กรุงเทพฯ--17 พ.ย.--TMC
ศูนย์บริหารจัดการเทคโนโลยี (TMC) สนับสนุนช่วยเหลือผู้ประกอบการไทยทั้งด้านการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน การร่วมคิดค้นวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ การร่วมลงทุนหรือให้เงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ ตลอดจนการให้สิทธิทางภาษีแก่ผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการ ทั้งนี้ผู้ประกอบการไทยสามารถติดต่อขอรับการสนับสนุนได้ทั่วทุกภูมิภาคของประเทศไทย
ศ.ดร.ชัชนาถ เทพธรานนท์ ผู้อำนวยการศูนย์บริหารจัดการเทคโนโลยี (TMC) กล่าวว่า “โครงการสนับสนุนการพัฒนาเทคโนโลยีของอุตสาหกรรมไทย หรือ iTAP โครงการภายใต้การดูแลของ TMC ได้เชื่อมโยงนักวิจัยให้กับบริษัทเอกชน เพื่อให้เกิดการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยี ความสนับสนุนช่วยเหลือจาก TMC นั้นช่วยให้ผู้ประกอบการไทยสามารถมีการวิจัยและพัฒนาเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของธุรกิจของตนโดยตรง ซึ่งจะนำไปสู่การเพิ่มยอดขาย และประสิทธิภาพในการผลิตได้”
“TMC ได้ให้ความสนับสนุนหลายบริษัทในภาคอีสานด้วยกัน เช่น บริษัท คาร์เปท เมกเกอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ที่ได้รับความสนับสนุนผู้เชี่ยวชาญด้านเทคนิคและการลงทุน ในการพัฒนาคุณภาพงานย้อม และสร้างโรงย้อมใหม่ และบริษัท เอ็นเนอร์ยี่ ซิสเท็มส์ จำกัด ที่ได้รับความสนับสนุนผู้เชี่ยวชาญด้านเทคนิคในการออกแบบระบบไฟท้ายรถยนต์อัจฉริยะ ทั้งสองบริษัทนี้ได้รับบริการจากหน่วยงานเครือข่ายในส่วนภูมิภาค ที่เข้าใจปัญหาในท้องที่ได้อย่างดี”
บริษัท คาร์เปท เมกเกอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตพรมทอมือ ฝีมือชาวขอนแก่น มียอดขายเพิ่มขึ้นจาก 110 ล้านบาท เป็น 165 ล้านบาท ภายในระยะเวลา 1 ปี หลังจากได้ขอรับความสนับสนุนด้านเทคโนโลยีจาก TMC บริษัทเคยประสบปัญหาคุณภาพในงานย้อม ทาง TMC จึงได้แนะนำผู้เชี่ยวชาญด้านสิ่งทอให้มาร่วมพัฒนาคุณภาพการย้อมเส้นใย จนสามารถย้อมได้คุณภาพดี สม่ำเสมอ ในระยะเวลาอันสั้นลง นอกจากนี้ทาง TMC ยังได้ให้ทุนสนับสนุนในการสร้างโรงย้อมและระบบบำบัดน้ำเสีย ในขณะนี้บริษัท คาร์เปท เมกเกอร์ สามารถดำเนินการผลิตพรมได้อย่างมีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น และยังสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว
ส่วนบริษัท เอ็นเนอร์ยี่ ซิสเท็มส์ จำกัด ได้ร่วมกับผู้เชี่ยวชาญจาก TMC พร้อมขอรับเงินสนับสนุน ในโครงการออกแบบวิจัยและพัฒนาระบบไฟท้ายอัจฉริยะในรถยนต์ (Intelligent Car’s Tail Light) ที่เพิ่งคิดค้นสำเร็จพร้อมนำไปใช้ได้จริง ระบบไฟท้ายอัจฉริยะนี้จะช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับผู้ใช้รถได้มากขึ้น อีกทั้งยังจะช่วยให้เจ้าของรถประหยัดน้ำมันได้มากขึ้น เนื่องจากระบบไฟท้ายนี้ใช้ชุดหลอดไฟแบบ LED หนึ่งชุดแทนสัญญาณไฟทุกสัญญาณ ซึ่งสัญญาณไฟท้ายแบบเดิมจะใช้หลอดไฟหนึ่งดวงต่อหนึ่งสัญญาณไฟ ถ้ามีหลอดใดหลอดหนึ่งขาดก็จะทำให้สัญญาณไฟนั้นใช้การไม่ได้ ซึ่งอาจจะทำให้เกิดอันตรายต่อผู้ใช้รถได้ และระบบไฟท้ายอัจฉริยะนี้ยังมีอายุการใช้งานยาวนานขึ้นอีกประมาณ 3.5 — 7 เท่า การใช้ระบบไฟอัจฉริยะในรถยนต์นี้ทำให้น้ำหนักโดยรวมของรถน้อยลง เนื่องจากชุดหลอดไฟท้ายใช้หลอดไฟแบบ LED มีคุณสมบัติในการใช้พลังงานต่ำแต่ให้ความสว่างสูง ดังนั้นอุปกรณ์ในระบบไฟฟ้าในรถยนต์จะมีขนาดเล็กลงนั่นหมายถึงน้ำหนักก็จะลดลงด้วยจึงทำให้ผู้ใช้รถยนต์ประหยัดน้ำมันได้เพิ่มมากขึ้น ในขณะนี้บริษัท เอ็นเนอร์ยี่ ซิสเท็มส์ จำกัด มีแผนที่จะนำเสนอโครงการนี้แก่บริษัทรถยนต์เพื่อนำไปใช้ในเชิงอุตสาหกรรมพาณิชย์
ศูนย์บริหารจัดการเทคโนโลยี (TMC) เปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมไทย ขอรับความสนับสนุนทางเทคโนโลยี และเงินลงทุน หรือเข้าร่วมวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีได้ ซึ่งในขณะนี้ผู้ประกอบการในภาคตะวันออกเฉียงเหนือสามารถขอรับความสนับสนุนจาก TMC ได้โดยตรงจากสำนักงานอุทยานวิทยาศาสตร์ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ทั้งนี้ผู้ประกอบการจะได้รับบริการแบบเดียวกับที่ TMC มีให้บริการ ยิ่งไปกว่านั้นผู้ประกอบการจะได้รับคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญและเครือข่ายที่เข้าใจปัญหาในพื้นที่อย่างแท้จริง สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์บริหารจัดการเทคโนโลยี โทร. 0 2564 8000 หรือ http://www.tmc.nstda.or.th
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net