คอนติเนนตอล: สหประชาชาติเดินหน้าระบบ ESC ยกระดับความปลอดภัยของรถยนต์ทั่วโลก

ข่าวยานยนต์ Monday December 29, 2008 15:29 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--29 ธ.ค.--พีอาร์ แอนด์ แอสโซซิเอส ผลการวิจัยเป็นจำนวนมากได้พิสูจน์ว่าระบบป้องกันล้อล็อค หรือ Electronic Stability Control (ESC) มีความสามารถในการช่วยชีวิตผู้ขับขี่จากอุบัติเหตุ และบัดนี้คอนติเนนตอลได้ก้าวไปอีกขั้นนอกเหนือจาก ESC เพื่อช่วยผู้ขับขี่ให้ได้รับความปลอดภัยมากขึ้น ด้วยการนำเสนอผลิตภัณฑ์อีกหลายชนิด บริษัทคอนติเนนตอลผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์รายใหญ่ของโลก กล่าวยกย่องคณะทำงานเพื่อความปลอดภัยในการใช้รถขององค์กรสหประชาชาติ (United Nations auto safety working group) และสมาคมความปลอดภัยในการใช้เส้นทางหลวงและการจราจรแห่งชาติ (National Highway and Traffic Safety Administration - NHTSA) ภายหลังจากที่ได้มีการประกาศให้ ระบบป้องกันล้อล็อค หรือ Electronic Stability Control (ESC) เป็นข้อบังคับใช้ทางเทคนิคสากล / Global Technical Regulation (GTR) สำหรับผู้ขับขี่รถยนต์นั่งส่วนบุคคล ข้อบังคับทางเทคนิคสากลนี้เป็นไปตามตามพระราชบัญญัติมาตรฐานการใช้ยานพาหนะอย่างปลอดภัยแห่งสหรัฐอเมริกาเกี่ยวกับระบบป้องกันล้อล็อค หรือ ESC ปี 2550 ที่ระบุว่า ภายในปี 2555 ระบบป้องกันล้อล็อคหรือ ESC จะเป็นข้อบังคับสำหรับรถยนต์นั่งส่วนบุคคลที่จำหน่ายในสหรัฐอเมริกา ทั้งนี้ทำให้สหภาพยุโรป จีน อินเดีย และญี่ปุ่น ต้องเดินตามแนวทางของสหรัฐอเมริกา และเสนอพระราชบัญญัติเกี่ยวกับ ESC ตามข้อสรุปของคณะทำงานดังกล่าว ดอกเตอร์คาร์ล โธมัส นอยแมน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายเทคนิค และกรรมการบริหารของคอนติเนนตอล ออโตโมทีฟ กล่าวว่า “นับเป็นข่าวดีสำหรับผู้ขับขี่ทั่วโลกที่จะได้รับประโยชน์ในการช่วยชีวิตจากระบบ ESC” “เป้าหมายแรกของความปลอดภัยในการขับขี่ยวดยานบนท้องถนน ก็คือการหาทางป้องกันไม่ให้เกิดการชนหรือปะทะกัน และระบบ ESC ก็เป็นหนึ่งในเทคโนโลยีที่ดีที่สุดในขณะนี้ บริษัท คอนติเนตอล ออโตโมทีฟ เป็นผู้ริเริ่มนำระบบนี้มาเข้าสู่ตลาด โดยทำงานร่วมกับรัฐบาล กลุ่มส่งเสริมความปลอดภัย และกลุ่มลูกค้าที่เป็นผู้ผลิตรถยนต์ เพื่อให้มั่นใจว่าผู้ซื้อรถมีความเข้าใจว่าระบบ ESC เป็นอุปกรณ์รักษาความปลอดภัยที่ “จำเป็น” ต่อการเลือกซื้อรถในครั้งถัดไป” อุบัติเหตุบนท้องถนนคือหนึ่งในสาเหตุหลักของการเสียชีวิตและการบาดเจ็บสาหัสในคนหลายกลุ่มอายุทั่วโลก และความผิดพลาดที่เกิดจากผู้ขับขี่ก็เป็นปัจจัยสำคัญที่สุดที่ก่อให้เกิดอุบัติเหตุดังกล่าว “เมื่อเป็นเช่นนี้ ผู้ขับขี่จึงต้องการอุปกรณ์เพื่อหลีกเลี่ยงสถานการณ์ฉุกเฉินในการสัญจรประจำวันและเพื่อช่วยป้องกันการชนหรือปะทะ” ดอกเตอร์ราล์ฟ เครเมอร์ หัวหน้าฝ่ายแชสซีและความปลอดภัยของคอนติเนน ตอลกล่าว “ESC จะแก้ไขอาการแกว่งท้ายของรถรถยนต์ (over steer) และ อาการเลี้ยวช้าของพวงมาลัย (under steer) โดยอัตโนมัติ และช่วยให้รถยังประคองตัวอยู่บนถนน ESC จะทำการการเปรียบเทียบทิศทางที่ผู้ขับขี่ต้องการบังคับรถไป และทิศทางที่รถมุ่งหน้าไปในขณะนั้น หากตรวจพบว่ามีความขัดแย้งเกิดขึ้น ESC จะทำการเบรกในแต่ละล้อ และลดทอนกำลังบิดเพื่อช่วยให้รถยังอยู่ภายใต้การควบคุมของผู้ขับขี่ ดอกเตอร์นอยแมนยังกล่าวถึงผลการศึกษาจำนวนมากในเอเชีย ยุโรป และอเมริกาเหนือที่พิสูจน์ให้เห็นว่า ESC สามารถรักษาชีวิตคนนับพัน และสามารถลดจำนวนการชนและปะทะได้อย่างมีนัยยะสำคัญ เฉพาะในสหรัฐอเมริกาจากการศึกษาของรัฐบาลพบว่า ในช่วงเวลา 1 ปี ESC สามารถรักษาไว้ได้กว่า 10,000 ชีวิต ESC จึงเป็นอุปกรณ์เพื่อความปลอดภัยในรถยนต์ที่ดีที่สุดอย่างเป็นทางการถัดจากเข็ดขัดนิรภัย “ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา รถยนต์ที่มีการติดตั้ง ESC มีจำนวนเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ กล่าวคือเพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 50 ในสหรัฐอเมริกาในปี 2550 ร้อยละ 50 ในสหภาพยุโรป และร้อยละ 25 ในญี่ปุ่น” “ดังนั้นยังมีโอกาสสำหรับการพัฒนาขึ้นไปอีกในอนาคต” ดอกเตอร์นอยแมนกล่าว ในปี 2550 บริษัทคอนติเนนตอลเป็นผู้นำอันดับสองของตลาดโลกในการจัดหาระบบ ESC จำนวน 8.6 ล้านให้แก่กลุ่มลูกค้า OEM (Original Equipment Manufacturer) “ต้องถือว่าเราได้ค้นพบเทคโนโลยีเพื่อการลดอุบัติเหตุและการบาดเจ็บที่สำคัญแล้ว” ดอกเตอร์เครเมอร์ กล่าว “ESC เป็นพัฒนาการที่สำคัญของการหลีกเลี่ยงการชนและปะทะ เป็นจุดที่ผู้ผลิตรถยนต์และผู้จัดหาชิ้นส่วนรถยนต์เน้นเป็นอย่างแรก” เซ็นเซอร์ที่ถูกปรับปรุงขึ้น กับขีดความสามารถของโพรเซสเซอร์และอิเล็กทรอนิกส์ทำให้การต่อกรกับสาเหตุของการชนและปะทะในวงกว้างเป็นสิ่งที่เป็นไปได้ นอกจากนี้ คอนติเนนตอลยังก้าวไปอีกขั้นหนึ่งในการหลีกเลี่ยงต่อการชนและปะทะ และการจัดการเพื่อการขับขี่อย่างปลอดภัย โดยการรวบรวมข้อเด่นและข้อด้อยของระบบความปลอดภัยเข้าไปรวมกับระบบความปลอดภัยของคอนติการ์ด (ContiGuard? Safety System) เท่ากับคอนติเนนตอลได้เปิดมิติใหม่เรื่องความปลอดภัยที่เรียกว่า “Continental’s Vision Zero” หรือวิสัยทัศน์ใหม่ของการขับเคลื่อนที่อุบัติเหตุเป็นศูนย์ หมายถึงการเสียชีวิตและบาดเจ็บสาหัสจากอุบัติเหตุบนท้องถนนจะไม่เกิดขึ้นเลย “คอนติเนนตอลรู้สึกว่านี่คือช่วงเวลาที่น่าตื่นเต้นที่สุด ในการทำงานด้านความปลอดภัย” ดอกเตอร์นอยแมนกล่าว “การมีข้อบังคับทางเทคนิคระดับโลกยังหมายถึง ผู้จัดหา ESC ไม่ว่าจะเป็นผู้ผลิตชิ้นส่วนอย่างคอนติเนนตอล หรือบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ จะมีมาตรฐานเดียว ไม่มากไปกว่านั้น เพราะนี่จะนำไปสู่การพัฒนาปรับปรุงประสิทธิภาพลดต้นทุนและยังเป็นการลดทอนการออกแบบที่ตอบสนองตลาดได้เพียงตลาดเดียว ซึ่งต้องเสียเวลาทดสอบมากขึ้น และต้องมีข้อกำหนดในการผลิตต่าง ๆ มากขึ้น” กลุ่มคอนติเนนทอล คอร์ปอเรชั่น เป็นหนึ่งในผู้ผลิตและส่งมอบชิ้นส่วนยานยนต์ชั้นนำลำดับต้นๆ ของโลก และคาดว่ายอดขายในปี 2551 นี้จะมากกว่า 26.4 พันล้านยูโร หรือประมาณ 1.32 ล้านล้านบาท (1,320 พันล้านบาท) ในฐานะที่กลุ่มคอนติเนนทอล เป็นผู้จัดหาผลิตภัณฑ์ชิ้นส่วนยานยนต์ที่สำคัญ ได้แก่ ระบบเบรก ระบบและชิ้นส่วนสำหรับระบบส่งกำลังและแชสซี หน้าปัดรถยนต์ อุปกรณ์เพิ่มความบันเทิงในรถยนต์ ระบบอิเลคโทรนิกส์ในยานยนต์ ยางรถยนต์และยางสังเคราะห์ เป็นต้น กลุ่มคอนติเนนทอล มุ่งมั่นพัฒนาระบบและส่งเสริมให้เกิดความปลอดภัยในการขับขี่สูงสุด อีกทั้งร่วมกันปกป้องสภาพแวดล้อมของโลกด้วย นอกจากนี้ คอนติเนนทอลยังเป็นพันธมิตรทางธุรกิจที่เข้มแข็งในการพัฒนาเครือข่ายการสื่อสารที่ใช้ในยานยนต์ ปัจจุบัน กลุ่มคอนติเนนทอล คอร์ปอเรชั่น มีพนักงานประมาณ 150,000 คน ในสำนักงานกว่า 200 แห่งใน 36 ประเทศทั่วโลก สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ Kim Tan Continental Communications ASEAN 2455, Mk.1, Tingkat Perusahaan 2A Prai Industrial Estate, Malaysia Phone: + 60 4 3819-100 / E-mail: kim.tan@continental-corporation.com คุณปัณรษี ไทยวัชรามาศ บริษัท พีอาร์ แอนด์ แอสโซซิเอส จำกัด โทรศัพท์ 0-2651-8989 ต่อ 222 อีเมล์ : panarasee@prassociates.net

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ