กรุงเทพฯ--4 ก.ย.--กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ
นางอภิรดี ตันตราภรณ์ อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า นับตั้งแต่ไทยและอินเดียได้จัดทำความตกลงรายการสินค้าเร่งลดภาษีในเบื้องต้นที่เรียกว่า Early Harvest Scheme (EHS) จำนวน 82 รายการ ซึ่งทยอยลดภาษีตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2547 ทำให้การค้าระหว่างไทย-อินเดีย ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง และส่งผลให้ไทยได้เปรียบดุลการค้าอินเดียเป็นครั้งแรกในปี 2548
อัตราภาษีสินค้าจำนวน 82 รายการได้ลดลงเป็น 0 ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน ศกนี้ จึงเป็นโอกาสอันดีที่ผู้ประกอบการจะใช้ประโยชน์ในความได้เปรียบประเทศคู่แข่งในเรื่องอัตราภาษีซึ่งเป็นศูนย์ โดยเฉพาะการนำเข้าสินค้าจำพวกวัตถุดิบจากอินเดีย เพื่อนำมาผลิตสินค้าสำเร็จรูปต่อไป รวมทั้งขยายตลาดส่งออกสินค้าไทยไปยังเมืองต่างๆ ของอินเดีย อาทิ นิวเดลี มุมไบ เชนไน บังกะลอร์ และกัลกัตตา ซึ่งคาดว่าการค้าสองฝ่ายจะยังคงขยายตัวต่อไป
ทั้งนี้ ในช่วง 7 เดือนแรก (ม.ค.-ก.ค.) ของปี 2549 การค้ารวมของสินค้า EHS จำนวน 82 รายการ มีมูลค่า 235.3 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 14.2 เมื่อเทียบกับระยะเวลาเดียวกันของปี 2548 เป็นมูลค่าการส่งออกของไทยไปอินเดีย 168.3 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (+4.0%) และเป็นมูลค่าการนำเข้าจากอินเดีย 67.1 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (+51.6%)