บลจ. ทิสโก้ ส่งกอง “ทริกเกอร์ 3” ต่อเนื่อง ตั้งเป้ากำไร 15% ใน 1 ปี

ข่าวเศรษฐกิจ Monday January 12, 2009 14:57 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--12 ม.ค.--บลจ.ทิสโก้ บลจ.ทิสโก้ เชื่อมั่นหุ้นเอเชียแปซิฟิกฟื้นตัว ส่งกอง “ทริกเกอร์ 3” กอง FIF ซีรีย์ 3 ลงทุนหุ้นในกลุ่มเอเชียแปซิฟิกยกเว้นญี่ปุ่น อายุกองทุน 1 ปี หรือปิดกองทุนคืนเงินให้ผู้ถือหน่วยทันทีเมื่อได้ผลตอบแทนถึงเป้าหมาย 15% เตรียมไอพีโอ 15-23 ม.ค. 52 นี้ พร้อมเผยผลการดำเนินงานปี 51 น่าพอใจ ด้วยขนาดสินทรัพย์ภายใต้การบริหารกว่า 1.06 แสนล้านบาท ยืนหยัดความเป็นผู้นำโดยเฉพาะธุรกิจกองทุนสำรองเลี้ยงชีพและกองทุนส่วนบุคคล ส่วนกลยุทธ์กองทุนรวมปีนี้ต้องอัพเดตสถานการณ์การลงทุนเพื่อออกกองที่ตรงความต้องการลูกค้ามากที่สุด นายพิชา รัตนธรรม หัวหน้าธุรกิจกองทุนรวมและกองทุนส่วนบุคคล บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนทิสโก้ จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมเปิดขาย “กองทุนเปิด ทิสโก้ เอเชีย แปซิฟิก เอ็กซ์ เจแปน ทริกเกอร์ 15% # 3” ซึ่งเป็นกอง FIF ซีรีย์ 3 ที่ยังคงมีนโยบายเหมือน 2 กองแรก คือกองทริกเกอร์ 1 และ 2 ที่ได้เปิดขายในปี 2551 ที่ผ่านมา คือเป็นกองทุนรวมต่างประเทศประเภทกองทุนหน่วยลงทุน (Feeder Fund) เน้นลงทุนในหุ้นของกลุ่มประเทศในเอเชียแปซิฟิกยกเว้นญี่ปุ่น โดยมีกองทุนหลัก คือ “กองทุน Lyxor ETF MSCI AC Asia-Pacific Ex Japan” ซึ่งเป็นกองอีทีเอฟที่จดทะเบียนซื้อขายในตลาดหุ้นฮ่องกง โดยมีนโยบายลงทุนในหุ้นเพื่อให้ได้รับผลตอบแทนใกล้เคียงกับผลตอบแทนของดัชนี MSCI AC Asia-Pacific Ex Japan และมีอายุโครงการ 1 ปี ซึ่งสามารถเลิกกองทุนขายทำกำไรอัตโนมัติได้ทันทีโดยไม่ต้องรอครบ 1 ปี หากกองทุนสามารถสร้างผลตอบแทนได้ตามเป้าหมาย 15% ของมูลค่าที่ตราไว้ต่อหน่วย (10.00 บาท) เป็นเวลา 3 วันทำการติดต่อกัน “แม้ในปีที่ผ่านมาราคาหุ้นในกลุ่มเอเชียแปซิฟิกปรับตัวลดลงมามากจนทำสถิติต่ำสุดในรอบหลายปี เนื่องจากแรงเทขายของนักลงทุนต่างชาติ ทั้งๆที่ปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจของประเทศในแถบเอเชียยังคงดีอยู่เมื่อเทียบกับภูมิภาคอื่นๆ อีกทั้งในปีนี้นักวิเคราะห์หลายสำนักยังมองว่าการขยายตัวทางเศรษฐกิจของเอเชียจะสูงที่สุดในโลก ดังนั้นด้วยราคาหุ้นที่ถูกลงมามาก การคาดหวังว่าราคาหุ้นของเอเชียจะรีบาวนด์กลับมามากกว่าภูมิภาคอื่นก็เป็นเรื่องที่มีโอกาสสูงมาก สำหรับกองทุนนี้ก็เช่นเดียวกัน หากดัชนี MSCI AC Asia-Pacific Ex Japan ปรับตัวขึ้นจากประมาณ 259 จุด มาเป็นประมาณ 297 จุด กองทุนนี้ก็น่าจะให้ผลตอบแทนได้ตามเป้าหมายคือ ร้อยละ 15 ซึ่งเมื่อถึงเป้าหมายแล้ว เราก็จะคืนเงินลงทุนและผลตอบแทนให้ทันที” ทั้งนี้ “กองทุนเปิด ทิสโก้ เอเชีย แปซิฟิก เอ็กซ์ เจแปน ทริกเกอร์ 15% # 3” จะเสนอขายครั้งเดียวระหว่างวันที่ 15-23 ม.ค. 52 โดยมีเงินทุนของโครงการที่จดทะเบียนไว้คือ 1,400 ล้านบาท อายุโครงการ 1 ปี ลงทุนขั้นต่ำ 20,000 บาท นักลงทุนที่สนใจสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ธนาคารทิสโก้ทุกสาขา โทร 02 633 6000 กด 4 เผยผลประกอบการปี 51 น่าพอใจ AUM 1.07 แสนล้านบาท ทางด้าน นายธีรนาถ รุจิเมธาภาส กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนทิสโก้ จำกัด เปิดเผยผลการดำเนินงานในปี 2551 ที่ผ่านมาว่า บริษัทมีขนาดของสินทรัพย์ภายใต้การบริหารจัดการ (AUM) อยู่ที่ 106,985 ล้านบาท แบ่งเป็น กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ 68,525 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 64.1%, กองทุนส่วนบุคคล 23,848 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 22.3% และกองทุนรวม 14,612 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 13.7% ซึ่งถือว่าผลการดำเนินงานเป็นที่น่าพอใจ โดยเฉพาะธุรกิจกองทุนสำรองเลี้ยงชีพที่บริษัทสามารถรักษาตำแหน่งผู้นำตลาด โดยมีส่วนแบ่งตลาดเป็นอันดับ 1 เอาไว้ได้อย่างต่อเนื่อง สำหรับกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจในปี 2552 บริษัทจะเดินหน้าขยายฐานลูกค้าอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะธุรกิจกองทุนรวมที่มุ่งเน้นลูกค้ารายย่อย และกองทุนส่วนบุคคลที่เน้นลูกค้าสถาบันและรายใหญ่ โดยจุดเด่นที่จะนำมาสร้างความแตกต่างคือการบริหารความเสี่ยงที่ดี และการให้คำแนะนำจากที่ปรึกษาการลงทุนที่มีความเชี่ยวชาญ “กรณีของกองทุนรวมนั้น บลจ.ทิสโก้ มีจุดยืนที่ชัดเจนที่จะแนะนำกองทุนรวมประเภทต่างๆ ให้เหมาะสมกับสถานการณ์ในการลงทุน เช่น ถ้าเรามองว่าปีนี้แนวโน้มดอกเบี้ยเป็นขาลง เราก็จะออกกองทุนที่มีอายุยาวกว่าที่มีขายในท้องตลาด เพื่อเป็นทางเลือกให้กับผู้ลงทุนที่ต้องการล็อกผลตอบแทนที่แน่นอน ส่วนถ้าเป็นกองทุนรวมที่จัดตั้งขึ้นมาเพื่อเสนอขายผู้ลงทุนที่คาดหวังผลตอบแทนที่สูงและสามารถรับความเสี่ยงในการลงทุนได้มากกว่า เราก็จะแนะนำให้ลงทุนผ่านกองทุนรวมหุ้นทุน หรือกองทุนรวมที่ลงทุนในสินค้าโภคภัณฑ์ เช่น สินค้าเกษตร หรือ น้ำมัน เนื่องจากมองว่าตอนนี้ราคาหุ้นและสินค้าโภคภัณฑ์ปรับตัวลดลงมาในระดับที่น่าสนใจมาก เป็นต้น คือเราต้องอัพเดตสถานการณ์การลงทุนตลอดเวลา เพื่อหาผลิตภัณฑ์ที่ตรงกับความต้องการของลูกค้ามากที่สุด สำหรับกองทุนส่วนบุคคลนั้น เราเน้นการให้บริการแนะนำและให้คำปรึกษาการลงทุนอย่างใกล้ชิด จากผู้จัดการกองทุนที่มีประสบการณ์ในการดูแลเงินลงทุนให้กับผู้ลงทุนรายใหญ่” นายธีรนาถ กล่าว สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ กมลวรรณ / สุภานี ฝ่ายนิเทศสัมพันธ์ บมจ. ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป โทร. 02 633 6904-6

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ