กรุงเทพฯ--6 ม.ค.--ก.ไอซีที
นายสือ ล้ออุทัย ปลัดกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เปิดเผยว่า กระทรวงฯ ได้เห็นความสำคัญที่ระบบราชการต้องมีการบริการที่เปิดเผย โปร่งใส รวมทั้งต้องการพัฒนาระบบการบริหารราชการให้ตอบสนองต่อความต้องการและเกิดประโยชน์สุขแก่ประชาชนเป็นสำคัญ และเพื่อเป็นการตอบสนองนโยบายของรัฐและของกระทรวงฯ จึงได้จัดให้มีโครงการส่งเสริมให้ประชาชนมีส่วนร่วมแสดงความคิดเห็นและติดตามผลการปฏิบัติราชการขึ้น ซึ่งได้รับความร่วมมือจากคณะทำงานภาคประชาชนของกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ที่ประกอบด้วยตัวแทนจาก ทุกภูมิภาคและตัวแทนจากหลากหลายอาชีพ
โดยคณะทำงานภาคประชาชนของกระทรวงฯ ได้พิจารณาเลือกดำเนินการพัฒนาบริการสาธารณะสำหรับศูนย์บริการข้อมูลภาครัฐเพื่อประชาชน (Government Contact Center หรือ GCC : 1111) เพราะเป็นภารกิจที่เกิดประโยชน์โดยตรงต่อประชาชน โดยการดำเนินโครงการดังกล่าวได้แบ่งออกเป็น 5 กิจกรรมด้วยกัน คือ การวางแนวทางวิธีการปรับปรุงการให้บริการ การสำรวจความต้องการของประชาชนในการใช้บริการ การสำรวจความพึงพอใจจากการใช้บริการ การเปิดช่องทางรับฟังความคิดเห็นจากประชาชน และการวางแนวทางการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้รับทราบถึงบริการอย่างทั่วถึง ซึ่งขณะนี้การพัฒนาบริการสาธารณะดังกล่าวได้ประสบความสำเร็จ และบรรลุวัตถุประสงค์ตามแผนทุกประการแล้ว โดยการทำงานในครั้งนี้กระทรวงฯ ได้ร่วมกับคณะทำงานภาคประชาชนประสานงานกันในทุกขั้นตอน ตั้งแต่การวางแผน การระดมความคิดเห็น การดำเนินงานโครงการ และการวิเคราะห์ ตลอดจนการประมวลข้อมูลทั้งหมดก่อนสรุปเป็นผลการดำเนินงานออกมา
“สำหรับผลการรวบรวมข้อมูลและการวิเคราะห์ของคณะทำงานฯ ที่สำรวจความต้องการของประชาชนในโครงการส่งเสริมให้ประชาชนมีส่วนร่วมแสดงความคิดเห็นและติดตามผลการปฏิบัติราชการของกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในปี 2551 นั้น มีข้อสรุปตามกิจกรรมของโครงการ 5 กิจกรรม คือ 1.การวางแนวทางวิธีการปรับปรุงการให้บริการ ในประเด็นสำคัญๆ 5 ด้าน คือ ด้านการบริการทั่วไป ด้านข้อมูลที่ควรให้บริการ ด้านการจัดการฐานข้อมูล ด้านการบริการของพนักงาน และด้านอื่นๆ ซึ่งจะช่วยให้การประสานงานระหว่างหน่วยงานราชการมีความรวดเร็ว ส่งผลให้ประชาชนได้รับข้อมูลที่มีความทันสมัย ถูกต้อง การปรับปรุงระบบการจัดการฐานข้อมูล และด้านการเน้นย้ำความสำคัญในการฝึกอบรมพนักงานให้ปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ส่วนกิจกรรมที่ 2.การสำรวจความต้องการของประชาชนในการใช้บริการ พบว่า ประชาชนต้องการข้อมูลที่ทันสมัยและถูกต้อง รองลงมาคือ ค้นหาข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว มีบริการรับเรื่องร้องเรียน ไม่เสียค่าใช้จ่าย ให้บริการข้อมูลครอบคลุม ทุกหน่วยงานในภาครัฐ และสามารถติดต่อได้ทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง ตลอดจนต้องการให้เกิดการพัฒนาด้านการประสานงาน และปรับปรุงเว็บไซต์ให้ทันสมัยและรวดเร็วกว่าปัจจุบัน กิจกรรมที่ 3.การสำรวจความพึงพอใจจากการใช้บริการ ของผู้ที่เคยใช้บริการ พบว่ามีความพึงพอใจในการสอบถามข้อมูล ซึ่งเป็นข้อมูลที่ถูกต้องและทันสมัย รวมทั้งพึงพอใจในระบบตอบรับอัตโนมัติ และการบริการที่ดี
สำหรับกิจกรรมที่ 4.การเปิดช่องทางรับฟังความคิดเห็นจากประชาชน ได้มีการเปิดช่องทางรับฟังข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะเพิ่มเติมทางไปรษณีย์ เว็บไซต์ โทรศัพท์ โทรสาร และกิจกรรมที่ 5.การวางแนวทางการประชาสัมพันธ์ ให้ประชาชนได้รับทราบถึงบริการอย่างทั่วถึง ซึ่งการประชาสัมพันธ์ควรมีเนื้อหาที่เข้าใจง่าย ครอบคลุมและสะดุดตา มีคำขวัญ ที่จดจำง่าย และใช้ช่องทางที่หลากหลาย รวมถึงการขอความร่วมมือกับหน่วยงานราชการท้องถิ่น และการใช้สื่อที่สามารถเผยแพร่ได้อย่างทั่วถึง รวดเร็ว และประหยัดค่าใช้จ่าย
ซึ่งภายหลังจากที่ได้สรุปผลการดำเนินงานแล้ว คณะทำงานฯ จึงได้ร่วมกันประเมินผลการดำเนินงาน รวมทั้งวางแนวทางในการดำเนินงานในปีต่อไปให้มีความสมบูรณ์ยิ่งขึ้น ตลอดจนได้ให้คำแนะนำในการติดตามผลของการนำแนวทาง ไปปฏิบัติอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เกิดประโยชน์อย่างเต็มที่ต่อประชาชน องค์กรของรัฐ เอกชน และทุกภาคส่วนให้บรรลุผลสัมฤทธิ์ตามเป้าหมายต่อไปในอนาคต” นายสือกล่าว