กรุงเทพฯ--9 ม.ค.--คต.
นางอภิรดี ตันตราภรณ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ (คต.) เปิดเผยว่า คณะกรรมาธิการยุโรปปรับกฎระเบียบ นำเข้าสินค้าปลอดภาษี ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2551 เป็นต้นไป ผู้เดินทางเข้าอียูสามารถนำสินค้าปลอดภาษีเข้าอียูเพิ่มเติมจากระเบียบเดิมได้ โดยสามารถนำเข้าไวน์ได้เพิ่มขึ้นเป็น 4 ลิตร เบียร์ 16 ลิตร แต่เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ยังคงนำเข้าได้ไม่เกิน 1 ลิตร ส่วนการนำเข้าบุหรี่ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของประเทศสมาชิกอียู ซึ่งจะมีปริมาณต่างกันสูงสุดไม่เกิน 200 หน่วย นอกจากนี้ ยังสามารถนำเข้าสินค้าประเภทอื่นเพิ่มเติมได้อีก สรุปสาระสำคัญได้ดังนี้
1. ผู้เดินทางเข้าอียูโดยทางอากาศและทางเรือสามารถนำสินค้าปลอดภาษีเข้าอียูได้มูลค่าไม่เกิน 430 ยูโร สำหรับผู้เดินทางเข้าอียูโดยทางบกสามารถนำสินค้าปลอดภาษีเข้าอียูได้ ไม่เกิน 300 ยูโร (จากเดิมที่กำหนดให้ไม่เกิน 175 ยูโร)
2. ไม่จำกัดปริมาณการนำเข้าน้ำหอม กาแฟ ชา ทั้งนี้ต้องมีมูลค่าไม่เกินที่กำหนดตามข้อ 1
3. ประเทศสมาชิกอียูสามารถกำหนดการนำเข้าบุหรี่และยาสูบได้ 2 แนวทาง ดังนี้
แนวทางแรก แนวทางที่สอง
บุหรี่ 200 หน่วย หรือ บุหรี่ 40 หน่วย หรือ
Cigarillos 100 หน่วย หรือ Cigarillos 20 หน่วย หรือ
ซิการ์ 50 หน่วย หรือ ซิการ์ 10 หน่วย หรือ
ยาสูบ 250 กรัม ยาสูบ 50 กรัม
4. การนำน้ำมันเชื้อเพลิงเข้าอียูต้องไม่เกิน 10 ลิตร นอกเหนือจากเชื้อเพลิงที่อยู่ในถังเครื่องยนต์ขนาดมาตรฐาน
ทั้งนี้ ผู้ประกอบการสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้จากเว็ปไซต์
http://europa.eu/rapid/pressReleasesAction.do?reference=IP/08/1845&format=HTML&aged=0&language=EN&guiLanguage=en
สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 1385 สายด่วนกรมการค้าต่างประเทศ หรือที่ www.dft.
go.th หรือ โทร. 0 2547 4872 โทรสาร 0 2547 4816