กรุงเทพฯ--10 พ.ย.--ทริสเรทติ้ง
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ประกาศผลอันดับเครดิตองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นครั้งแรกให้แก่ กรุงเทพมหานคร ซึ่งได้รับอันดับเครดิตองค์กรในระดับ “AA+” พร้อมแนวโน้ม “Stable” หรือ “คงที่” โดยอันดับเครดิตสะท้อนถึงสถานภาพของเขตกรุงเทพมหานครในฐานะที่เป็นศูนย์กลางการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ รวมทั้งแหล่งรายได้จากภาษีอากรที่แน่นอนและมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น การบริหารงบประมาณที่มีประสิทธิภาพและเกินดุลมาโดยตลอด และฐานะการเงินที่แข็งแกร่งจากการไม่มีภาระหนี้เงินกู้ นอกจากนี้ อันดับเครดิตดังกล่าวยังพิจารณาถึงภาวะเศรษฐกิจของประเทศที่เติบโตอย่างต่อเนื่องด้วย อย่างไรก็ตาม ปัจจัยสนับสนุนดังกล่าวถูกลดทอนโดยความต้องการเป็นอย่างมากในการลงทุนในโครงการเกี่ยวกับสาธารณูปโภคและโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ เช่น โครงการระบบขนส่งมวลชน รวมทั้งภาระทางการเงินที่อาจเพิ่มขึ้นจากการถ่ายโอนภารกิจจากรัฐบาลกลางให้แก่กรุงเทพมหานครภายใต้นโยบายการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น นอกจากนั้น การที่กรุงเทพมหานครยังไม่มีการกำหนดกรอบวินัยในการก่อหนี้ที่ชัดเจน และสภาวะการบริหารภายใต้ความกดดันทางการเมืองก็นับเป็นปัจจัยเสี่ยงที่ควรได้รับการติดตามอย่างใกล้ชิด
แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” สะท้อนถึงการมีแหล่งรายได้ที่แน่นอนและนโยบายการบริหารงบประมาณแบบสมดุล ทริส เรทติ้งคาดการณ์ว่ากรุงเทพมหานครจะสามารถบริหารงบประมาณได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยรักษาวินัยทางการเงินและคงความแข็งแกร่งทางการเงินในระดับสูง อีกทั้งไม่มีผลกระทบในด้านลบจากความกดดันทางการเมือง รวมถึงการลงทุนและการก่อหนี้ในอนาคตจะต้องได้รับการศึกษาและวางแผนอย่างระมัดระวังเพื่อให้เหมาะสมกับระดับรายได้ของกรุงเทพมหานคร
ทริสเรทติ้งรายงานว่า กรุงเทพมหานครมีฐานะเป็นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นซึ่งมีหน้าที่บริหารราชการและให้บริการแก่ผู้อยู่อาศัยและผู้ประกอบกิจการในเขตกรุงเทพมหานคร อีกทั้งยังเป็นเมืองหลวงและศูนย์กลางทางเศรษฐกิจ การเมือง และสังคมของประเทศ โดยมีผลผลิตมวลรวมรายจังหวัดสูงที่สุดในประเทศ โดยในปี 2548 มีมูลค่า 2,045,505 ล้านบาท คิดเป็น 28.8% ของผลผลิตมวลรวมในประเทศ กรุงเทพมหานครมีรายได้ส่วนใหญ่กว่า 95% มาจากภาษีอากรทั้งที่จัดเก็บเองและส่วนราชการอื่นจัดเก็บให้ นับว่าเป็นแหล่งรายได้ที่มีความแน่นอนสูงซึ่งแม้จะมีความผันผวนอยู่บ้างตามภาวะเศรษฐกิจ แต่ก็มีแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นโดยตลอด และคาดว่าน่าจะเติบโตต่อไป หากแต่ในระยะสั้น อัตราการเติบโตอาจผันผวนเล็กน้อยเนื่องจากสภาวะยืดเยื้อทางการเมืองที่ทำให้มีการคาดการณ์อัตราการเติบโตของเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศลดลง กรุงเทพมหานครมีนโยบายการบริหารงบประมาณแบบสมดุล อีกทั้งในปัจจุบันไม่มีภาระหนี้สินจากการกู้ยืม จึงทำให้สถานะทางการเงินของกรุงเทพมหานครมีความแข็งแกร่งและมีสภาพคล่องสูงมาก
อย่างไรก็ตาม ทริสเรทติ้งกล่าวว่า แม้ในเขตกรุงเทพมหานครจะมีระดับการพัฒนาที่ก้าวหน้ากว่าท้องถิ่นอื่น แต่ยังคงมีความต้องการในการให้บริการด้านสาธารณูปโภคและการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานอย่างต่อเนื่องเพื่อรองรับความต้องการของประชากรจำนวนมากและเพื่อให้มีสภาพแวดล้อมที่เอื้อประโยชน์ต่อการลงทุน กิจการสาธารณูปโภคต่างๆ มีทั้งที่กรุงเทพมหานครริเริ่มจัดทำเองและที่ได้รับการถ่ายโอนภารกิจมาจากรัฐบาลภายใต้นโยบายการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ซึ่งทำให้กรุงเทพมหานครมีความต้องการเงินลงทุนและค่าใช้จ่ายผูกพันในอนาคต แม้กรุงเทพมหานครจะได้รับเงินอุดหนุนจากรัฐบาลเพื่อสนับสนุนการพัฒนาโครงการต่างๆ เหล่านี้ แต่ก็ไม่เพียงพอ โดยเฉพาะในกรณีที่เป็นโครงการที่ต้องการเงินลงทุนสูง กรุงเทพมหานครจึงได้ศึกษาทางเลือกในการจัดหาแหล่งเงินทุนจากตลาดทุน จากนโยบายของคณะผู้บริหารกรุงเทพมหานครที่อาจใช้เงินกู้เพื่อลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งหากมีการก่อหนี้ในอนาคต จะมีผลให้กรุงเทพมหานครมีความเสี่ยงทางการเงินที่สูงขึ้นและลดทอนความแข็งแกร่งลงในระดับหนึ่ง อีกทั้งในปัจจุบันกรุงเทพมหานครยังไม่ได้มีการวางกรอบวินัยในการก่อหนี้ที่ชัดเจน ดังนั้น ทริสเรทติ้งจะติดตามและวิเคราะห์ความสามารถและระเบียบในการบริหารหนี้ในอนาคตของกรุงเทพมหานครอย่างใกล้ชิด