กรุงเทพฯ--26 ต.ค.--ซีเกท เทคโนโลยี
- ซีเกทมียอดรายรับเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 34
- บริษัทมียอดรายรับและกำไรสุทธิเป็นไปตามแผนที่กำหนด
- บริษัทสร้างสถิติใหม่ด้วยการจัดส่งฮาร์ดไดร์ฟ จำนวน 39 ล้านตัว โดย 3.7 ล้านตัวผลิตโดย ใช้เทคโนโลยีการบันทึกข้อมูลแนวตั้งฉาก
- คณะกรรมการบริหารบริษัท ให้เพิ่มเงินปันผลประจำไตรมาสเป็น 10 เซ็นต์ต่อหุ้น
บริษัท ซีเกท เทคโนโลยี รายงานยอดรายรับ 2,800 ล้าน เหรียญสหรัฐ กำไรสุทธิที่ได้รับการรับรองทางด้านบัญชี จำนวน 59 ล้านเหรียญสหรัฐ และกำไรต่อหุ้น 10 เซ็นต์ สำหรับ ไตรมาสที่สิ้นสุด ณ วันที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2549 จากรายรับทั้งสิ้นจำนวน 2,800 ล้านเหรียญสหรัฐ 344 ล้าน เหรียญสหรัฐ มาจากผลิตภัณฑ์ของแม็กซ์ตอร์ กำไรสุทธิและกำไรสุทธิต่อหุ้น ได้รวมค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการควบกิจการ แม็กซ์ตอร์ จำนวน 82 ล้านเหรียญสหรัฐไว้ด้วย หากไม่รวมค่าใช้จ่ายในการควบกิจการและการสำรองเงินก่อนปรับ โครงสร้างองค์กร จำนวน 4 ล้านเหรียญสหรัฐ บริษัทจะมีกำไรสุทธิที่ยังไม่ได้รับการรับรองทางด้านบัญชี จำนวน 137 ล้านเหรียญ และมีกำไรต่อหุ้น 23 เซ็นต์
ในไตรมาสเดียวกันเมื่อปีก่อน ซีเกทรายงานรายรับ 2,090 ล้านเหรียญสหรัฐ กำไรสุทธิที่ได้รับการรับรองทางบัญชี 272 ล้านเหรียญสหรัฐ และกำไรต่อหุ้น 54 เซ็นต์
“ ซีเกทมีผลประกอบการดีอีกครั้งหนึ่งในไตรมาสที่สิ้นสุดเดือนกันยายน ซึ่งสะท้อนให้เห็นระดับความเป็นผู้นำตลาด ที่มีการเติบโตของปริมาณความต้องการผลิตภัณฑ์สำหรับบันทึกข้อมูลอย่างต่อเนื่อง” นายบิล วัทกินส์ หัวหน้าเจ้าหน้าที่ฝ่าย บริหารของซีเกท (Bill Watkins, Seagate chief executive officer) กล่าว “ผมรู้สึกยินดีที่เรามีผลการดำเนินงานที่ดีตามที่ได้ วางแผนไว้สำหรับไตรมาสนี้ การควบกิจการกับแม็กซ์ตอร์ยังคงดำเนินไป ก่อนเวลาที่กำหนดที่วางไว้ ทำให้เราสามารถ เปลี่ยนถ่ายลูกค้าให้ไปใช้ผลิตภัณฑ์ของซีเกทที่มีความคุ้มค่ายิ่งขึ้นในไตรมาสที่สิ้นสุดเดือนธันวาคม ศกนี้ ”
“ ในไตรมาสนี้ เราจะยังคงเห็นบรรยากาศการแข่งขันทางด้านราคาในตลาดเครื่องคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ้คและเครื่อง คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ ซึ่งเป็นผลมาจากการที่เราเชื่อว่าคู่แข่งต่างตั้งใจที่จะพยายามเพิ่มส่วนแบ่งตลาดโดยไม่คำนึงถึง ความสามารถในการทำกำไร ผมมีความยินดีเป็นพิเศษในบรรยากาศการแข่งขันเช่นนี้ ด้วยยอดรายรับ เรามั่นใจใน ความสามารถของเราในการลดค่าใช้จ่าย และเพิ่มความสามารถในการทำกำไรตลอดทั้งปีต่อไป ในฐานะผู้ผลิตชั้นนำใน อุตสาหกรรมดิสก์ไดร์ฟ เรากำลังปฏิบัติงานจากจุดแข็งของเรา ทั้งทางด้านมุมมองของความเป็นผู้นำทางด้านต้นทุนและ ผลิตภัณฑ์ ในอนาคตขณะที่เรายังคงมุ่งมั่นต่อพื้นฐานด้านราคา เราตั้งใจที่จะรักษาระดับส่วนแบ่งตลาดในปัจจุบันและจะ บริหารกลยุทธ์ด้านราคาของเราต่อไป”
ท่านสามารถพบข้อมูลเพิ่มเติมทางด้านการเงินสำหรับไตรมาสที่ 1 ปีการเงิน 2007ทางออนไลน์ที่ http://www.seagate.com/newsinfo/invest
การกำหนดราคา
ราคาขายโดยเฉลี่ยของผลิตภัณฑ์หลากหลายประเภทที่ออกแบบโดยซีเกท ลดลงประมาณ 4 เหรียญสหรัฐ จาก ไตรมาสที่สิ้นสุดเดือนมิถุนายน โดยรวมแล้วราคาของผลิตภัณฑ์ชนิดเดียวกันที่ออกแบบโดยซีเกทลดลง เกินกว่าร้อยละ 6 ในช่วงไตรมาสที่สิ้นสุดเดือนกันยายน ซึ่งสอดคล้องกับที่บริษัทได้คาดการณ์ไว้ในช่วงต้นของไตรมาส
มุมมองธุรกิจ
สำหรับปีการเงิน 2007 ซึ่งไม่รวมค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการควบกิจการแม็กซ์ตอร์ แต่รวมผลประกอบการของแม็กซ์ตอร์ ซีเกทคาดว่าจะมีรายรับ 11,400 — 11,800 ล้านเหรียญสหรัฐและมีกำไรต่อหุ้นที่ยังไม่ได้รับการรับรองทางด้านบัญชีประมาณ 1.70 — 1.80 เหรียญสหรัฐ หากนำค่าใช้จ่ายที่คาดว่าจะมีขึ้นจากการควบกิจการจำนวนเงิน 210 ล้านเหรียญสหรัฐและ ค่าใช้จ่ายจากการซื้อหุ้นคืนร้อยละ 8 จำนวน 18 ล้านเหรียญสหรัฐมารวมไว้ด้วย บริษัทฯ จะมีกำไรต่อหุ้นที่ได้รับการรับรอง ทางบัญชี ประมาณ 1.35 — 1.45 เหรียญสหรัฐ การปรับรายได้และกำไรของบริษัทสำหรับปีการเงิน 2007 สะท้อนให้เห็น สภาพแวดล้อมด้านราคาในตลาดเครื่องคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะและเครื่องคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ้ค ซึ่งมีการแข่งขันสูงในช่วงไตรมาส ที่สิ้นสุดเดือนกันยายน ซึ่งส่งผลต่อการกำหนดราคาสำหรับอีกหลายไตรมาสถัดไป ในช่วงครึ่งหลังของปีการเงินนี้ซีเกทจะ ได้รับประโยชน์จากผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ โอกาสทางการตลาดใหม่ ๆ และการเสร็จสมบูรณ์ของการควบกิจการกับแม็กซ์ตอร์
สำหรับไตรมาสที่สิ้นสุดเดือนธันวาคม ซีเกทคาดการณ์รายรับ จำนวน 2,800 — 3,000 ล้านเหรียญสหรัฐ กำไรสุทธิ ต่อหุ้นเท่ากับ 30-34 เซ็นต์ ทั้งนี้ไม่รวมค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการควบกิจการแม็กซ์ตอร์ แต่ได้รวมผลประกอบการของแม็กซ์ตอร์ และผลกระทบในเชิงลบต่อกำไรขั้นต้นและค่าใช้จ่ายที่ไม่ได้วางแผนไว้ล่วงหน้าเกี่ยวกับไดร์ฟแม็กซ์ตอร์ จำนวน 30 ล้าน เหรียญสหรัฐ กำไรต่อหุ้นที่ได้รับการรับรองทางบัญชี สำหรับไตรมาสที่สิ้นสุดเดือนธันวาคมคาดว่าจะประมาณ 17-21 เซ็นต์ ทั้งนี้รวมค่าใช้จ่ายที่คาดว่าจะมีขึ้นจากการควบกิจการจำนวน 60 ล้านเหรียญสหรัฐและค่าธรรมเนียมในการซื้อหุ้นคืน ร้อยละ 8 จำนวน 18 ล้านเหรียญสหรัฐ
เงินปันผลและการซื้อหุ้นคืน
คณะกรรมการบริหารบริษัทได้อนุมัติการเพิ่มเงินปันผลสำหรับไตรมาสจาก 8 เซ็นต์ เป็น 10 เซ็นต์ต่อหุ้น บริษัทได้ ประกาศจะจ่ายเงินปันผลประจำไตรมาสก่อนวันที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2549 แก่ผู้ถือหุ้นสามัญทุกรายตามบัญชีผู้ถือหุ้น ณ วันที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2549
ระหว่างไตรมาสที่สิ้นสุด ณ วันที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2549 บริษัทได้ซื้อหุ้นสามัญคืน 6,700,000 หุ้นซึ่งมีมูลค่า ประมาณ 150 ล้านเหรียญสหรัฐ บริษัทมีหุ้นมูลค่าประมาณ 2,350 ล้านเหรียญสหรัฐภายใต้โปรแกรมการซื้อหุ้นคืน ที่ได้รับมอบอำนาจในปัจจุบัน sากท่านต้องการข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาเข้าไปที่ http://www.seagate.com/newsinfo/invest/financial_info
ท่านสามารถรับฟังและดาวน์โหลดพ็อดคาสต์ซึ่งนายบิล วัทกินส์จะพูดถึงผลประกอบการของซีเกทในไตรมาสนี้ และมุมมองในอนาคตได้ที่ http://www.podtech.net/seagate ซึ่งเริ่มตั้งแต่เวลา 2.00 p.m. Pacific Time
ข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ นางสาวขวัญจิต สุดสวัสดิ์ ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายประชาสัมพันธ์
หมายเลขโทรศัพท์ 02-715-2919
E-mail : Kwanjit.Sudsawad@seagate.com