กรุงเทพฯ--29 ธ.ค.--ทอท.
นาย เสรีรัตน์ ประสุตานนท์ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ รักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) เปิดเผยว่า เนื่องจากในช่วงเทศกาลปีใหม่นี้จะมีประชาชนเดินทางมาใช้บริการสนามบินเพิ่มมากขึ้น ซึ่งจะทำให้มีจำนวนเที่ยวบินและผู้โดยสาร รวมถึงผู้มาใช้บริการท่าอากาศยานมากกว่าปกติ ตนจึงได้กำชับให้ท่าอากาศยานทุกแห่งที่อยู่ในความดูแลของ ทอท.เข้มงวดในเรื่องการรักษาความปลอดภัยและการอำนวยความสะดวกให้ผู้มาใช้บริการในช่วงเวลานี้
สำหรับท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) ระหว่างวันที่ 25 ธ.ค.51- 5 ม.ค.52 มีสายการบินต่าง ๆ ให้บริการเฉลี่ยวันละประมาณ 660 เที่ยวบิน เป็นเที่ยวบินภายในประเทศ จำนวนประมาณ 172 เที่ยวบิน และเที่ยวบินต่างประเทศ จำนวน 448 เที่ยวบิน โดยคาดว่าจะมีผู้โดยสารใช้บริการประมาณ 984,000 คน โดยเป็นผู้โดยสารระหว่างประเทศ ประมาณ 787,000 คน ผู้โดยสารภายในประเทศประมาณ 196,800 คน นอกจากนี้ยังมีสายการบินประจำและสายการบินเช่าเหมาลำ จำนวน 24 สายการบิน ได้ขอเพิ่มเที่ยวบินพิเศษเพิ่มเติมจากเที่ยวบินปกติอีกจำนวน 277 เที่ยวบิน เป็นเที่ยวบินภายในประเทศ 102 เที่ยวบิน ซึ่งเป็นของการบินไทย 56 เที่ยวบิน และของบางกอกแอร์เวย์ 46 เที่ยวบิน นอกจากนี้ ทสภ.ยังได้จัดตั้งศูนย์ประสานงานในการอำนวยความสะดวกและความปลอดภัย หมายเลขโทรศัพท์ 02-132-5900-2 ซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่ ทสภ. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ราชาเทวะและตำรวจท่องเที่ยวประจำอยู่ตลอด 24 ชั่วโมง รวมทั้งจัดให้มีบริการทางด้านข้อมูลการใช้บริการต่างๆ ภายในท่าอากาศยานผ่าน Call Center หมายเลขโทรศัพท์ 02-132-1888
ท่าอากาศยานดอนเมือง (ทดม.) บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) และ บริษัท สายการบินนกแอร์ จำกัด ได้มีการเพิ่มเที่ยวบินในช่วงเทศกาลปีใหม่ ตั้งแต่วันที่ 28 ธ.ค.51 - 5 ม.ค.52 ทั้งขาเข้าและขาออก จำนวน 8 เที่ยวบิน มีผู้โดยสารขาเข้าจำนวน 520 คน ผู้โดยสารขาออกจำนวน 600 คน สำหรับมาตรการด้านการรักษาความปลอดภัย มีศูนย์รักษาความปลอดภัย ทดม. เป็นศูนย์กลางการประสานงาน จัดเตรียมกำลังคน วัสดุอุปกรณ์ให้เพียงพอต่อการดูแลความปลอดภัยแก่ผู้โดยสาร ประสานข้อมูลการจราจรกับสถานีตำรวจวิภาวดี สถานีตำรวจดอนเมือง กรมสารวัตรทหารอากาศ เพื่ออำนวยความสะดวกด้านจราจรและดูแลความปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สินผู้ใช้บริการ ทดม.ตลอดจนขอความร่วมมือ สถานีวิทยุ จส.100 หรือ สวพ.91 ประชาสัมพันธ์ทราบกรณีเกิดปัญหาการจราจรติดขัด เพิ่มความเข้มงวดในการตรวจค้นผู้โดยสารและสัมภาระ เตรียมพร้อมรถดับเพลิงตลอด 24 ชั่วโมง
ในส่วนของท่าอากาศยานภูมิภาค ซึ่งประกอบด้วย ท่าอากาศยานเชียงใหม่ (ทชม.) มีเที่ยวบินพิเศษในช่วงเทศกาลปีใหม่ ระหว่างวันที่ 30 ธ.ค.51 - 4 ม.ค.52 เพิ่มขึ้นทั้งหมด 34 เที่ยวบิน เป็นเที่ยวบินขาเข้า 17 เที่ยวบิน และเที่ยวบินขาออก 17 เที่ยวบิน ท่าอากาศยานหาดใหญ่ (ทหญ.) พร้อมให้บริการเที่ยวบินตามปกติตามตารางการบินฤดูหนาว ตั้งแต่วันที่ 26 ต.ค. 51 -28 มี.ค.51 โดยมีสายการบินไทย 4 เที่ยวบินต่อวัน สายการบินนกแอร์ 3 เที่ยวบินต่อวัน สายการบินไทยแอร์เอเชีย 5 เที่ยวบินต่อวัน และสายการบินวันทูโกแอร์ไลน์
1 เที่ยวบินต่อวัน ซึ่งเป็นบริการเที่ยวบินตามปกติ ท่าอากาศยานภูเก็ต (ทภก.) มีเที่ยวบินพิเศษในช่วงเทศกาล
ปีใหม่ โดยการบินไทยจัดเที่ยวบิน ตั้งแต่วันที่ 26 ธ.ค.51 - 4 ม.ค.52 ทั้งเที่ยวบินขาเข้าและขาออก รวม 24 เที่ยวบินและท่าอากาศยานเชียงราย (ทชร.) มีเที่ยวบินพิเศษ ซึ่งเป็นเครื่องบินเช่าเหมาลำ ได้แก่ สายการบินซิลแอร์ (สิงคโปร์) ไพรเวท ลิมิเต็ด เส้นทางบิน สิงคโปร์ - เชียงราย - สิงคโปร์ ทำการบินในช่วงเทศกาลปีใหม่ 1 เที่ยวบินเมื่อวันที่ 25 ธ.ค.51 โดยใช้เครื่องบิน AIRBUS A 320 มีจำนวน 142 ที่นั่ง เที่ยวบินที่ MI 777 ออกจากสิงคโปร์เวลา 21.10 ถึง ทชร.เวลา 23.15 น. และเที่ยวบิน MI 778 ออกจาก ทชร. เวลา 00.05 น.
และเพื่อสนองนโยบายของกระทรวงคมนาคมเกี่ยวกับการให้บริการประชาชนในเทศกาลสำคัญ ทอท.จึงได้จัดตั้งศูนย์รักษาความปลอดภัย กระทรวงคมนาคมขึ้นทุกท่าอากาศยานดังนี้
- ศูนย์รักษาความปลอดภัย กระทรวงคมนาคม ณ ทชม. หมายเลขโทรศัพท์ 053-922-111 และ 053-922-205
- ศูนย์รักษาความปลอดภัย กระทรวงคมนาคม ณ ทหญ. หมายเลขโทรศัพท์ 074-227-135
- ศูนย์รักษาความปลอดภัย กระทรวงคมนาคม ณ ทภก. หมายเลขโทรศัพย์ 076-351-135
- ศูนย์รักษาความปลอดภัย กระทรวงคมนาคม ณ ทชร. หมายเลขโทรศัพท์ 053-789-180
นายเสรีรัตน์ ยังได้กล่าวเพิ่มเติมด้วยว่า ด้านการบริการและอำนวยความสะดวกให้กับผู้โดยสาร นั้น ได้มีการเพิ่มจำนวนรถขนส่งสาธารณะ โดยเพิ่มเที่ยววิ่งและความถี่ เพิ่มสิ่งอำนวยความสะดวกด้านการจราจร จัดหน่วยบริการทางการแพทย์ และจัดเตรียมรถเข็นกระเป๋าให้ผู้โดยสารใช้เพียงพอ และต่อเนื่อง สะดวก รวดเร็ว นอกจากนี้ ทอท.ยังจัดเจ้าหน้าอำนวยความสะดวกแนะนำผู้โดยสารให้ทราบในการใช้บริการด้านต่างๆ ภายในอาคารได้อย่างรวดเร็ว ทั้งนี้เพื่อให้ผู้มาใช้บริการที่ท่าอากาศยานที่อยู่ในความดูแลของ ทอท.ได้รับความสะดวก รวดเร็วและปลอดภัย ซึ่งถือเป็นปัจจัยสำคัญในการให้บริการของ ทอท.