กรุงเทพฯ--5 ม.ค.--ปภ.
ศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ ๒๕๕๒ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย สรุปสถิติอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ ๕๒ (วันที่ ๑ ม.ค. ๕๒ เกิดอุบัติเหตุทางถนน รวม ๘๕๑ ครั้ง ผู้เสียชีวิต ๘๓ ราย ผู้บาดเจ็บ ๙๐๙ ราย รวมสะสม ๓ วัน(๓๐ ธ.ค. ๕๑ — ๑ ม.ค.๕๒) เกิดอุบัติเหตุทางถนน รวม ๒,๓๒๙ ครั้ง ผู้เสียชีวิต ๒๒๖ คน ผู้บาดเจ็บ ๒,๕๐๔ คน ทั้งนี้
ได้สั่งการให้จังหวัดจัดตั้งจุดชะลอความเร็วในจุดเสี่ยงประจำหมู่บ้าน วางแผนปรับย้ายจุดตรวจให้สอดคล้องกับสภาพปัญหา โดยเฉพาะเส้นทางสายหลักที่ใช้เดินทางกลับ มุ่งเน้นตรวจรถที่บรรทุกผู้โดยสารจำนวนมาก รวมทั้งจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังจุดเสี่ยงเป็นพิเศษ เช่น ทางโค้ง จุดกลับรถ เป็นต้น
นายมานิต นพอมรบดี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ประธานแถลงข่าวสถิติอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ ๒๕๕๒ ประจำวันที่ ๑ ม.ค. ๕๒ เปิดเผยว่า ศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่๒๕๕๒ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้รวบรวมสถิติอุบัติเหตุทางถนนประจำวันที่๑ ม.ค. ๕๒ ซึ่งเป็นวันที่สามของการรณรงค์ช่วง ๗ วันระวังอันตราย พบว่า เกิดอุบัติเหตุ รวม ๘๕๑ ครั้ง มากกว่าปี ๕๑ (๘๑๘ครั้ง) ๓๓ ครั้ง ร้อยละ ๔.๐๓ ผู้เสียชีวิต ๘๓ คน มากกว่าปี ๕๑ (๗๐ คน) ๑๓ คน ร้อยละ ๑๘.๕๗ ผู้บาดเจ็บ ๙๐๙ คน มากกว่าปี ๕๑ (๘๗๗ คน)๓๒ คน ร้อยละ ๓.๖๕ สาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ เมาสุรา ร้อยละ ๕๑.๗๐ รองลงมา ขับรถเร็วเกินกำหนด ร้อยละ ๒๑.๘๖ พฤติกรรมเสี่ยงที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุ ได้แก่ ไม่สวมหมวกนิรภัย ร้อยละ ๕๑.๖๑ รองลงมา เมาสุรา ร้อยละ ๔๕.๖๗ ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ รถจักรยานยนต์ ร้อยละ ๘๕.๑๒ ส่วนใหญ่เกิดในเส้นทางตรง ร้อยละ ๕๕.๒๓ บนถนน อบต. หมู่บ้าน ร้อยละ ๓๗.๖๐ ช่วงเวลาที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ช่วงกลางคืน ร้อยละ ๖๙.๙๒ โดยเฉพาะช่วงเวลา ๑๖.๐๑ — ๒๐.๐๐ น. ร้อยละ ๒๔.๒๑ ผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่อายุต่ำกว่า ๒๕ ปี ร้อยละ ๔๕.๖๗ จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ สุรินทร์ ๔๓ ครั้ง รองลงมา ได้แก่ สงขลา ๓๕ ครั้ง จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุด ได้แก่ เชียงราย ๙ คน รองลงมา นครสวรรค์ ๗ คน จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสูงสุด ได้แก่ สุรินทร์ ๔๘ คน รองลงมา จันทบุรี ๓๓ คน นครราชสีมา และสงขลา จังหวัดละ ๓๒ คน ทั้งนี้ ได้จัดตั้งจุดตรวจหลัก ๒,๙๙๖ จุด เพิ่มขึ้นจากวันที่ ๓๑ ธ.ค.๕๑ ๒๒ จุด เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน ๗๗,๗๒๘ คน เพิ่มขึ้นจากวันที่ ๓๑ ธ.ค.๕๑ ๑,๔๓๖ คน เรียกตรวจยานพาหนะ ๗๔๑,๕๖๘ คัน มีผู้ถูกดำเนินคดีตามมาตรการ ๓ ม. ๒ข. ๑ร. รวม ๕๔,๖๐๑ ราย ไม่มีใบขับขี่ ๑๙,๖๘๑ ราย ร้อยละ ๓๖.๐๕ รองลงมา ไม่สวมหมวกนิรภัย ๑๗,๙๖๙ ราย ร้อยละ ๓๒.๙๑
สรุปอุบัติเหตุทางถนนสะสม ๓ วัน (๓๐ ธ.ค. ๕๑ — ๑ ม.ค. ๕๒) รวม ๒,๓๒๙ ครั้ง มากกว่าปี ๕๑ (๑,๙๖๕ ครั้ง) ๓๖๔ ครั้ง ร้อยละ ๑๘.๕๒ ผู้เสียชีวิตรวม ๒๒๖ คน มากกว่าปี ๕๑(๑๘๘ คน) ๓๘ คน ร้อยละ ๒๐.๒๑ ผู้บาดเจ็บรวม ๒,๕๐๔ คน มากกว่าปี ๕๑ (๒,๑๓๑ คน) ๓๗๓ คน ร้อยละ ๑๗.๕๐ จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสะสมสูงสูด ได้แก่ สุรินทร์ ๙๓ ครั้ง รองลงมา เชียงราย ๘๓ ครั้ง
จังหวัดที่ยังไม่เกิดอุบัติเหตุ ได้แก่ ยโสธร จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสะสมสูงสุด ได้แก่ เชียงราย ๑๔ คน รองลงมา นครราชสีมา นครสวรรค์ จังหวัดละ ๙ คน จังหวัดที่ยังไม่มีผู้เสียชีวิต มี ๑๒ จังหวัด จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสะสมสูงสุด ได้แก่ สุรินทร์ ๑๐๑ คน รองลงมา นครราชสีมา เชียงราย จังหวัดละ ๘๕ คน
นายมานิต นพอมรบดี กล่าวต่อไปว่า สถิติอุบัติเหตุทางถนนส่วนใหญ่ เกิดขึ้นกับรถจักรยานยนต์ที่ใช้ความเร็วสูงในถนนสายรอง จึงได้สั่งการให้จังหวัดจัดตั้งจุดชะลอความเร็วในจุดเสี่ยงประจำหมู่บ้าน ปรับย้ายจุดตรวจให้เหมาะสมกับสภาพปัญหาอุบัติเหตุทางถนนในพื้นที่ โดยเฉพาะเส้นทางสายหลักที่ใช้เดินทางกลับ จัดเตรียมรถกู้ชีพกู้ภัยเปิดสัญญาณไฟ เตรียมพร้อมในจุดเสี่ยง เพื่อเตือนให้ผู้ขับขี่เพิ่มความระมัดระวังมากยิ่งขึ้น รวมทั้งจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังเป็นพิเศษตามบริเวณจุดเสี่ยงของจังหวัด เช่น ทางโค้ง คอขวด จุดกลับรถ เป็นต้น โดยมุ่งเน้นการตรวจจับรถที่บรรทุกผู้โดยสารจำนวนมาก เพื่อตรวจสอบผู้ขับขี่ และป้องกันการเกิดอุบัติเหตุใหญ่จากความอ่อนล้า และเมาสุรา หากตรวจพบรถบรรทุกผู้โดยสารเกินกว่ากำหนด ผู้ขับขี่เมาสุราจะถูกดำเนินคดีขั้นเด็ดขาด นอกจากนี้ ขอความร่วมมือผู้ปกครองให้ดูแลตักเตือนบุตรหลานมิให้โทรศัพท์ก่อกวนการทำงานของเจ้าหน้าที่รับแจ้งเหตุสายด่วน ๑๖๖๙ หากตรวจพบการกระทำผิดจะถูกดำเนินการตามกฎหมาย ปรับไม่เกิน ๕,๐๐๐ บาท
นายอนุชา โมกขะเวส อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เลขานุการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน กล่าวเตือนผู้ขับรถ ให้เพิ่มความระมัดระวังมากยิ่งขึ้น เนื่องจากตามแหล่งท่องเที่ยว และหมู่บ้านมีการจัดงานเทศกาล ทำให้มีปริมาณยานพาหนะมากกว่าปกติ และขอให้หลีกเลี่ยงการจอดรถซื้อของฝากบริเวณริมสองข้างทางอย่างเด็ดขาด เพราะนอกจากจะทำให้การจราจรติดขัดแล้ว ยังก่อให้เกิดอุบัติเหตุได้ง่ายขึ้นด้วย สำหรับผู้ขับรถผ่านเส้นทางลงโค้งลาดชัน อย่าใช้ความเร็วสูง เพราะเป็นสาเหตุให้เกิดอุบัติเหตุได้ง่าย นอกจากนี้ คาดว่าในวันที่๓ — ๔ ม.ค. ๕๒ ประชาชนจะทยอยเดินทางกลับจำนวนมาก ขอให้จังหวัดประสานงานกับจังหวัดข้างเคียงอย่างใกล้ชิด เพื่อจัดเตรียมช่องทางพิเศษเร่งระบายรถ ตลอดจนตรวจสอบสภาพความเรียบร้อยของเส้นทางการจราจร ป้ายสัญญาณจราจร หากไม่เรียบร้อย ให้ดำเนินการแก้ไขโดยเร็ว
นายอนุชา กล่าวต่อว่า วันนี้เป็นวันขึ้นปีใหม่ คาดว่าประชาชนยังคงมีการเฉลิมฉลองเทศกาลปีใหม่ตามสถานที่ต่างๆ จำนวนมาก และแม้ว่าสถิติการเรียกตรวจรถจักรยานยนต์ในช่วงเทศกาลปีใหม่ ๒๕๕๒ จะเพิ่มขึ้นแต่รถจักรยานยนต์ยังคงเป็นยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุและก่อให้เกิดความสูญเสียมากที่สุด ขอให้จังหวัดจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวัง และเพิ่มความเข้มงวดกวดขันกับรถจักรยานยนต์เป็นพิเศษ เน้นหนักเส้นทางสายรอง ทางเข้าออกชุมชน หมู่บ้าน และบริเวณใกล้สถานบันเทิงในช่วงกลางคืน ตรวจจับผู้ที่มีพฤติกรรมเสี่ยง โดยเฉพาะการเมาแล้วขับ และกวดขันให้ประชาชนเพิ่มความระมัดระวังในการขับขี่ยานพาหนะ รวมทั้งดูแลบุตรหลานมิให้นำรถออกมาขับขี่ โดยไม่มีใบอนุญาตเพราะหากพบเด็กและเยาวชนที่กระทำผิดกฎหมายจราจร ผู้ปกครองจะมีความผิดตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก พ.ศ.๒๕๔๖ สำหรับจังหวัดที่เป็นแหล่งท่องเที่ยว ขอให้เพิ่มจุดตรวจ/ด่านตรวจบนถนนที่เป็นจุดเสี่ยงหรือเกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุที่เกิดจากการไม่ชำนาญเส้นทาง โดยเฉพาะบริเวณถนนที่คดเคี้ยวและลาดชัน เพราะหากเกิดอุบัติเหตุกับรถโดยสารขนาดใหญ่ จะก่อให้เกิดความสูญเสียอย่างมากพิเศษ และขอฝากเตือนผู้ที่จะไปเฉลิมฉลองเทศกาลปีใหม่ หากดื่มสุรา ห้ามขับรถด้วยตนเอง ให้เพื่อนที่ไม่ดื่มขับแทน หรือใช้บริการรถโดยสารสาธารณะจะปลอดภัยมากกว่า หากตรวจพบว่า เมาแล้วขับถูกจำคุก ๑ ปี หรือปรับตั้งแต่ ๕,๐๐๐ — ๒๐,๐๐๐ บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ กรณีทำให้ผู้อื่นเสียชีวิต ถูกจำคุก ๓ — ๑๐ ปี และปรับตั้งแต่ ๖๐,๐๐๐ -๒๐๐,๐๐๐ บาท สุดท้ายนี้ เนื่องในโอกาสวันขึ้นปีใหม่ พ.ศ.๒๕๕๒ ศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนขออำนวยพรให้พี่น้องประชาชนและ เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน ประสพแต่ความสุขความเจริญ มีความสุข และปลอดภัยตลอดปี ๒๕๕๒