กรุงเทพฯ--9 ม.ค.--คต.
นางอภิรดี ตันตราภรณ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ (คต.) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 11 - 12 ธันวาคม 2551 ที่ประชุมผู้นำ EU ได้ลงมติเห็นชอบต่อร่างกฎหมาย Energy and Climate Package แล้วโดยกำหนดให้รถยนต์รุ่นใหม่ลดปริมาณการปล่อยก๊าซ GHG ให้เหลือ 130 กรัมต่อกิโลเมตร จากภายในระยะเวลาที่บังคับใช้มาตรการในปี 2012 (พ.ศ. 2555) เป็นอัตราก้าวหน้าภายในช่วงปี 2012 - 2015 กล่าวคือจากร้อยละ 65 ของรถยนต์ที่จำหน่ายในปี 2012 เพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 75, 80, และ 100 ภายในปี 2013 (พ.ศ. 2556) 2014 (พ.ศ. 2557) และ 2015 (พ.ศ. 2558) ตามลำดับ เพื่อให้อุตสาหกรรมรถยนต์มีโอกาสปรับตัวตามเป้าหมายระยะยาว ที่ได้วางแผนให้ลดการปล่อยก๊าซดังกล่าวให้เหลือ 96 กรัมต่อกิโลเมตรภายในปี 2020 ซึ่งจะมีการทบทวนอีกครั้งในปี 2013
อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กล่าวเพิ่มเติมว่า EU ได้ปรับลดค่าปรับสำหรับผู้ผลิตรถยนต์ที่ไม่สามารถดำเนินการให้บรรลุเป้า หมายที่กำหนดไว้ในอัตรา 5 - 95 เหรียญยูโรต่อกรัม และตั้งแต่ปี 2019 เป็นต้นไปจะจัดเก็บในอัตรา 95 เหรียญยูโรต่อกรัมสำหรับปริมาณก๊าซที่ปล่อยเกินกำหนด นอกจากนี้ที่ประชุมเต็มคณะของสภายุโรป ได้ลงคะแนนเสียงรับรองมตินี้อย่างเป็นทางการแล้วเมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2551
ทั้งนี้ ผู้ประกอบการไทยที่ผลิตและผู้ส่งออกรถยนต์โดยเฉพาะรถบรรทุกเล็กไป EU ควรคำนึง ถึงข้อกำหนดของกฎหมายข้างต้นด้วย แม้ว่าไทยจะได้รับสิทธิประโยชน์ภายใต้ GSP สำหรับสินค้ารถยนต์คืนมาในปี 2009
สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 1385 สายด่วนกรมการค้าต่างประเทศ
หรือที่ www.dft.go.th หรือ โทร. 0 2547 4872 โทรสาร 0 2547 4816