กรุงเทพฯ--14 ม.ค.--สวทช.
ซอฟต์แวร์ “สแกนลายนิ้วมือ” ช่วยพิสูจน์ผลได้ง่าย รวดเร็ว ถูกต้อง แม่นยำ หนุนความปลอดภัย มาตรฐานระดับโลก หนึ่งในความภาคภูมิใจจากโครงการบ่มเพาะธุรกิจซอฟต์แวร์ของ “ซอฟต์แวร์พาร์ค” ศูนย์บริหารจัดการเทคโนโลยี(TMC) ผู้ผลิตย้ำตลาดซอฟต์แวร์ยังขยายตัวได้ดี หากสามารถผลิตซอฟต์แวร์ที่ฉลาด รวดเร็วทันเวลา และพร้อมที่จะปรับเปลี่ยนการใช้งานได้ตรงความต้องการของลูกค้า
ภัยจากการก่อการร้ายทำให้หลายประเทศทั่วโลกมีความตื่นตัวในมาตรการรักษาความปลอดภัย ยิ่งในพื้นที่เสี่ยงภัยระบบป้องกันหรือมาตรการการติดตามตัวหาผู้กระทำผิดจึงควรมีความชัดเจน รวดเร็ว และถูกต้อง วิวัฒนาการของเทคโนโลยีที่มารองรับจึงต้องมีความทันสมัย เพื่อให้การตรวจสอบสามารถพิสูจน์ได้ง่ายและมีความแม่นยำที่สุด ซึ่งหนึ่งในเทคโนโลยีนั้นได้แก่ ระบบไบโอเมตริก (Biometric Fingerprint Livescan Product) หรือระบบการระบุตัวบุคคลโดยใช้หลักฐานทางชีวภาพ ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์และซอฟต์แวร์ด้านการอ่าน การเก็บลายนิ้วมือ การพิมพ์ลายนิ้วมือ ที่ถือว่าเป็นระบบทันสมัยและแม่นยำระบบหนึ่งในขณะนี้
นางสาวณัฐธิดา สงวนสิน ผู้อำนวยการฝ่ายขายและฝ่ายการตลาดบริษัทไอ คอนเซ็ปส์ จำกัด กล่าวว่า Livescan 4 ALL (ไลฟ์สแกนฟอร์ออล) เป็นซอฟต์แวร์ด้านการอ่าน การเก็บลายนิ้วมือ การพิมพ์ลายนิ้วมือ และการสืบค้นลายนิ้วมือที่ใช้ในระบบรักษาความมั่นคงรายเดียวที่มีการผลิตและเป็นเจ้าของโดยคนไทย ทั้งยังเป็นระบบเดียวในประเทศไทยที่ได้รับการรับรองจาก FBI Certified และกระทรวงยุติธรรม ประเทศสหรัฐอเมริกา
ระบบ Livescan 4 ALL คือ การนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาปรับปรุงการบริหารจัดการระบบการเก็บและสืบค้นลายนิ้วมือแบบเก่า ที่มีการเก็บลายนิ้วมือพิมพ์หมึกลงบนกระดาษ และต้องส่งไปยังหน่วยงานที่มีความสามารถในการสืบค้นลายนิ้วมือทางไปรษณีย์หรือใช้การขนส่งโดยผู้นำสาร ซึ่งทำให้เกิดความล่าช้า สูญหาย และการผิดพลาดในการสืบค้นข้อมูลลายนิ้วมือสูงมาก
ผู้อำนวยการฝ่ายขายและฝ่ายการตลาดไอ คอนเซ็ปส์ กล่าวอีกว่า ระบบ Livescan 4 ALL เป็นศาสตร์และศิลป์ใหม่ที่ยกระดับการบริการประชาชน ลดต้นทุนและค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน โดยใช้ระบบสารสนเทศการพัฒนาบุคลากรและการปฏิบัติการให้มีความรวดเร็วถูกต้องแม่นยำและสะดวกในการบริการตามความต้องการของประชาชน
จุดเด่นของซอฟต์แวร์ Livescan 4 ALL อยู่ที่ความสามารถสืบค้นข้อมูลแบบ Real-time และไม่ต้องรอกลับไปที่ศูนย์เพื่อสืบค้นลายนิ้วมือ ทำให้ได้รับผลความถูกต้องและผลในการค้นหาเพิ่มขึ้นมาก โดย 95% ของระบบจะถูกดำเนินการโดยอัตโนมัติ ไม่ต้องใช้คนช่วย ทำให้ประหยัดเวลาในการทำงานอีกทั้งซอฟต์แวร์ยังมีระบบช่วยป้องกันไม่ให้มีการเก็บลายนิ้วมือผิด โดยช่วยตรวจลำดับการใส่ลายนิ้วมือเพื่อป้องกันความผิดพลาด
นอกจากนี้ ซอฟต์แวร์ Livescan 4 ALL ยังเพิ่มประสิทธิภาพในขั้นตอนการส่งผ่านข้อมูลจากการส่งแบบพิมพ์ลายนิ้วมือทางไปรษณีย์หรือผู้นำสารเป็นการส่งไฟล์อิเล็กทรอนิกส์ไปยังเครือข่ายอินเทอร์เน็ตทำให้ประหยัดเวลาและทรัพยากรบุคคล ลดค่าใช้จ่ายในการขนส่งแบบพิมพ์ลายนิ้วมือ สามารถรวบรวมฐานข้อมูลลายนิ้วมือให้อยู่ในที่ที่เดียวได้ โดยหน่วยงานของรัฐบาลสามารถเข้าสู่ฐานข้อมูลได้จากแหล่งเดียว ทั้งยังง่ายต่อการอัพเดท หรือเปลี่ยนแปลงข้อมูลของบุคคลในฐานข้อมูลลายนิ้วมือด้วย
นางสาวณัฐธิดา กล่าวเพิ่มเติมว่า Livescan 4 ALL ยังเป็นซอฟต์แวร์ที่สามารถช่วยลดความผิดพลาดที่เกิดจากการทำงานโดยคน เช่น การเขียนข้อมูลประวัติที่ผิดพลาด โดยระบบสามารถกำหนดกฎเกณฑ์ในการเก็บข้อมูลต่างๆได้ ทำให้สามารถทำงานได้อย่างถูกต้อง เช่น กำหนดให้บัตรประชาชนต้องกรอกเป็นตัวเลข 13 หลักเท่านั้น ช่วยลดเวลาในการสืบค้นลายนิ้วมือเป็นอย่างมากเมื่อเทียบกับระบบเก่า ขจัดกระบวนการทำงานด้วยมือ และช่วยเอื้ออำนวยให้การเก็บลายนิ้วมือมีคุณภาพดีในรูปแบบไฟล์ดิจิตอล ซึ่งมีความคมชัดกว่าการเก็บลายนิ้วมือในแบบพิมพ์ลายนิ้วมือแบบเก่า อีกทั้งยังลดปัญหาการปล่อยอาชญากรที่กระทำความผิด เนื่องจากสามารถสืบค้นประวัติอาชญากรได้แบบทันท่วงที (Real-time identification) นอกจากนี้ยังช่วยขจัดปัญหาการซีดจาง หรือเสื่อมสภาพของแบบพิมพ์ลายนิ้วมือแบบกระดาษ และช่วยลดพื้นที่ในการเก็บลายนิ้วมือด้วยการเก็บข้อมูลในรูปแบบไฟล์ดิจิตอล จากประสิทธิภาพอันมีประโยชน์นานัปการข้างต้น ส่งผลให้ Livescan 4 ALL สามารถคว้ารางวัลชนะเลิศในงาน Thailand ICT Award 2005 โดยลายนิ้วมือที่ถูกจัดเก็บมีคุณภาพสูงและได้มาตรฐาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งมาตรฐานลายนิ้วมือที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย ซึ่งได้แก่ มาตรฐาน FBI EFTS มาตรฐาน ANSI NIST ซึ่งเป็นมาตรฐานเดียวกับงานรักษาความปลอดภัยที่ใช้ทั่วโลก ปัจจุบันยังมีการนำซอฟต์แวร์ดังกล่าวไปใช้งานในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ทำให้สามารถตรวจสอบข้อมูลอาชญากรได้รวดเร็ว แม่นยำ และเชื่อมต่อถึงกันทั่วประเทศด้วย
ผู้อำนวยการฝ่ายขายและฝ่ายการตลาดไอ คอนเซ็ปส์ กล่าวอีกว่า จากการทำงานที่ผ่านมามองว่าผลสำเร็จส่วนหนึ่งเกิดจากการเข้าร่วมใน โครงการบ่มเพาะธุรกิจซอฟต์แวร์ เขตอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ประเทศไทย (ซอฟต์แวร์พาร์ค) ศูนย์บริหารจัดการเทคโนโลยี (TMC) ด้วยการเป็นผู้ประกอบการรายใหม่จึงต้องการหาเพื่อนร่วมทาง ซึ่งซอฟต์แวร์พาร์คมีส่วนช่วยเหลือในการหาพันธมิตรทางธุรกิจ ทำให้บริษัทฯ สามารถประสบผลสำเร็จในการบริหารงานโดยมียอดจำหน่ายสูงขึ้น 3 เท่าทุกปีและมองว่าตลาดซอฟต์แวร์ยังเป็นไปได้ดีหากมีการพัฒนาซอฟต์แวร์ให้ตรงกับความต้องการของผู้ใช้เป็นหลัก สามารถผลิตซอฟต์แวร์ได้อย่างทันเวลา และพร้อมที่จะปรับเปลี่ยนเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้งานได้อย่างตรงจุด
ด้าน นางธีรนิตย์ รัตนวราห ผู้จัดการศูนย์บ่มเพาะธุรกิจซอฟต์แวร์ กล่าวเพิ่มเติมว่า โครงการบ่มเพาะธุรกิจซอฟต์แวร์เป็นโครงการที่จัดทำขึ้นเพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งในการดำเนินธุรกิจให้แก่ผู้ประกอบการซอฟต์แวร์ และช่วยวางรากฐานแนวคิดและแผนธุรกิจให้แก่ผู้ประกอบการรายใหม่ที่เพิ่งเริ่มดำเนินธุรกิจให้สามารถบริหารจัดการธุรกิจได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน โดยมีระยะเวลาโครงการ 1 ปี นอกจากผู้เข้าร่วมโครงการจะได้เรียนรู้ทักษะในการทำธุรกิจ มาตรฐานการพัฒนาผลิตภัณฑ์ของตนเองแล้ว ยังช่วยหาพันธมิตรทางธุรกิจเพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถขยายตลาดจนเติบโตและประสบผลสำเร็จได้ต่อไป
สำหรับผู้สนใจเข้าร่วม โครงการบ่มเพาะธุรกิจซอฟต์แวร์ ประจำปี 2552
สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติม/ดาวน์โหลดใบสมัครได้ทาง www.swpark.or.th และส่งหลักฐานได้ที่
ศูนย์บ่มเพาะธุรกิจซอฟต์แวร์ เขตอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ประเทศไทย 99/30 ชั้น 5 อาคารซอฟต์แวร์พาร์ค
ถ.แจ้งวัฒนะ ต.คลองเกลือ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี 11120 หรือ Email: incubator@swpark.org
สอบถามเพิ่มเติม โทร. 02-583-9992 ต่อ 1508-11
งานประชาสัมพันธ์ ศูนย์บริหารจัดการเทคโนโลยี โทร. 0 2564-7000 ต่อ 1476-8 www.tmc.nstda.or.th
สอบถามเพิ่มเติม ติดต่อ : ธณาพร (เอ็ม), สุธิดา (ไก๋)
โทร. 0 2270 1350-4 ต่อ 104-105 มือถือ 08 6612 0912, 08 5930 7166 อีเมล : prtmc@yahoo.com