กรุงเทพฯ--26 ธ.ค.--กลุ่มการประชาสัมพันธ์ สำนักงานปลัดกระทรวงการคลัง
ครม. เห็นชอบขยายเวลาช่วยผู้ประกอบอาชีพก่อสร้าง ให้มีหนังสือขอความช่วยเหลือได้ถึง 5 มกราคม 2552 นี้
นายมนัส แจ่มเวหา รักษาการที่ปรึกษาด้านพัฒนาระบบการเงินการคลัง ในฐานะโฆษกกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า ตามที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเมื่อวันที่ 17 มิถุนายน 2551 เห็นชอบมาตรการการให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการก่อสร้างในด้านต่าง ๆ เช่น การชะลอการยกเลิกสัญญา การขยายระยะเวลาสัญญา หรือเพิ่มระยะเวลาสัญญา และการจ่ายเงินล่วงหน้า เป็นต้น ซึ่งในส่วนของการให้ขยายระยะเวลาสัญญาได้ให้ขยายอีกไม่เกิน 180 วัน สำหรับสัญญาที่มีระยะเวลาน้อยกว่า 180 วัน ก็ให้ขยายได้เท่าอายุสัญญา โดยผู้ประกอบการที่ขอรับความช่วยเหลือแจ้งความประสงค์ต่อหน่วยงานคู่สัญญา ภายในวันที่ 18 สิงหาคม 2551 แต่เนื่องจากในมติ ครม. ดังกล่าว มีบางกรณียังไม่ชัดเจนต้องมีการตีความกัน และมีบางสัญญาต้องตีความว่าเป็นงานก่อสร้างหรือไม่ จึงได้เสนอ ครม. พิจารณา เพื่อให้เกิดความชัดเจนยิ่งขึ้น และได้มีมติเห็นชอบเมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2551
ในสาระสำคัญคือ ให้มีผลกับผู้ประกอบการที่ได้ทำสัญญา ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2550 จนถึงวันที่ ครม. มีมติคือ
17 มิถุนายน 2551 และกรณีการจ่ายเงินล่วงหน้า 15% ก็ให้รวมถึงสัญญาที่ลงนามตั้งแต่ 17 มิถุนายน 2551 —
30 กันยายน 2551 ด้วย
นายมนัส แจ่มเวหา กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากนั้น ยังได้เสนอให้ผู้ประกอบอาชีพอื่นด้วยได้รับการช่วยเหลือตามมาตรการดังกล่าวด้วย เช่น สัญญาซื้อขายงานก่อสร้างและหรือพร้อมติดตั้งโครงสร้างพื้นฐานซึ่งไม่ใช่สัญญาก่อสร้างโดยเฉพาะ แต่มีงานซื้อขายรวมอยู่ด้วย กรณีนี้ก็ให้หน่วยงานคู่สัญญาพิจารณาลักษณะของสัญญาเอง หากมีงานก่อสร้างเป็นสาระสำคัญ ซึ่งมีราคาสูงกว่าราคาพัสดุที่ติดตั้งก็ให้ถือเป็นงานก่อสร้าง เพื่อให้การช่วยเหลือตามมาตรการดังกล่าว โดย ครม. มีมติให้ขยายระยะเวลาการยื่นขอรับสิทธิ์ ออกไปอีก 30 วัน สำหรับการขอรับสิทธิ์นั้น ผู้ประกอบการที่ได้ยื่นคำขอต่อหน่วยงานคู่สัญญาไว้แล้วไม่ต้องยื่นใหม่อีก แต่หากผู้ประกอบการที่ยังไม่ได้ยื่นคำขอก็สามารถยื่นขอรับสิทธิ์ได้ ภายในวันที่ 5 มกราคม 2552 นี้