กรุงเทพฯ--15 ม.ค.--สภาอุตสาหกรรมฯ
โครงการพัฒนาขีดความสามารถด้านโลจิสติกส์ (Logistics Capacity Building) สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) จัดอบรมปูพื้นฐานด้านโลจิสติกส์ หัวข้อ การบริหารจัดการโลจิสติกส์แบบบูรณาการ ขึ้นในวันพฤหัสบดีที่ 15 มกราคม 2552 เวลา 08.00 -16.30 น. ณ ห้อง Salon B โรงแรม สวิสเลอคองคอร์ด รัชดา เพื่อเสริมสร้างความรู้ ความเข้าใจให้ผู้ประกอบการ ตระหนักถึงความสำคัญ และดำเนินการลดต้นทุนในกิจกรรมด้านโลจิสติกส์ เพื่อเพิ่มกำไรให้กับองค์กรและสามารถบริหารจัดการโลจิสติกส์ภายในองค์กรได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยได้รับเกียรติจาก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม นายชาญชัย ชัยรุ่งเรือง เป็นประธานในพิธีเปิด
นายชาญชัย ชัยรุ่งเรือง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า โครงการยกระดับขีดความสามารถทางการแข่งขันด้านโลจิสติกส์ เป็นกิจกรรมความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชน ภายใต้การผลักดันของกระทรวงอุตสาหกรรมที่จะสร้างความแข็งแกร่งให้กับภาคอุตสาหกรรมไทย โดยเน้นไปที่ยุทธศาสตร์การพัฒนาระบบโลจิสติกส์ภายในกลุ่มอุตสาหกรรม (Internal Improvement) เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนให้ภาคอุตสาหกรรมพัฒนาระบบโลจิสติกส์ และยุทธศาสตร์การสร้างเครือข่ายพันธมิตรธุรกิจและซัพพลายเชน (Cluster and Supply Chain) เพื่อเชื่อมโยงการผลิต กระตุ้นให้มีส่วนร่วมระหว่างผู้ประกอบการด้วยกัน ทั้งนี้ ยุทธศาสตร์การพัฒนาดังกล่าวยังสอดคล้องกับยุทธศาสตร์การพัฒนาระบบโลจิสติกส์ของประเทศไทยดำเนินงานโดยสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) และ สภาอุตสาหกรรมฯ
“ทั้งนี้ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญในการพัฒนาขีดความสามารถด้านโลจิสติกส์ ให้แก่ผู้ประกอบการในภาคอุตสาหกรรม ในสภาวะปัจจุบันที่สภาพเศรษฐกิจมีการชะลอตัวทั่วโลก ส่งผลกระทบอย่างยิ่งต่อผู้ประกอบการทุกภาคส่วน ในการแบกรับภาระต้นทุนการดำเนินงานที่สูงขึ้น ขีดความสามารถการแข่งขันทางธุรกิจลดลง และต้นทุนรวมของภาคการผลิตและภาคบริการที่สูงขึ้นอย่างมาก ดังนั้นผู้ประกอบการจึงต้องปรับตัวอย่างเร่งด่วนเพื่อเพิ่มศักยภาพ ให้สามารถอยู่รอดและแข่งขันได้ในวิกฤตเศรษฐกิจปัจจุบัน” นายชาญชัย กล่าว
ด้านนายพยุงศักดิ์ ชาติสุทธิผล รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย กล่าวว่าการอบรมครั้งนี้จะช่วยจุดประกายให้ผู้เข้าร่วมอบรมได้รับความรู้ ความเข้าใจในหลักสูตรการบริหารจัดการโลจิสติกส์แบบบูรณาการจากวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิ ที่มีความรู้ ความสามารถ และสามารถนำแนวคิดที่เป็นประโยชน์ไปประยุกต์เป็นแนวทางในการบริหารจัดการองค์กรของตนเอง เพื่อฝ่าฟันวิกฤตเศรษฐกิจที่กำลังเผชิญอยู่ในปัจจุบันได้อย่างมั่นใจ และยืนหยัดอยู่ได้อย่างมั่นคง โดยมุ่งผลักดันในประเด็นสำคัญคือ
การพัฒนาบุคคลากรด้านโลจิสติกส์ให้เพียงพอกับความต้องการของภาคอุตสาหกรรม ซึ่งขณะนี้ยังขาดแคลนบุคคลากรที่มีความรู้ ความเข้าใจด้านโลจิสติกส์ ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญในการปรับปรุงความสามารถของแต่ละองค์กร
การสำรวจความสามารถในการจัดการโลจิสติกส์ของแต่ละองค์กรตรวจสอบลูกค้าภายนอกองค์กร ที่จะช่วยในการวางแผนงานที่ดี ทำให้ธุรกิจ SMEs สามารถคาดการณ์ล่วงหน้า สามารถปรับสถานการณ์ให้สอดคล้องกับสภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา
กรอบการวางแผนที่ให้สอดคล้องกับนโยบายด้านโลจิสติกส์ของประเทศการดำเนินงานพัฒนาขีดความสามารถด้านโลจิสติกส์ ที่จะประสบผลสำเร็จได้ ต้องพิจารณาควบคู่กับนโยบายด้านโลจิสติกส์ของประเทศ ซึ่งสํานักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห?งชาติ (สศช.) ได้กำหนดยุทธศาสตร?การพัฒนาระบบโลจิสติกส?ของประเทศไทย (พ.ศ. 2550-2554) ให้มีระบบโลจิสติกส?ที่ได?มาตรฐานสากล (World Class Logistics) สนับสนุนการ เป?นศูนย?กลางธุรกิจและการค?าของภูมิภาคอินโดจีน ซึ่งมีประเด็นยุทธศาสตร์ในการปรับปรุงประสิทธิภาพระบบโลจิสติกส?ในภาคการผลิต การเพิ่มประสิทธิภาพระบบขนส?งและโลจิสติกส์ การปรับปรุงสิ่งอํานวยความสะดวกทางการค้า และยุทธศาสตร?การพัฒนากําลังคนและกลไกการขับเคลื่อนยุทธศาสตร?
การพัฒนาเทคโนโลยีที่ใช้ในกิจกรรมด้านโลจิสติกส์จะสามารถพัฒนาอย่างยั่งยืนได้ต้องมีการพัฒนาระบบเทคโนโลยีโลจิสติกส์ที่ดี มีศักยภาพในต้นทุน ที่สร้างความได้เปรียบทางการแข่งขัน
“ผู้ประกอบการ SME’s ยุคใหม่ ต้องเป็นผู้ที่มีความสามารถในการปรับตัวเพื่อการแข่งขันในตลาดที่นับวันจะสูงขึ้นการดำเนินงานพัฒนาขีดความสามารถด้านโลจิสติกส์ที่ประสบความสำเร็จต้องได้รับการสนับสนุน และสอดคล้องกับนโยบายภาครัฐ ฉะนั้นจึงไม่สามารถที่จะปฏิเสธการนำนโยบายด้านโลจิสติกส์ของประเทศมาประกอบการดำเนินงานของกิจการได้” นายพยุงศักดิ์ กล่าว
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อฝ่ายประชาสัมพันธ์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย
โทร. 0-2345-1017 โทรสาร 0-2345-1296-9