กรุงเทพฯ--14 ม.ค.--ททท.
วันที่ 15-18 มกราคม 2552
ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จัด เทศกาลเที่ยวอีสาน 2009 หรือ Amazing I-San Fair 2009 ระหว่างวันที่ 15 — 18 มกราคม 2552 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ นำเสนอศิลปวัฒนธรรม ประเพณี ตลอดจนแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจในภาคอีสาน สอดรับกับปีแห่งการท่องเที่ยวภาคอีสาน 2551 — 2553 พบกับสินค้าศิลปหัตถกรรมอันโดดเด่นของภาคอีสาน และพลาดไม่ได้กับ ผ้าไหมแพรวา 60 ลาย ความยาว 90 เมตร หนึ่งเดียวในโลก ด้วยฝีมือการทอถักที่งดงามวิจิตร แฝงไปด้วยประวัติลวดลายไหมโบราณอันควรค่าแก่การจดจำ
ภายในงานได้มีการรวบรวมสีสันความสนุกสนานของศิลปวัฒนธรรม ประเพณีวิถีชีวิตของชาวอีสานมาไว้ในงานอย่างมากมาย โดยการจัดงานแบ่งออกเป็น 2 ส่วนหลักคือ
ส่วนที่ 1 การแสดงสินค้าและบริการ ซึ่งนำเสนอแพ็กเกจท่องเที่ยว โรงแรมที่พัก และบริการต่าง ๆ ในราคาพิเศษสุด ๆ และโปรโมชั่นโดนใจ เพื่อเดินทางไปสัมผัสดินแดนแหล่งอารยธรรมอันเลื่องชื่อ นอกจากนี้ ยังมีสินค้าพื้นเมือง ของฝากของที่ระลึก เอกลักษณ์อันโดดเด่นของภาคอีสาน ผ้าไหมแพรวา ผ้าไหมมัดหมี่ ผ้าซิ่น หมอนขิด เครื่องปั้นดินเผา หัตถกรรมเครื่องจักสาน ทั้งกระติ๊บ กระจาด ตะกร้า เฟอร์นิเจอร์งานไม้ งานหินทราย ของตกแต่งบ้าน เครื่องดนตรี สินค้าและอาหารพื้นเมืองหลากรสหลายเมนูเด็ด สูตรต้นตำรับสั่งตรงมาจากอีสาน อาทิ ส้มตำ ลาบ ก้อย เมนูน้ำพริก เมนูแมลงสารพัน รวมไปถึงสุดยอดของฝากจากอีสาน เช่น กุนเชียง หมูยอ แหนมเนือง ไส้กรอกอีสาน ฯลฯ
ส่วนที่ 2 กิจกรรมสาธิตและการแสดงต่าง ๆ ซึ่งแบ่งออกเป็น 4 โซน เพื่อให้ผู้เข้าชมงานสามารถสัมผัสมนต์เสน่ห์แห่งท้องถิ่นอีสานได้อย่างครบทุกมิติ ทั้งสีสันแห่งความสนุกสนานรื่นเริง ประเพณี วัฒนธรรม วิถีชีวิต และความเชื่อที่มีเอกลักษณ์ที่โดดเด่น โดยในโซนกิจกรรมทั้ง 4 โซน ประกอบด้วย
โซนหัตถศิลป์ถิ่นอีสาน ซึ่งผู้เข้าชมงานจะสามารถสัมผัสกับงานหัตถศิลป์ที่เกิดจากการสั่งสมภูมิปัญญาท้องถิ่น และมีลวดลายงดงามจากชาวบ้านโดยตรง อาทิ งานลงลาย ซึ่งเป็นการสาธิตงานเขียนลายจากบ้านกุดนาขาม อ.เจริญศิลป์ จ.สกลนคร ที่มีลวดลายลักษณะพิเศษแตกต่างไปจากลวดลายประเพณีทั่วไป การสาธิตงานเขียนลายเบญจรงค์ พบกับเครื่องดนตรี ทั้งเครื่องดีด สี ตี เป่า และการเล่นเครื่องดนตรีสด การสาธิตเครื่องปั้นดินเผาคุณภาพเยี่ยมจากด่านเกวียน ที่ใช้ดินดำสัมฤทธิ์ที่มีเอกลักษณ์ของสีแบบดินเผาด่านเกวียนโดยเฉพาะมาให้ชมในงาน การทำหมากนอ หรือ บักนอ กระบวยใบน้อยจากลูกสารภีทะเล ต้นไม้มงคล บักนอจึงถือว่าเป็นกระบวยมงคลของภาคอีสานที่สืบสานกันมาจนถึงปัจจุบัน ตลอดจนการสาธิตทอผ้าพื้นเมืองที่มีการพัฒนาลายไปตามยุคสมัย นับแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน อาทิ การโชว์สีไหม การขิดผ้าขึ้นมาให้เป็นผ้ามุก ซึ่งเป็นความสามารถเฉพาะท้องถิ่น การทอผ้ามุก ผ้าหมี่ ผ้าเบญจสาเกตุ ผ้าลายอีสานเท็กซ์ไทล์ ที่มีความทันสมัย แต่ยังคงเอกลักษณ์ของความเป็นอีสานอย่างครบถ้วน การผลิตไหมแพรวาศิลปหัตถกรรมของชาวผู้ไท การสาธิตวิธีการยกขิด หรือสะกิดเอาเส้นไหมสีต่าง ๆ ขึ้นมาเป็นลวดลายตามต้องการ การสาธิตงานฝีมือหัตถกรรม ทั้งการทอเสื่อกก การทำเครื่องจักสานด้วยวิธีดั้งเดิม การสานเสื่อ และการทำหมอนขิดที่สวยงาม พบกับเครื่องเงิน และการผลิตเม็ดปะเกือม เม็ดเงินกลมลงลายดำ ประดับเครื่องเงิน ทั้งสร้อยคอ ต่างหู สร้อยข้อมือที่สวยงามแปลกตาและเอกลักษณ์เฉพาะ
นอกจากนี้ ยังมีผ้าไหมแพรวา 60 ลายในผืนเดียว ความยาว 90 เมตร โดยมหาวิทยาลัยมหาสารคาม ซึ่งเคยทูลเกล้าถวายสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถมาแล้ว
**พิเศษสุด กับผ้าลายอีสานผืนเดียวในโลกที่สามารถสั่งผลิตเฉพาะคุณภายในงาน ที่คุณสามารถเนรมิตลายตามที่ต้องการโดยไม่ซ้ำแบบใคร
โซนเลิศล้ำอารยธรรมโบราณ ซึ่งเป็นการเปิดหน้าประวัติศาสตร์ภาคอีสาน เพื่อให้ผู้เข้าชมงานร่วมตามรอยอารยธรรมโบราณของชนชาติที่ราบสูงจากอดีตสู่ปัจจุบัน ย้อนรอยแหล่งอารยธรรมโบราณกับโลกดึกดำบรรพ์ แหล่งอารยธรรมโบราณ และป่าดึกดำบรรพ์ อาทิ โครงกระดูกไดโนเสาร์ ภูเวียงโกซอรัส สิรินธรเน ที่เพิ่งค้นพบในประเทศไทยขนาดเท่าจริงสุดอลังการ รอยเท้าไดโนเสาร์จำลองจาก อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม การจำลองแหล่งอารยธรรมโบราณ อาทิ บ้านเชียง เครื่องปั้นดินเผาเขียนสี ซากฟอสซิล และภาพจำลองผาแต้ม ภาพเขียนสีลายโบราณ จำลองภูผาเทิบ ประติมากรรมธรรมชาติแห่งหินผาน่าอัศจรรย์ ซึ่งมีแหล่งกำเนิดมาจากการกัดกร่อนของสายน้ำสายลมนานนับร้อยล้านปี และแหล่งท่องเที่ยวปราสาทหินพนมรุ้ง ชมบรรยากาศพระอาทิตย์ตกลอดช่องประตูปราสาทพนมรุ้ง
โซนพุทธศาสน์นำชีวิต อันเป็นการนำเสนอจุดเด่นอีกด้านหนึ่งของภาคอีสาน โดยเฉพาะความเชื่อและความศรัทธาของชาวอีสาน การสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต คือ พระธาตุพนมจำลอง พร้อมชมนิทรรศการพระอริยสงฆ์จากแดนอีสาน ทั้งพระอาจารย์มั่น พระอาจารย์เสาร์ และเกจิอาจารย์ชื่อดังอื่น ๆ
โซนประเพณี วิถีวัฒนธรรม ซึ่งจะเป็นการนำเสนอสีสันประเพณีวัฒนธรรม การแสดงพื้นบ้านตามวิถีชีวิตและความเชื่อของชาวอีสาน ที่มีทั้งความสนุกสนาน เฮฮา สามารถเรียกร้อยยิ้มและเสียงหัวเราะจากผู้ชมได้อย่างไม่ผิดหวัง สัมผัสกับบรรยากาศการต้อนรับเข้าสู่งานด้วยพิธีสู่ขวัญในแบบชาวผู้ไทยบ้านโคกโกร่ง ด้วยการผูกเสี่ยวข้อมือจากพ่อเฒ่า แม่เฒ่า พบกับการสาธิตการทำหมากสุ่ม หมากเบ็ง พิธีขี่ช้างคู่ ซึ่งเป็นพิธีกรรมที่เป็นเอกลักษณ์ และลองลิ้มเครื่องดื่มของชาวภูไท ที่เรียกว่า “อุ” (การดูดอุ คือ การดูดเหล้าจากไหโดยใช้ไม้ซาง แสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ฉันท์มิตรที่ชาวผู้ไทยให้แขกผู้มาเยือน) พบกับปราสาทผึ้งจากจังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งปกติจะพบในงานออกพรรษาเท่านั้น พร้อมเรียนรู้การแกะสลักดอกผึ้งโบราณที่ใช้สำหรับปราสาทผึ้ง และพบกับการจำลองบั้งไฟพญานาค ที่ใช้สำหรับเทศกาลบุญบั้งไฟ เป็นหนึ่งในฮีตสิบสองเดือนของชาวอีสาน เพื่อเป็นการบูชาแถนขอฝนให้ตกต้องตามฤดูกาล
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 0 2682 9880