คาร์ฟูร์ นำโดย มร.ฟิลิปป์ โบรยานิโก กรรมการผู้จัดการ ห้างคาร์ฟูร์ ประเทศไทย ได้บริจาคสิ่งของต่างๆ อุปกรณ์การเรียน รวมทั้งผ้าห่มกันหนาวจำนวน 500 ผืน แก่เด็กและเยาวชนชาวไทยภูเขาที่บ้านหลังป่าข่า อ.อมก๋อย เพื่อเป็นการแบ่งปันสิ่งดีๆ และความห่วงใยถึงกัน บ้านหลังป่าข่า มีประชาชน 259 คน รวม 60 ครอบครัว 50 หลังคาเรือน มีศูนย์การเรียนรู้ชุมชนชาวไทยภูเขา 1 ศูนย์ คือ ศูนย์การเรียนรู้ชุมชนชาวไทยภูเขา (แม่ฟ้าหลวง) บ้านหลังป่าข่า เปิดสอนตั้งแต่เตรียมอนุบาล 1 โดยปัจจุบันมีเด็กนักเรียนทั้งหมด 41 คน เด็กนักเรียนจากหมู่บ้านอื่นอีก 14 คน มีครู 2 คน คือ ครูเฉลิมภรณ์ ณัฐธยานนท์ ครูอาสาสมัคร ผู้ช่วยครู กศน. และครูนุชจิเรศ บัวขาว ครูอาสาสมัคร กศน. ครูต่าย — นุชจิเรศ บัวขาว อายุ 32 ปี ครูอาสาสมัคร กศน. ที่เสียสละเวลาและความสุขส่วนตนมาสอนหนังสือที่ศูนย์การเรียนรู้ชุมชนชาวไทยภูเขา (แม่ฟ้าหลวง) บ้านหลังป่าข่า หมู่บ้านหลังป่าข่า ตั้งแต่ปี 2541 ครูต่ายเล่าถึงการทำงานกว่า 10 ปีในฐานะแม่พิมพ์ของชาติด้วยรอยยิ้มแห่งความภาคภูมิใจ ว่า “การศึกษาที่นี่ตอนนี้ดีขึ้น มีพัฒนาการมากขึ้น เมื่อก่อนพ่อแม่จะไม่ให้ลูกเรียนหนังสือสูง เด็กผู้หญิงอายุ 14 ปีก็เตรียมตัวจะแต่งงานแล้ว แต่เดี๋ยวนี้ 7-8 ขวบเริ่มทยอยมาเรียนหนังสือ พอจบประถมฯ ก็อยากเรียนในระดับมัธยมฯ มากขึ้น ซึ่งต้องไปเรียนไกลจากหมู่บ้าน ต้องไปอยู่หอพัก ที่ศูนย์ฯ จะสอนภาษาไทยและคณิตศาสตร์ เพราะเราอยากให้เด็กของเราพูดได้ อ่านได้ เขียนได้ และคิดเลขเป็น ซึ่งตอนนี้นักเรียนที่ศูนย์ฯ เรียนสูงสุดที่ ป.3 มีคนเดียวคือ จุ๊เป ด.ช.สมชาย ต่วยซอ นอกจากเรียนที่ศูนย์ฯ ก็มีการเรียนทางไกลผ่านดาวเทียม เวลาสอนเราใช้ภาษาไทยปนภาษากระเหรี่ยง ตอนนี้ที่ศูนย์ฯ ต้องการความช่วยเหลือเรื่องสภาพศูนย์ที่ไม้เริ่มผุพัง หนังสือมีจำนวนน้อย โดยเฉพาะสื่อเสริมทักษะเด็กเล็ก” ครูต่ายเผยจุดเริ่มต้นอาชีพเรือจ้างว่า “เราเรียนจบวิทยาลัยชุมชน และมาเรียนต่อที่ราชภัฎลำปาง และที่เลือกมาสอนหนังสือที่นี่ เพราะเห็นว่าการศึกษายังเข้าไม่ถึง เด็กๆ ขาดโอกาสทางการศึกษา และที่สำคัญเราเป็นคนเชียงใหม่ ถ้าเราไม่ช่วยเด็กของเรา แล้วจะรอให้ใครมาช่วย สิ่งที่ครูอยากจะเห็นคือเด็กๆ ได้เรียนหนังสือสูงๆ มีอนาคตที่ดีกว่านี้ ไม่ต้องมาลำบากเหมือนพ่อแม่ของเขา” ท้ายสุด ครูต่ายยังได้ฝากถึงเยาวชนในเมืองว่า “อยากให้เห็นคุณค่าของการเรียนหนังสือ เด็กในเมืองไม่เคยรู้หรอกว่าเด็กบนดอยขาดโอกาสทางการศึกษาอีกเยอะ สมุดทุกหน้าต้องใช้จนเต็ม ดินสอต้องใช้จนกุดจริงๆ จนจับไม่ได้จึงจะทิ้งได้ ทุกอย่างที่นี่มีคุณค่าหมดเลย ดังนั้น จึงอยากให้เด็กๆ ที่มีโอกาสได้เรียนจงเรียนอย่างเต็มที่ด้วยความตั้งใจ เพราะการศึกษาจะสามารถพัฒนาต่อยอดให้เรารู้เท่าทันกับสิ่งต่างๆ รอบตัว เมื่อมีโอกาสจงรีบคว้าโอกาสนั้นเสีย เพราะโอกาสจะสร้างคน และคนจะสร้างชาติต่อไป” ด.ช.สมชาย ต่วยซอ หรือ จุ๊เป อายุ 11 ปี นักเรียนชั้น ป.3 ตัวแทนศูนย์การเรียนรู้ชุมชนชาวไทยภูเขา (แม่ฟ้าหลวง) บ้านหลังป่าข่า หนึ่งเดียวที่ได้มีโอกาสมาสัมผัสชีวิตคนเมืองในกรุงเทพฯ กับกิจกรรม “น้องๆ อมก๋อยตะลุยกรุงเทพฯ” เล่าว่า “ชีวิตความเป็นอยู่ของพวกเรา พ่อแม่จะทำไร่ข้าวเป็นหลัก ยามว่างก็จะรับจ้างเก็บมะเขือเทศ หรือทอผ้า ผมมาเรียนที่ศูนย์ฯ ทุกวัน ตั้งแต่วันจันทร์ — เสาร์ เวลา 8.30 — 16.00 น. ส่วนวันอาทิตย์นั้นจะไปโบสถ์ เพราะพวกเรานับถือศาสนาคริสต์ นิกายโปรแตสแตนท์ การได้เรียนหนังสือผมมีความสุขมาก ผมอยากเรียนสูงๆ โตขึ้นจะได้เป็นหมอ เพราะผมอยากรักษาคน อยากช่วยคน อยากช่วยพ่อแม่และคนในหมู่บ้าน เวลาที่เห็นเขาไม่สบาย น่าสงสารมาก และถ้ามีโอกาสอีก ผมก็อยากกลับไปกรุงเทพฯ อีกครั้ง ที่กรุงเทพฯ สนุกและมีความสุขมาก ผมได้เห็นอะไรหลายอย่างที่ไม่เคยเห็น ที่ชอบที่สุดคือที่สยามโอเชียนเวิล์ด ที่นั่นมีปลาตัวใหญ่ๆ ให้ดู ผมไม่เคยเห็น กลับมาก็มาเล่าเรื่องปลาตัวใหญ่ให้แม่กับพ่อและน้องๆ ฟัง ตอนนี้หน้าหนาว อากาศบนดอยหนาวมาก ผมและที่บ้านต้องนอนข้างกองไฟ ห่มผ้าและใส่เสื้อกันหนาวเพื่อบรรเทาความหนาว” ประชาชนทั่วไปสามารถเข้าร่วมช่วยเหลือโครงการพัฒนาชีวิตเด็กและเยาวชน ในศูนย์การเรียนรู้ชาวไทยภูเขา (แม่ฟ้าหลวง) อ.อมก๋อย จ.เชียงใหม่ โครงการในพระราชดำริในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี นี้ ร่วมกันได้ ผ่านทางตู้รับบริจาคที่คาร์ฟูร์ทุกสาขาทั่วประเทศ โดยเงินที่ได้จะนำขึ้นทูลเกล้าถวายแด่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ต่อไป หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ บริษัท แม็กซิม่า คอนซัลแตนท์ จำกัด โทร. 0-2434-8300, 0-2434-8547 คุณสุจินดา, คุณแสงนภา, คุณปิติยา ฝ่ายประชาสัมพันธ์ ห้างคาร์ฟูร์ โทร.0-2625-4668 คุณวัชระ

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ