กรุงเทพฯ--9 ม.ค.--โทเทิล ควอลิตี้ พีอาร์
ในปีพ.ศ. 2551 ที่ผ่านมา สายการบินเอทิฮัดประกาศความสำเร็จ โดยทำยอดจำนวนผู้โดยสารทยานขึ้นสู่กว่า 6 ล้านคน เพิ่มขึ้นถึงกว่า 34 เปอร์เซ็นต์จากปีพ.ศ.2550 โดยระหว่างปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นปีที่ 5 ของการดำเนินงาน สายการบินฯ สรุปยอดผู้โดยสารทั้งสิ้นเป็นจำนวน 6,021,931 คน จำนวนผู้โดยสารเฉลี่ย (Seat factor) เพิ่มขึ้นจาก 68 เปอร์เซ็นต์ในปีที่แล้ว สู่ 75 เปอร์เซ็นต์ในปีล่าสุด นอกจากนั้นเอทิฮัดยังมีแผนกำหนดการที่จะรับมอบเครื่องบินใหม่อีก 9 ลำ เพื่อเข้าเสริมฝูงบินที่มีอยู่ให้ครบ 42 ลำ
ในส่วนของประเทศไทย เอทิฮัดยังคงทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม โดยมีอัตรการการเติบโตของรายได้ที่เพิ่มมากขึ้นถึงกว่า 42 เปอร์เซ็นต์ รวมถึงจำนวนผู้โดยสารที่เพิ่มมากขึ้นจากปีที่ผ่านมากว่า 21 เปอร์เซ็นต์
ในระหว่างเดือนมกราคม ถึง เดือนพฤศจิกายน กรุงเทพฯ ซึ่งถือเป็นหนึ่งในตลาดที่สำคัญของเอทิฮัด ในภูมิภาคเอเซีย สามารถทำยอดผู้โดยสารเฉลี่ยได้กว่า 82 เปอร์เซ็นต์ โดยได้มีโอกาสให้บริการอาคันตุกะผู้ทรงเกียรติกว่า 410,000 คน ที่เดินทางเชื่อมต่อระหว่างกรุงเทพฯ และจุดหมายปลายทางอื่นๆของเอทิฮัด ในกว่า 50 เส้นทางทั่วโลก
เอทิฮัด ได้เปิดเส้นทางการบินใหม่ถึง 6 เส้นทางภายในช่วงปีพ.ศ. 2551 ได้แก่ ปักกิ่ง มินสค์ อัลมาตี้ โคชิโคดิ เชินไน และมอสโก รวมถึงได้ลงนามในสัญญาซื้อเครื่องบินจากแอร์บัสและโบอิ้ง ทั้งสิ้นถึง 205 ลำ คิดเป็นมูลค่าสูงถึง 43,000 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ในงานฟาห์นโบโร แอร์โชว์ ณ สหราชอาณาจักร
มร.เจมส์ โฮแกน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายการบินเอทิฮัด กล่าวว่า “แม้ว่าจะได้รับผลกระทบจากความซบเซาของสภาพเศรษฐกิจทั่วโลก แต่สายการบินเอทิฮัด ยังคงดำเนินงานได้อย่างยอดเยี่ยมในปีที่ผ่านมา และเราได้ทำยอดผู้โดยสารทยานตามเป้าที่วางไว้ถึงกว่า 6 ล้านคน”
“ขณะนี้ เอทิฮัดมีเส้นทางการบินอยู่กว่า 50 เส้นทางทั่วโลก โดยมีอัตราผู้โดยสารฉลี่ย 75 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งถือว่าเป็นความสำเร็จที่น่าประทับใจ สำหรับสายการบินที่มีอายุการดำเนินงานเพียง 5 ปีเท่านั้น นอกจากนั้น สายการบินฯยังมีบทบาทสำคัญ ในการสร้างความเจริญเติบโตให้กับเมืองอาบู ดาบี ซึ่งได้ก้าวเข้าสู่การเป็นศูนย์กลางทางด้านธุรกิจและการท่องเที่ยวที่สำคัญของโลก”
ระหว่างปีพ.ศ. 2551 เส้นทางการบินของเอทิฮัดทั้งหมดมีจำนวนผู้โดยสารเฉลี่ยเพิ่มมากขึ้นทั้งสิ้น ในส่วนที่นั่งชั้นประหยัด มีจำนวนปู้โดยสารเฉลี่ยคิดเป็น 77 เปอร์เซ็นต์ โดยเฉพาะเส้นทางสู่ภูมิภาคเอเซีย แปซิฟิคที่สร้างผลงานอันโดดเด่น นำจำนวนผู้โดยสารเฉลี่ยเพิ่มขึ้นจนถึง 84 เปอร์เซ็นต์
ส่วนในชั้นธุรกิจ จำนวนผู้โดยสารเฉลี่ยเพิ่มขึ้นจนถึง 63 เปอร์เซ็นต์ โดยจุดหมายปลายทางในยุโรป ยังคงได้รับความนิยมอย่างสูง คว้าจำนวนผู้โดยสารเฉลี่ยถึง 73 เปอร์เซ็นต์
มร.โฮแกน กล่าวเสริมว่า “ความสำเร็จของเอทิฮัดในวันนี้ ส่วนหนึ่งเกิดจากการให้การสนับสนุนที่ดีและความร่วมมืออย่างใกล้ชิดตลอดมาจากบริษัทท่าอากาศยานอาบูดาบี และกรมการคมนาคม”
สายการบินเอทิฮัด ยังได้สานต่อการให้การสนับสนุนโครงการต่างๆตลอดปี ด้วยการประกาศข้อตกลงร่วมกับทีมเฟอร์รารี ฟอร์มูลา วัน การให้การสนับสนุน ออล ไอร์แลนด์ เฮอร์ลิ่ง แชมเปี้ยน ชิพ และการแข่งขันฟอร์มูล่า วัน กรังซ์ปี ที่จะเริ่มขึ้นในปีพ.ศ. 2552นี้
นอกจากนั้น ตั้งแต่เดือนมีนาคม พ.ศ. 2552 เป็นต้นไป เทลสตรา โดม ในนครเมลเบิร์น ที่มีความจุถึง 55,000 ที่นั่ง จะได้เปลี่ยนขื่อเป็นเอทิฮัด สเตเดียม
โครงการสนับสนุนชาวอาหรับเข้าทำงาน ยังคงดำเนินต่อไป โดยสายการบินเอทิฮัดได้ให้การสนับสนุนและรับพนักงานชาวอาหรับเอมิเรสต์ทั้งสิ้นกว่า 122 คน เข้าทำงานในตำแหน่งต่างๆไม่ว่าจะเป็นส่วนของงานด้านการจัดการ นักบิน วิศวกรเทคนิค
มร.โฮแกน กล่าว “การเจริญเติบโตที่เกิดขึ้นกับสายการบินอย่างต่อเนื่อง ทำให้เราได้เร่งการพัฒนาพนักงานที่มีหลากหลายเชื้อชาติของเราให้มีความเป็นเลิศในหลายๆด้าน ทั้งยังมุ่งมั่นให้การสนับสนุนชาวอาหรับให้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของสายการบินแห่งชาตินี้เช่นกัน”
ช่วงปีพ.ศ. 2551 สายการบินเอทิฮัด ได้รับรางวัลระดับโลกทางด้านการให้บริการและความคิดสร้างสรรค์ทั้งสื้นถึง 17 รางวัล เช่น “รางวัลสายการบินแห่งปี” จากงานประกาศรางวัลเอวิเอชั่น บิสิเนส, อาราเบียน บิสิเนส และ บริติช ทราวเวล อวอร์ด
เอทิฮัดยังได้ประกาศการลงนามโค้ดแชร์ ร่วมกับสายการบินเจ็ท แอร์เวยส์ เยเมน แอร์ไลน์ ซาอุดิอาราเบีย แอร์ไลน์ และ ศรีลังกัน แอร์ไลน์ ในปี 2551 ที่ผ่านมา ทำให้ในปัจจุบัน เอทิฮัดมีการลงนามโค้ดแชร์ร่วมกับสายการบินอื่น 9 สายการบินด้วยกัน
สายการบินฯ ได้ทำการเพิ่มจำนวนพนักงานอีกกว่า 7,000 ตำแหน่ง โดยพนักงานส่วนใหญ่ จากกว่า 121 เชื้อชาติ อาศัยและทำงานในเมืองอาบูดาบี แบ่งเป็นพนักงานต้อนรับกว่า 2,900 คน และนักบินอีก 755 คน
ในส่วนเอทิฮัด ฮอลิเดย์ มีจำนวนรายได้เพิ่มขึ้นกว่า 100 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา โดยการเจริญเติบโตดังกล่าว เป็นผลสืบเนื่องจากการเปิดตัวร้านเอทิฮัด ฮอลิเดย์ ถึง 3 ร้านด้วยกันในเมืองอาบูดาบีได้แก่ อัล วันดา มอลล์ คาลิดิยา มอลล์ และ มารินา มอลล์ นอกจากนั้น ยังเป็นผลจากแคมเปญโปรโมชั่นต่างๆตลอดทั้งปี
คริสตัล คาร์โก ซึ่งเป็นฝ่ายคลังสินค้าของเอทิฮัด ขยายธุรกิจอย่างรวดเร็ว ด้วยการดำเนินงานขนส่งสินค้าที่เพิ่มขึ้น 19 เปอร์เซ็นต์จากปีที่แล้ว และในปีที่ผ่านมา คริสตัล คาร์โก ได้ลำเลียงสินค้าเพิ่มขึ้นกว่า 16 เปอร์เซ็นต์ หรือ คิดเป็น 202,430 ตัน โดยวันที่ 16 เมษายน เป็นที่วันที่มีการขนส่งสินค้าที่มากที่สุดถึง 1,054 ตัน
หนึ่งในการขนส่งที่สำคัญของเอทิฮัด คริสตัล คาร์โก คือ การลำเลียงผลงานของ พาโบล ปิกัสโซ กว่า 180 ชิ้นจากปารีส มายังงานแสดงศิลปะระดับโลก ณ นครอาบูดาบี
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ
ภาริสา ฉายากุล บริษัท โทเทิล ควอลิตี้ พีอาร์ (ประเทศไทย) จำกัด
โทร. 0 2260-5820 ต่อ 121 โทรสาร 0 2260-5847-8 อีเมล์ samui@tqpr.com