กรุงเทพฯ--7 ม.ค.--คต.
นางอภิรดี ตันตราภรณ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ (คต.) เปิดเผยว่าคณะกรรมาธิการยุโรปได้ออกข่าวเผยแพร่ข้อเสนอปรับปรุงระเบียบว่าด้วยเศษซากของผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ (WEEE) และระเบียบว่าด้วยการจำกัดการใช้สารอันตรายในผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ (RoHS) โดยมีสาระสำคัญ สรุปได้ดังนี้
1. ปรับปรุงระเบียบ WEEE และ RoHS ให้มีความยืดหยุ่นมากขึ้นในการจัดเก็บสินค้าใช้แล้วเพื่อคืนสภาพให้สามารถนำวัสดุ/ชิ้นส่วน ผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ กลับมาใช้ใหม่
2. หลังจากที่ระเบียบ WEEE และ RoHS มีผลบังคับใช้ตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2547 พบว่ามีเพียงหนึ่งในสามของเศษซากผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ ที่ได้รับการปฏิบัติตามข้อกำหนดในระเบียบ ส่วนอีกสองในสามของเศษซากฯ ถูกนำไปทิ้งเป็นขยะ landfill หรือถูกส่งไปยังโรงบำบัดมาตรฐานต่ำทั้งที่อยู่ในและนอกสหภาพยุโรป ก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ รวมทั้งพบผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์จำนวนมากที่ไม่สอดคล้องกับข้อจำกัดในระเบียบ RoHS
3. ขอบเขตและคำนิยามของทั้งสองระเบียบจะชัดเจนขึ้น และมีการปรับปรุงให้สอดคล้องกับกฎระเบียบอื่นๆ เช่น Waste Framework Directive และระเบียบ REACH รวมทั้ง “Marketing of Products” package เสริมสร้างการปฏิบัติและการบังคับใช้ข้อกำหนดปัจจุบันและลดภาระด้านการบริหารงานของภาคธุรกิจ
4. ข้อเสนอระเบียบ RoHS ที่ปรับปรุงใหม่จะครอบคลุมสินค้าเพิ่มขึ้นอีก 2 ประเภทสินค้า คือ medical device และ monitoring and control instrument อีกทั้งจะนำระบบ CE label มาใช้
5. รายชื่อสารที่จัดเป็น “priority substances” ที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมเมื่อใช้ในผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ จะใช้วิธีการประเมินที่สอดคล้องกับระเบียบ REACH คาดว่าสารที่จะถูกเฝ้ามองอย่างใกล้ชิด และมีโอกาสถูกห้ามใช้ในอนาคตมี 4 สาร ได้แก่ Hexabromocyclododecane (HBCDD), Phthalate (DEHP), Butylbenzylphthalate (BBP) Dibutylphthalate (DBP) เพิ่มเติมจากสารเดิม 6 สาร คือ Lead, Mercury, Cadmium, Hexavalent Chromium, PBB และ PBDE
6. ข้อเสนอระเบียบ WEEE ที่ปรับปรุงใหม่ กำหนดว่าตั้งแต่ปี 2559 เป็นต้นไป เป้าหมายสำหรับการเก็บรวบรวมเศษซากเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ จะอยู่ที่ร้อยละ 65 ของน้ำหนักเฉลี่ยของผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ที่วางจำหน่ายในตลาดแต่ละประเทศสมาชิกในช่วงสองปีก่อนหน้า โดยรัฐสภาและคณะมนตรียุโรปจะพิจารณาเป้าหมายที่อัตรานี้อีกครั้งในปี พ.ศ.2555
อย่างไรก็ตาม ข้อเสนอปรับปรุงระเบียบ WEEE และ RoHS ต้องผ่านการพิจารณาของรัฐสภาและคณะมนตรียุโรปก่อนประกาศให้มีผลใช้บังคับ ซึ่งคาดว่าการพิจารณาดังกล่าวจะเกิดขึ้นภายหลังการเลือกตั้งผู้แทนรัฐสภายุโรป ในเดือนมิถุนายนปีหน้า โดยสามารถติดตามรายละเอียดเกี่ยวกับการทบทวนระเบียบ WEEE และ RoHS เพิ่มเติมได้จากเว็ปไซต์ http://ec.europa.eu/environment/waste/weee/index.en.htm และ
ร่างข้อเสนอระเบียบ WEEE ฉบับใหม่ที่ http://ec.europa.eu/environment/waste/weee/pdf/com 2008 810.pdf และร่างข้อเสนอระเบียบ RoHS ฉบับใหม่ที่ http://ec.europa.eu/environment/waste/weee/pdf/com 2008 809.pdf
อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศกล่าวเพิ่มเติมว่าไทยส่งออกเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์มีมูลค่าเฉลี่ยปีละ 229,000 ล้านบาท โดยปี 2550 ไทยส่งออกมูลค่า 239,696 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนคิดเป็น ร้อยละ 3 และในปี 2551 (มกราคม — ตุลาคม) มีมูลค่าการส่งออกทั้งสิ้น 197,662 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 1.5
รายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อที่ โทร 1385
กลุ่มงานประชาสัมพันธ์ กรมการค้าต่างประเทศ
โทร. 0 2547 4721 , 08 1700 1817
โทรสาร 02 547 4816 www.dft.go.th, e-mail: tpdft@mocnet.moc.go.th