ส่งท้ายปี เสียชิวิตจากอุบัติเหตุทางถนน ๘๗ คน บาดเจ็บ ๙๖๐ คน (ณ วันที่ ๓๑ ธ.ค. ๕๑)

ข่าวทั่วไป Monday January 5, 2009 07:10 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--5 ม.ค.--ปภ. ศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ ๒๕๕๒ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย สรุปสถิติอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ ๒๕๕๒ (วันที่ ๓๑ ธ.ค. ๕๑) เกิดอุบัติเหตุทางถนนรวม ๘๘๒ ครั้ง ผู้เสียชีวิต ๘๗ ราย บาดเจ็บ ๙๖๐ ราย สาเหตุหลักเกิดจากเมาแล้วขับ ขับรถเร็วเกินกำหนด พร้อมสั่งการจังหวัดเข้มงวดการตรวจจับรถจักรยานยนต์เป็นพิเศษ มุ่งเน้นการตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์ โดยเฉพาะบนถนนสายรอง ถนนในชุมชนหมู่บ้าน และบริเวณสถานบันเทิง เพื่อป้องกันอุบัติเหตุทางถนนจากรถจักรยานยนต์ นายอนุชา โมกขะเวส อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ในฐานะเลขานุการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน ประธานแถลงข่าวสถิติอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ ๒๕๕๒ ประจำวันที่ ๓๑ ธ.ค. ๕๑ เปิดเผยว่า ศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ ๒๕๕๒ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้รวบรวมสถิติอุบัติเหตุทางถนนช่วง ๗ วันระวังอันตราย (วันที่ ๓๑ ธ.ค. ๕๑) พบว่า เกิดอุบัติเหตุ รวม ๘๘๒ ครั้ง ผู้เสียชีวิต ๘๗ คน ผู้บาดเจ็บ ๙๖๐ คน สาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ เมาสุรา ร้อยละ ๔๗.๑๗ รองลงมา ขับรถเร็วเกินกำหนด ร้อยละ ๒๑.๐๙ ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ รถจักรยานยนต์ ร้อยละ ๘๓.๒๖ รองลงมาได้แก่ รถปิกอัพ ร้อยละ ๗.๓๐ ส่วนใหญ่เกิดในเส้นทางตรง ร้อยละ ๕๖.๖๑ บนถนน อบต. หมู่บ้าน ร้อยละ ๓๔.๔๖ ช่วงเวลา ที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ช่วงกลางคืน ร้อยละ ๖๙.๓๘ โดยเฉพาะช่วงเวลา ๑๖.๐๑ — ๒๐.๐๐ น. ร้อยละ ๓๒.๓๒ ผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มอายุต่ำกว่า ๒๕ ปี ร้อยละ ๔๖.๓๓ จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุด ได้แก่ นครราชสีมา ๖ คน รองลงมา ได้แก่ สระแก้ว บุรีรัมย์ และราชบุรี จังหวัดละ ๔ คน จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสูงสุด ได้แก่ ราชบุรี ๓๔ คน รองลงมา ได้แก่ เพชรบูรณ์ สุรินทร์ จังหวัดละ ๓๑ คน และสุพรรณบุรี ๒๙ คน จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ราชบุรี ๓๒ ครั้ง รองลงมา ได้แก่ สุรินทร์ ๓๐ ครั้ง เชียงราย ๒๙ ครั้ง นครปฐม ๒๘ ครั้ง และนครราชสีมา ๒๗ ครั้ง จังหวัดที่ไม่มีการเกิดอุบัติเหตุได้แก่ ยโสธร ทั้งนี้ ได้จัดตั้งจุดตรวจหลัก ๒,๙๗๔ จุด เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน ๗๖,๒๙๗ คน เรียกตรวจยานพาหนะ ๗๔๙,๓๕๖ คัน มีผู้ถูกดำเนินคดีตามมาตรการ ๓ ม. ๒ข. ๑ร. รวม ๕๓,๖๔๘ ราย ส่วนใหญ่ ไม่มีใบขับขี่ ๑๙.๕๑๗ ราย คิดเป็นร้อยละ ๓๖.๓๘ รองลงมา ไม่สวมหมวกนิรภัย ๑๘,๑๖๖ ราย คิดเป็นร้อยละ ๓๓.๘๖ สรุปอุบัติเหตุทางถนนสะสม ๒ วัน (วันที่ ๓๐ — ๓๑ ธ.ค. ๕๑) มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นรวม ๑,๔๗๘ ครั้ง เพิ่มขึ้นจากปี ๒๕๕๑ จำนวน ๓๓๑ ครั้ง ร้อยละ ๒๘.๘๖ ผู้เสียชีวิตรวม ๑๔๓ คน เพิ่มขึ้นจากปี ๒๕๕๑ จำนวน ๒๕ คน ร้อยละ ๒๑.๑๙ ผู้บาดเจ็บรวม ๑.๕๙๕ คน เพิ่มขึ้นจากปี ๒๕๕๑ จำนวน ๓๔๑ คน ร้อยละ ๒๗.๑๙ จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสะสมสูงสูดในช่วง ๒ วัน ได้แก่ เชียงราย ๕๗ ครั้ง รองลงมา ได้แก่ สุรินทร์ ๕๐ ครั้ง เพชรบูรณ์ ๕๐ ครั้ง และนครราชสีมา ๔๘ ครั้ง จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสะสมสูงสุด ได้แก่ นครราชสีมา ๘ คน รองลงมา ได้แก่ เชียงราย พิษณุโลก และประจวบคีรีขันธ์ จังหวัดละ ๕ คน จังหวัดที่ไม่มีผู้เสียชีวิตในช่วง ๒ วัน มี ๑๙ จังหวัด จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสะสมสูงสุด ได้แก่ เชียงราย และเพชรบูรณ์ จังหวัดละ ๖๐ คน รองลงมา ได้แก่ นครราชสีมา และสุรินทร์ จังหวัดละ ๕๓ คน นายอนุชา กล่าวต่อว่า วันนี้เป็นวันขึ้นปีใหม่ คาดว่าประชาชนยังคงมีการเฉลิมฉลองเทศกาลปีใหม่ตามสถานที่ต่างๆ จำนวนมาก และแม้ว่าสถิติการเรียกตรวจรถจักรยานยนต์ในช่วงเทศกาลปีใหม่ ๒๕๕๒ จะเพิ่มขึ้นแต่รถจักรยานยนต์ยังคงเป็นยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุและก่อให้เกิดความสูญเสียมากที่สุด ขอให้จังหวัดจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวัง และเพิ่มความเข้มงวดกวดขันกับรถจักรยานยนต์เป็นพิเศษ เน้นหนักเส้นทางสายรอง ทางเข้าออกชุมชน หมู่บ้าน และบริเวณใกล้สถานบันเทิงในช่วงกลางคืน ตรวจจับผู้ที่มีพฤติกรรมเสี่ยง โดยเฉพาะการเมาแล้วขับ และกวดขันให้ประชาชนเพิ่มความระมัดระวังในการขับขี่ยานพาหนะ รวมทั้งดูแลบุตรหลานมิให้นำรถออกมาขับขี่ โดยไม่มีใบอนุญาต เพราะหากพบเด็กและเยาวชนที่กระทำผิดกฎหมายจราจร ผู้ปกครองจะมีความผิดตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก พ.ศ.๒๕๔๖ สำหรับจังหวัดที่เป็นแหล่งท่องเที่ยว ขอให้เพิ่มจุดตรวจ/ด่านตรวจบนถนนที่เป็นจุดเสี่ยงหรือเกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุที่เกิดจากการไม่ชำนาญเส้นทาง โดยเฉพาะบริเวณถนนที่คดเคี้ยวและลาดชัน เพราะหากเกิดอุบัติเหตุกับรถโดยสารขนาดใหญ่ จะก่อให้เกิดความสูญเสียอย่างมากพิเศษ และขอฝากเตือนผู้ที่จะไปเฉลิมฉลองเทศกาลปีใหม่ หากดื่มสุรา ห้ามขับรถด้วยตนเอง ให้เพื่อนที่ไม่ดื่มขับแทน หรือใช้บริการรถโดยสารสาธารณะจะปลอดภัยมากกว่า หากตรวจพบว่า เมาแล้วขับถูกจำคุก ๑ ปี หรือปรับตั้งแต่ ๕,๐๐๐ — ๒๐,๐๐๐ บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ กรณีทำให้ผู้อื่นเสียชีวิต ถูกจำคุก ๓ — ๑๐ ปี และปรับตั้งแต่ ๖๐,๐๐๐ -๒๐๐,๐๐๐ บาท สุดท้ายนี้ เนื่องในโอกาสวันขึ้นปีใหม่ พ.ศ.๒๕๕๒ ศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน ขออำนวยพรให้พี่น้องประชาชนและ เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน ประสพแต่ความสุขความเจริญ มีความสุข และปลอดภัยตลอดปี ๒๕๕๒

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ