กรุงเทพฯ--9 ม.ค.--ปภ.
กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงมหาดไทย เตือนประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัย ๘ จังหวัดภาคใต้ ได้แก่ สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา สตูล ยะลา ปัตตานี และนราธิวาส ระมัดระวังอันตรายจากภาวะน้ำท่วมฉับพลันและคลื่นลมแรงใน ๒ - ๓ วันนี้ ( วันที่ ๑๐ - ๑๒ มกราคม ๒๕๕๒ ) พร้อมกำชับศูนย์ ปภ.เขต ๑๑ สุราษฎร์ธานี เขต ๑๒ สงขลา จัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังสถานการณ์ภัยตลอด ๒๔ ชม.
นายอนุชา โมกขะเวส อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เปิดเผยว่า จากการตรวจติดตามสภาวะอากาศกับกรมอุตอนิยมวิทยา พบว่า ระหว่างวันที่ ๑๐— ๑๒ มกราคม ๒๕๕๒ ลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ จะมีกำลังแรงขึ้น ส่งผลให้คลื่นลมในอ่าวไทยมีกำลังค่อนข้างแรง และภาคใต้ตอนล่างจะมีฝนตกหนักในบ้างพื้นที่ ซึ่งก่อนหน้านี้หลายพื้นที่ก็มีฝนตกหนัก หากมีฝนตกต่อเนื่องในพื้นที่ดังกล่าวอีก อาจทำให้เกิดสถานการณ์อุทกภัย น้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากได้ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จึงขอแจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัย ๘ จังหวัดภาคใต้ ได้แก่ สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา สตูล ยะลา ปัตตานี และนราธิวาส ทั้งบริเวณที่ลาดเชิงเขา ที่ราบต่ำชายฝั่งทะเล เตรียมการป้องกันและระมัดระวังอันตรายจากน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และคลื่นลมแรง ในระยะ ๒ — ๓ วันนี้ (วันที่ ๑๐ - ๑๒ มกราคม ๒๕๕๒ ) หากเกิดฝนตกหนักในพื้นที่และมีสัญญาณผิดปกติทางธรรมชาติ เช่น มีเสียงดัง มาจากป่าต้นน้ำ ระดับน้ำในลำน้ำ เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว สีน้ำในลำธารเปลี่ยน เป็นสีเดียวกับสีดินบนภูเขา ให้เตรียมการอพยพในยังที่ปลอดภัยทันที ส่วนชาวเรือระมัดระวังการเดินเรือ เรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในระยะนี้ เนื่องจากบริเวณที่ฝนฟ้าคะนอง จะมีคลื่นสูงมาก
นายอนุชา กล่าวต่อไปว่า เพื่อเป็นการเตรียมการรับมือสถานการณ์ภัยที่อาจเกิดขึ้นจากภาวะฝนตกหนักในช่วงดังกล่าว ได้สั่งการให้ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต ๑๑ สุราษฎร์ธานี เขต ๑๒ สงขลา รวมทั้งประสาน ๘ จังหวัดเสี่ยงภัย จัดเจ้าหน้าที่ติดตามเฝ้าระวังสถานการณ์ตลอด ๒๔ ชม. พร้อมทั้งประสานงานกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ ให้เตรียมรับมือสถานการณ์ภัย ตลอดจนสั่งกำชับให้มิสเตอร์เตือนภัยประจำหมู่บ้านเสี่ยงภัย ตรวจติดตามปริมาณข้อมูลน้ำฝน แจ้งเตือนภัยชาวบ้านในพื้นที่ให้อพยพหนีภัยได้อย่างทันท่วงที ทั้งนี้ หากเกิดสถานการณ์รุนแรง ให้ระดมกำลังเจ้าหน้าที่ พร้อมเครื่องมืออุปกรณ์เข้าช่วยเหลือประชาชนในทันที สุดท้ายนี้ หากประชาชนได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์อุทกภัย สามารถติดต่อ แจ้งเหตุได้ทางสายด่วนสาธารณภัย ๑๗๘๔ ตลอด ๒๔ ชม. เพื่อประสานและให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป