กรุงเทพฯ--5 ม.ค.--ก.ไอซีที
นายสือ ล้ออุทัย ปลัดกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เปิดเผยว่า กระทรวงฯ ได้จัดทำโครงการคอมพิวเตอร์เพื่อชุมชนและประชาชนทั่วไปขึ้น โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในทุกระดับชั้นและสร้างศักยภาพให้กับธุรกิจและอุตสาหกรรมไอซีทีภายในประเทศ รวมทั้งสร้างมาตรฐานให้กับผู้ประกอบการไอซีทีในการสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน ภาครัฐ และภาคเอกชนในชุมชนนั้นๆ ตลอดจนเพื่อหามาตรการส่งเสริมให้ประชาชนมีการใช้ไอซีทีมากยิ่งขึ้น ลดช่องว่างของสังคมหรือความเหลื่อมล้ำในสังคมที่เกิดจากโอกาสในการเข้าถึงสารสนเทศที่ไม่เท่าเทียม
โดยได้มีการจัดตั้งคณะกรรมการจัดทำโครงการคอมพิวเตอร์เพื่อชุมชนและประชาชนทั่วไป ที่มีปลัดกระทรวงฯ เป็นประธาน และมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภายในและภายนอกกระทรวงไอซีที ได้แก่ บมจ.ทีโอที บมจ.กสท โทรคมนาคม สำนักงบประมาณ กรมสรรพากร ธนาคารออมสิน ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย ร่วมเป็นคณะกรรมการฯ ดำเนินงาน
“คณะกรรมการฯ ชุดนี้จะทำหน้าที่ศึกษา พร้อมทั้งกำหนดรูปแบบมาตรฐานผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารให้กับธุรกิจร้านค้าทั่วประเทศ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภค รวมทั้งเสนอแนะแนวทาง มาตรการในการส่งเสริมและกระตุ้นการใช้จ่ายของประชาชนในทุกภาคส่วน เพื่อให้มีการบริโภคสินค้าไอซีทีให้มากขึ้นในประเทศ ทั้งนี้ เพื่อช่วยสร้างโอกาสในการเข้าถึงผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร และส่งเสริมผู้ประกอบการไทยให้เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันกับผลิตภัณฑ์ต่างประเทศได้อย่างมีมาตรฐานเทียบได้กับสากล” นายสือ กล่าว
สำหรับแนวทางการดำเนินงานเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์โครงการฯ นั้น แบ่งเป็น 3 แนวทาง คือ การนำมาตรการลดหย่อนภาษีมาสนับสนุนโครงการ เช่น การลดหย่อนภาษีให้กับผู้บริจาคที่ต้องการซื้อสินค้าไอซีทีให้กับชุมชนต่างๆ การให้สินเชื่อพิเศษกับผู้ซื้ออุปกรณ์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เพื่อเป็นการกระตุ้นการซื้อของประชาชน และการประชาสัมพันธ์โครงการ เช่น การเผยแพร่ทางสื่อประชาสัมพันธ์ต่างๆ หรือการลงนามบันทึกข้อตกลงร่วมกันของผู้บริจาคกับหน่วยงาน ตลอดจนการมอบนโยบายจากส่วนกลางไปยังองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเพื่อใช้งบประมาณในการสนับสนุนศูนย์คอมพิวเตอร์เพื่อชุมชน
“ในการดำเนินงานตามแนวทางดังกล่าวนั้นจะต้องมีการตั้งคณะทำงานเพื่อพิจารณากำหนดหลักเกณฑ์ต่างๆ ที่ช่วยให้การปฏิบัติงานเป็นไปตามความเหมาะสม เช่น การพิจารณาชุมชนที่ได้รับการบริจาค การกำหนดกลุ่มผู้ซื้อที่จะได้รับสินเชื่อพิเศษ เป็นต้น” นายสือ กล่าว