กรุงเทพฯ--6 ม.ค.--คอร์ แอนด์ พีค
ขณะนี้องค์กรต่างๆ กำลังประสบภาวะแรงกดดันทางด้านประสิทธิภาพการดำเนินงานที่กำลังเพิ่มมากขึ้น องค์กรธุรกิจจำเป็นต้องพิจารณาไปที่ระบบและกระบวนการดำเนินงานทั้งหมดของตนเพื่อให้แน่ใจถึงประสิทธิภาพที่ต้องมีให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ซึ่งรวมถึงการพิมพ์ป้ายบาร์โค้ดด้วย
บาร์โค้ดสามารถผลักดันการผลิตและกระบวนการแจกจ่ายได้ในจำนวนมาก ดังนั้นถ้าเกิดปัญหากับการพิมพ์บาร์โค้ดก็จะส่งผลต่อประสิทธิภาพการดำเนินงานขององค์กรได้ อย่างไรก็ตาม มีหลายขั้นตอนที่คุณสามารถนำไปใช้ ไม่ว่าจะเป็นขั้นตอนประเมินเครื่องพิมพ์ และความสามารถในการใช้งานได้ต่อเนื่องตลอด ทั้งวัน ซึ่งนั่นสามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงานได้
รายงานฉบับนี้ได้ให้คำอธิบายเกี่ยวกับเครื่องพิมพ์ชนิดต่างๆ ความสามารถ คุณสมบัติ ความเข้ากันได้ของสื่อป้ายผนึกกับเครื่องพิมพ์ ข้อกำหนดด้านการรวมระบบและการสนับสนุนที่มีผลต่อความสามารถในการผลิตและต้นทุนการเป็นเจ้าของโดยรวมสำหรับผู้ใช้ที่ต้องใช้งานเครื่องพิมพ์อย่างหนักในสภาพแวดล้อมที่ยากจะดูแลรักษา
บทนำ องค์กรต่างๆ สามารถปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานได้ด้วยการใช้ระบบอัตโนมัติที่มีอยู่ให้เหมาะสม โดยข้อมูลที่ได้จากคณะกรรมการด้านการศึกษาวิจัยคลังสินค้า ( Warehouse Education and Research Council: WERC) พบว่าเปอร์เซ็นต์เฉลี่ยของชั่วโมงที่เกิดผลผลิตต่อชั่วโมงทำงานทั้งหมดในคลังสินค้าคือ 85% ซึ่งหมายความว่าในทุกๆ 6 ชั่วโมง จะมีเวลาเกือบ 1 ชั่วโมงที่ถูกใช้ไปในกิจกรรมที่ไม่ได้ก่อให้เกิดผลผลิต บริษัทที่มีประสิทธิภาพสูงจะมีค่าความสามารถในการผลิต[1] โดยเฉลี่ย 92% ดังนั้น บริษัทที่มีความสามารถในการผลิตโดยเฉลี่ยต่ำ ถ้าหันมาปรับปรุงบางสิ่งบางอย่างเพียงเล็กน้อยก็อาจสามารถสร้างปริมาณงาน ให้เพิ่มขึ้นรวมทั้งสามารถจัดส่งสินค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพตรงเวลา
เนื่องจากการดำเนินการจัดส่งและการผลิตถือเป็นขั้นตอนที่มีความสำคัญ เครื่องพิมพ์บาร์โค้ดจึงมีผลโดยตรงต่อประสิทธิภาพการดำเนินงาน เมื่อองค์กรเลือกใช้เครื่องพิมพ์อย่างถูกต้อง โซลูชั่นเครื่องพิมพ์ที่ทันสมัยสามารถสร้างประโยชน์ได้มากกว่าแค่การพิมพ์ป้ายบาร์โค้ด โดยสามารถช่วยให้ผู้ผลิตสามารถดำรงอยู่ได้ในภาวะเศรษฐกิจที่เกิดการเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว การเลือกเครื่องพิมพ์อย่างชาญฉลาดต้องเข้าใจถึงคุณสมบัติของเครื่องพิมพ์ที่จะนำนำมาใช้งานในสภาพแวดล้อมการทำงานจริงขององค์กรได้
ตัวอย่างเช่น ข้อมูลจำเพาะด้านความเร็วในการพิมพ์จะบอกให้คุณทราบถึงความเร็วที่เครื่องพิมพ์สามารถพิมพ์ได้ในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม แต่นั่นไม่ใช่มาตรวัดที่จะบอกได้ว่าเครื่องพิมพ์สามารถสนับสนุนประสิทธิภาพการดำเนินงานของผู้ใช้ได้ อย่างไรก็ตาม ปัจจัยต่างๆ เช่น ความง่ายในการโหลดสื่อ วัสดุที่ใช้ เครื่องพิมพ์เสียบ่อยครั้งแค่ไหน และแม้แต่รายการที่ถูกพิมพ์ ตลอดจนระยะห่างของสินค้าที่แปะป้ายผนึกด้วย โดยทั้งหมดล้วนมีผลกระทบอย่างชัดเจนและอย่างมากต่อความสามารถในการผลิตและต้นทุนการเป็นเจ้าของโดยรวม
ส่วนต่างๆ ต่อไปนี้ จะให้รายละเอียดและมุมมองเกี่ยวกับปัจจัยดังกล่าวที่มีผลต่อประสิทธิภาพการทำงานของผู้ใช้ในทุกขั้นตอนของการใช้เครื่องพิมพ์
การดำเนินการเริ่มต้น สิ่งสำคัญอย่างแรกสุดก็คือเครื่องพิมพ์บาร์โค้ดควรใช้ง่าย เครื่องพิมพ์ที่สนับสนุนโปรโตคอลการสื่อสารของเครือข่ายทั่วไปจะช่วยลดเวลาการติดตั้งได้ด้วยการช่วยให้พนักงานด้านไอทีสามารถเพิ่มเครื่องพิมพ์ให้กับเครือข่ายได้ง่ายขึ้น เครื่องพิมพ์แบบไร้สายสามารถปรับปรุงกระบวนการนี้ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วยการกำจัดความต้องการที่จะต้องเดินสายใหม่ให้กับครื่องพิมพ์
เครื่องพิมพ์บาร์โค้ดควรทนทานต่อสภาพแวดล้อมการใช้งานที่เฉพาะเจาะจง จะเห็นได้ว่าเครื่องพิมพ์บาร์โค้ดระดับอุตสาหกรรมได้รับการออกแบบมาให้ทำงานได้อย่างครอบคลุมในสภาพต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับอุณหภูมิและความชื้น และสามารถกันฝุ่นและความชื้นได้อย่างดีเยี่ยม คุณสมบัติดังกล่าวจะช่วยป้องกันการชำรุดเสียหายและนั่นมีผลต่อต้นทุนการเป็นเจ้าของโดยรวมเมื่อเทียบกับเครื่องพิมพ์ที่ไม่สามารถทนทานต่อสภาพแวดล้อมในโรงงานได้ เครื่องพิมพ์บาร์โค้ดที่ออกแบบมาอย่างดีสามารถให้บริการที่เชื่อถือได้นานหลายปีและให้ผลตอบแทนการลงทุนได้มากขึ้นเนื่องจากสามารถลดภาวะการทำงานไม่ต่อเนื่องของเครื่องพิมพ์และหลีกเลี่ยงการเปลี่ยนเครื่องพิมพ์ใหม่
โดยทั่วไปเครื่องพิมพ์บาร์โค้ดที่มีรอบการทำงานหนักจะใช้เทคโนโลยีการพิมพ์แบบใช้ความร้อนโดยตรง (Direct Thermal) หรือแบบถ่ายเทความร้อน (Transfer Thermal) และเทคโนโลยีทั้งสองต่างมีจุดแข็งในตัวเองที่สามารถสนับสนุนประสิทธิภาพการดำเนินงานได้ โดยเครืองพิมพ์แบบใช้ความร้อนโดยตรงไม่จำเป็นต้องใช้ผ้าหมึกเพื่อการพิมพ์ ทำให้ไม่ต้องเปลี่ยนผ้าหมึกให้เสียเวลา ขณะที่เครื่องพิมพ์แบบถ่ายเทความร้อนจะสร้างป้ายผนึกที่มีความทนทานอย่างมากต่อความร้อน แสงสว่าง และสภาพแวดล้อมในหลายลักษณะ
เครื่องพิมพ์และการปรับปรุงกระบวนการทำงาน
นอกจากนี้ เครื่องพิมพ์ยังสามารถปรับให้เหมาะกับพื้นที่ทำงานและกระบวนการทำงานที่มีอยู่ได้ สำหรับงานที่มีปริมาณมากและต้องเกิดขึ้นซ้ำๆ เช่น การใช้ป้ายผนึก การประหยัดเวลาแค่ระดับวินาทีก็มีผลต่อประสิทธิภาพการดำเนินงานแล้ว จะเห็นได้ว่าเครื่องพิมพ์แบบไร้สายสร้างความยืดหยุ่นให้กับองค์กรในด้านการจัดวางเครื่องพิมพ์ได้อย่างมาก เครื่องพิมพ์ระดับอุตสาหกรรมแบบไร้สายจำนวนมากสนับสนุนมาตรฐานความปลอดภัยและการเชื่อมต่อแลนไร้สาย 802.11 และสามารถติดตั้งไว้ที่ใดก็ได้ที่ต้องใช้การพิมพ์ป้ายผนึก ไม่เพียงแต่ในบริเวณที่มีการเชื่อมต่อผ่านสายแลนแบบอีเธอร์เน็ตเท่านั้น
การพิมพ์ป้ายผนึก ณ จุดดำเนินการส่วนกลาง มีแนวโน้มที่พนักงานอาจพิมพ์ป้ายผนึกที่มีขนาดไม่เหมาะสมกับสินค้าหรือแพคเกจได้ การวางเครื่องพิมพ์ใกล้กับพื้นที่ทำงานจริงจะสามารถแก้ปัญหานี้ได้ และยังช่วยให้ไม่ต้องเสียเวลาเดินย้อนไปมาระหว่างจุดพิมพ์และจุดทำงาน แม้ว่าการเดินไปยังเครื่องพิมพ์อาจใช้เวลาเพียงไม่กี่นาที แต่ถ้ามีพนักงานนับสิบๆ รายต้องดำเนินการดังกล่าวก็จะเสียเวลาการทำงานอย่างมาก นอกจากการกำจัดการเดินที่ไม่จำเป็นจะช่วยประหยัดเวลาและปรับปรุงความสามารถในการผลิตแล้ว ยังช่วยลดข้อผิดพลาดในการพิมพ์ป้ายและลดความสูญเสียที่มีต่อประสิทธิภาพการดำเนินงานด้วย
นอกจากนี้เครื่องพิมพ์แบบไร้สายยังเคลื่อนย้ายง่าย ให้ความยืดหยุ่นสูงต่อองค์กรที่มีการกำหนดค่าเวิร์กสเตชั่นหรือสายการผลิตใหม่อยู่บ่อยครั้ง การนำเครื่องพิมพ์ไปประกอบติดกับระบบรถเข็นที่ออกแบบมาเป็นพิเศษซึ่งมีแหล่งจ่ายไฟในตัว สามารถเปลี่ยนให้เครื่องพิมพ์ที่ตั้งอยู่ประจำที่ให้กลายเป็นเครื่องพิมพ์แบบเคลื่อนที่ที่สามารถใช้งานได้ในทุกที่ในเวลาอันรวดเร็ว
เครื่องพิมพ์แบบพกพาให้ความยืดหยุ่นที่มากขึ้นและศักยภาพที่ดีขึ้นในด้านการเพิ่มความสามารถในการผลิต โดยทั่วไปเครื่องพิมพ์แบบเคลื่อนที่เป็นแบบไร้สายสามารถมีสายรัดเพื่อยึดติดกับรถโฟร์คลิฟท์หรือรถเข็นได้ เครื่องพิมพ์แบบเคลื่อนที่ทำให้พนักงานสามารถสร้างและใช้ป้ายผนึกได้ในทุกที่ของคลังสินค้าหรือโรงงาน ป้ายและใบเสร็จสามารถถูกพิมพ์ได้ทุกเมื่อตามต้องการ ระบบการจัดพิมพ์อยู่ใกล้กับผลิตภัณฑ์ที่จะต้องพิมพ์ป้ายแปะ ลดข้อผิดพลาดในการพิมพ์และไม่ต้องเสียเวลาเดินทางย้อนกลับไปมายังสถานีการพิมพ์ส่วนกลาง และเมื่อรวมคอมพิวเตอร์พกพาและเครื่องพิมพ์เข้าด้วยกัน ก็จะปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานให้ดีขึ้น ตัวอย่างเช่น บริษัท บัลลี เทคโนโลยีส์ ผู้ผลิตเครื่องเล่นเกม สามารถลดจำนวนพนักงานได้ราว 23% โดยส่วนที่ลดลงนี้ที่มีหน้าที่ในการเดินไปหยิบสิ่งที่พิมพ์ออกมาเพื่อนำมาไปใช้งานต่อ
การรวมระบบเข้าด้วยกัน การสนับสนุนโปรโตคอลของอินเตอร์เฟสเครือข่ายที่มีอยู่แล้วของคุณเป็นปัจจัยสำคัญในการเลือกเครื่องพิมพ์ เนื่องจากจะช่วยให้เกิดการปรับใช้ได้เร็วขึ้น โดยเครื่องพิมพ์บาร์โค้ดที่สนับสนุนการสื่อสารแบบแลนไร้สายที่เป็นมาตรฐาน (เช่น การเชื่อมต่อแบบ 802.11b/g, ความปลอดภัยแบบ 802.1x เป็นต้น) สามารถรวมเข้ากับเครือข่ายที่มีอยู่ได้อย่างง่ายดาย ให้ความยืดหยุ่นอย่างมากในการวางเครื่องพิมพ์ได้ทั่วทั้งโรงงาน สิ่งนี้ช่วยกำจัดความต้องการในด้านการวางสาย ลดภาระของพนักงานไอทีและลดเวลาที่ใช้ในการติดตั้งเครื่องพิมพ์ใหม่ โดยไม่ต้องกังเวลด้านความปลอดภัยเครือข่าย เครื่องพิมพ์ “อัจฉริยะ” รุ่นล่าสุดสามารถเป็นอุปกรณ์แบบสแตนด์อะโลน ทำให้ไม่ต้องมีคอมพิวเตอร์แยกต่างหาก เครื่องพิมพ์อัจฉริยะยังสามารถทำงานในลักษณะที่เป็นตัวควบคุมแบบลอจิกที่สามารถโปรแกรมได้ (programmable logic controllers: PLCs) เพื่อจัดการอุปกรณ์และกระบวนการอื่นๆ ปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานทางเทคนิคให้ดีขึ้นและเพิ่มมูลค่าโดยรวมของเครื่องพิมพ์
โดยทั่วไปแล้ว ซอฟต์แวร์ ERP จะติดตั้งในมิดเดิลแวร์ในการแปลข้อมูลทางธุรกิจให้เป็นข้อมูลบนป้ายบาร์โค้ด ปัจจุบันภาษา XML กำลังกลายเป็นสื่อกลางชั้นนำสำหรับการแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างระบบโฮสต์และเครื่องพิมพ์ป้าย เครื่องพิมพ์อัจฉริยะที่ใช้ได้กับ XML จะสามารถสื่อสารกับ ERP ได้โดยตรง การจัดการคลังสินค้าและแอพพลิเคชั่นอื่นๆ ไม่จำเป็นต้องมีมิดเดิลแวร์อีกต่อไปจึงช่วยลดต้นทุนการเป็นเจ้าของโดยรวมได้โดยไม่ต้องใช้ผลิตภัณฑ์ซอฟต์แวร์ของบริษัทอื่นที่ต้องมีค่าใช้จ่ายและต้องใช้การสนับสนุนด้านไอทีเพิ่ม
เนื่องจากความต้องการในการจัดทำป้ายผนึกสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา จึงเป็นสิ่งสำคัญที่เครื่องพิมพ์บาร์โค้ดจะต้องยืดหยุ่นและ “พร้อมใช้ในอนาคต” โดยควรพิจารณาในเรื่องที่ว่าเครื่องพิมพ์สามารถปรับรูปแบบสื่อที่ใช้และป้ายผนึกได้หรือไม่ การเปลี่ยนแปลงการตั้งค่าเครื่องพิมพ์หรือเปลี่ยนขนาดป้ายผนึกและชนิดของสื่อที่ใช้เป็นเรื่องยุ่งยากเพียงใด เครื่องพิมพ์สามารถอัพเกรดเพื่อสนับสนุนเทคโนโลยีการเก็บรวบรวมข้อมูลโดยอัตโนมัติ เช่น บาร์โค้ดสองมิติ หรืออาร์เอฟไอดีได้เพิ่มเติมหรือไม่
ตัวอย่างเช่น ผู้ผลิตสินค้าสำหรับอุปโภคบริโภคที่ส่งป้อนสินค้าให้กับผู้ค้าปลีกอาจไม่ต้องการแท็กการจัดส่งสินค้าแบบอาร์เอฟไอดีในขณะนี้ แต่ในอนาคตอาจจำเป็นต้องใช้ การปรับใช้เครื่องพิมพ์บาร์โค้ดที่สามารถอัพเกรดไปเป็นการพิมพ์อาร์เอฟไอดีได้จะช่วยให้บริษัทสามารถประหยัดต้นทุนได้ในระยะสั้นและสามารถอัพเกรดให้มีความสามารถอาร์เอฟไอดีได้ง่ายเมื่อถึงเวลาด้วยการลงทุนเพิ่มโดยไม่ต้องปวดหัวกับการเปลี่ยนเครื่องพิมพ์ใหม่ทั้งหมด
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่คุณศรีสุพัฒ เสียงเย็น ที่ปรึกษาประชาสัมพันธ์
บริษัท คอร์ แอนด์ พีค จำกัด โทร. 0-2-439-4600 ต่อ 8300, 8204
อีเมล์: srisuput@corepeak.com