กรุงเทพฯ--6 ม.ค.--ตลท.
ตลาดอนุพันธ์ปี 2551 วอลุ่มรวม 2.15 ล้านสัญญา หรือซื้อขายเฉลี่ย 8,837 สัญญาต่อวัน เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าร้อยละ 69 ตั้งเป้าปี 2552 วอลุ่มเฉลี่ย 10,900 สัญญาต่อวัน เน้นพัฒนาคุณภาพสินค้า เดินหน้าเปิดซื้อขาย Gold Futures ปรับปรุงสัญญา SET50 Index Options ให้เหมาะสมขึ้น และเปิดซื้อขาย Stock Futures เพิ่มเติม
นางเกศรา มัญชุศรี กรรมการผู้จัดการ บริษัท ตลาดอนุพันธ์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานในปี 2551 ว่า ภาวะการซื้อขายอยู่ในระดับที่น่าพอใจ โดยปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยในปี 2551 อยู่ที่ 8,837 สัญญาต่อวัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 69 เมื่อเทียบกับ 5,219 สัญญาต่อวันในปี 2550 ซึ่งประกอบด้วย SET50 Index Futures 8,498 สัญญาต่อวัน SET50 Index Options 185 สัญญาต่อวัน และ Stock Futures 154 สัญญาต่อวัน คิดเป็นมูลค่าการซื้อขายรวมเฉลี่ย 3,810 ล้านบาทต่อวัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 32 จากระดับ 2,883 ล้านบาทในปี 2550 หรือคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 24 ของมูลค่าการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย สถานะคงค้างรวม ณ วันที่ 31 ธ.ค. 2551 อยู่ที่ระดับ 22,747 สัญญา
“ในปีที่ผ่านมา วิกฤตการณ์ทางการเงินของโลกส่งผลให้ผู้ลงทุนเห็นความสำคัญของการใช้อนุพันธ์เพื่อบริหารความเสี่ยงมากยิ่งขึ้น โดยตลาดอนุพันธ์มีปริมาณการซื้อขายต่อวันสูงสุดที่ 21,474 สัญญา เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2551 สำหรับจำนวนผู้ลงทุน ก็พบว่าผู้ลงทุนยังให้ความสนใจเปิดบัญชีซื้อขายโดยมีจำนวนทั้งสิ้น 15,893 บัญชี เพิ่มขึ้นร้อยละ 67 จากในปี 2550 ที่ระดับ 9,531 บัญชี สัดส่วนผู้ลงทุนประกอบผู้ลงทุนทั่วไปร้อยละ 56.57 ผู้ลงทุนสถาบันร้อยละ 26.38 และผู้ลงทุนต่างประเทศร้อยละ 17.05 สำหรับสัดส่วนการซื้อขายผ่านอินเทอร์เน็ตคิดเป็นร้อยละ 14.82 ของปริมาณการซื้อขายรวม เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มีสัดส่วนการซื้อขายผ่านอินเทอร์เน็ตอยู่ที่ร้อยละ 11.31” นางเกศรากล่าว
ในด้านบริษัทสมาชิก ตลาดอนุพันธ์มีบริษัทสมาชิกเพิ่มขึ้นจาก 25 รายเป็น 36 ราย และกำลังอยู่ระหว่างการรับสมาชิกเพิ่มเติมเพื่อซื้อขายโกลด์ฟิวเจอร์สอีก 4 ราย โดยในปีที่ผ่านมามีผู้ลงทุนทั่วไปนิยมเปิดบัญชีซื้อขายอนุพันธ์จำนวนมาก ทำให้บริษัทหลักทรัพย์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ซึ่งมีฐานผู้ลงทุนในกลุ่มลูกค้าทั่วไปเป็นบริษัทที่มีส่วนแบ่งการตลาดสูงสุด ตามด้วย บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด บริษัทหลักทรัพย์ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) และ บริษัทหลักทรัพย์ ซีมิโก้ จำกัด (มหาชน)
“เมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน 2551 ที่ผ่านมา ตลาดอนุพันธ์ยังได้เปิดซื้อขาย Stock Futures ที่อ้างอิงกับหุ้น PTT, PTTEP และ ADVANC และยังได้มีการปรับปรุงวิธีการคำนวณหลักประกันตามค่าความเสี่ยงของฐานะสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่ผู้ลงทุนถืออยู่ (Risk-based Margining) ซึ่งทำให้ผู้ลงทุนมีโอกาสสามารถซื้อขายอนุพันธ์ได้โดยใช้ต้นทุนต่ำลง” นางเกศรากล่าวเสริม
นางเกศราได้กล่าวถึงเป้าหมายของตลาดอนุพันธ์ ในปี 2552 ว่า “ในปีนี้ตลาดอนุพันธ์จะเน้นการพัฒนาที่สินค้าให้ตอบสนองความต้องการของผู้ลงทุน โดยจะเปิดให้มีการซื้อขาย Gold Futures ขนาดน้ำหนัก 50 บาททองคำ หรือ สัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่อ้างอิงกับทองคำน้ำหนัก 50 บาททองคำ ในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2552 นี้ เพื่อให้ผู้ลงทุนมีเครื่องมือในการบริหารความเสี่ยงหรือทำกำไรจากความผันผวนของราคาทองคำได้ จากนั้น ก็จะเร่งปรับปรุงลักษณะของ SET50 Index Options ให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาดมากขึ้น โดยจะดำเนินการไปพร้อมกับมาตรการการเสริมสภาพคล่องอื่น ๆ และการให้ความรู้ความเข้าใจแก่ผู้ลงทุน โดยจะมีการจัด Trading Simulation เพื่อส่งเสริมให้ผู้ลงทุนเรียนรู้วิธีการซื้อขายออปชั่นผ่านเกมจำลองการซื้อขายเสมือนจริง ซึ่งจะทำให้ผู้ลงทุนสามารถใช้ออปชั่นบริหารพอร์ตลงทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ ตลาดอนุพันธ์จะเปิดซื้อขาย Stock Futures ที่อ้างอิงกับหุ้นอื่น ๆ เพิ่มเติม ซึ่งโดยมากเป็นกลุ่มหุ้นที่มีขนาดใหญ่ มีสภาพคล่องสูง และผู้ลงทุนนิยมลงทุนอยู่แล้ว โดยในปี 2552 ตลาดอนุพันธ์วางเป้าหมายว่าจะมีปริมาณซื้อขายเฉลี่ย 10,900 สัญญาต่อวัน”
ติดต่อส่วนประชาสัมพันธ์ ฝ่ายสื่อสารองค์กร ลดาวัลย์ กันทวงศ์ โทร. 0-2229 — 2036 / กนกวรรณ เข็มมาลัย โทร. 0-2229-2048 ศรินทร์ลักษณ์ จิตกะวงศ์ โทร. 0-2229 — 2037 วรรษมน เสาวคนธ์เสถียร โทร. 0-2229-2797