กรุงเทพฯ--19 ม.ค.--กรมสรรพากร
กรมสรรพากร ได้ตรวจสอบพบว่า ปัจจุบันได้มีการหลีกเลี่ยงภาษี หรือฉ้อโกงภาษี มีการจัดตั้ง คณะบุคคลเป็นเท็จ โดยบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล สร้างรายจ่ายเท็จ เช่น รายจ่ายค่าขนส่ง ค่านายหน้า ค่าที่ปรึกษา ค่าจ้างทำของ ฯลฯ เพื่อให้มีกำไรสุทธิน้อยลง หรือมีผลขาดทุนสุทธิ ทำให้เสียภาษีน้อยลงหรือไม่ต้องเสียภาษี หรือมีการขอคืนภาษี โดยวิธีการจัดตั้งคณะบุคคลเป็นเท็จ และสร้างหลักฐานว่ามีการจ่ายค่าใช้จ่ายดังกล่าว ให้แก่คณะบุคคล ซึ่งกรมสรรพากรได้ตรวจสอบแล้ว ก็จะพบว่า ผู้มีชื่อร่วมเป็นคณะบุคคลไม่มีส่วนรู้เห็นในการจัดตั้งคณะบุคคล หรือมิได้มีการประกอบกิจการร่วมกันในฐานะคณะบุคคล แต่อย่างใดรวมถึง ผู้มีเงินได้ที่เป็นบุคคลธรรมดาที่มีเงินได้จำนวนมาก หลีกเลี่ยงภาษีโดยวิธีจัดตั้งคณะบุคคลขึ้นมาหลาย ๆ คณะ โดยแต่ละคณะบุคคลจะมีชื่อของผู้มีเงินได้อยู่ในทุกคณะบุคคล แต่ชื่อผู้ร่วมจัดตั้งคณะบุคคลจะเปลี่ยนไป เพื่อเกิดเป็นคณะบุคคลใหม่ ทั้งนี้ เพื่อเป็นการกระจายฐานเงินได้ของผู้มีเงินได้ที่แท้จริง ทำให้เสียภาษีในอัตราต่ำ
นอกจากนี้ คณะบุคคลยังมีการขอคืนภาษี โดยอ้างว่า ถูกหักภาษี ณ ที่จ่าย นำส่งกรมสรรพากรไว้ ทั้ง ๆ ที่ คณะบุคคลไม่เคยมีเงินได้
นายวินัย วิทวัสการเวช อธิบดีกรมสรรพากร ได้กล่าวชี้แจงเพิ่มเติมว่า “ พฤติการณ์ดังกล่าว นอกจากต้องรับผิดทางแพ่งโดยต้องชำระภาษีพร้อมทั้งเบี้ยปรับ เงินเพิ่มแล้ว ยังมีความผิดทางอาญา โดยถือเป็นความผิดฐานเจตนาหลีกเลี่ยงภาษีอันเป็นความผิดตามมาตรา 37 แห่งประมวลรัษฎากร ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 3 เดือนถึง 7 ปี และปรับตั้งแต่ 2,000 — 200,000 บาท
ส่วนกรณีขอคืนภาษีเป็นเท็จ เป็นความผิดฐานร่วมกันฉ้อโกงเงินภาษีอากรของรัฐ อันเป็นความผิดตามมาตรา 341 มาตรา 80 และมาตรา 83 แห่งประมวลกฎหมายอาญา ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 6,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ นอกจากนี้ยังมีความผิดฐานแจ้งความเท็จต่อเจ้าพนักงานฯ ซึ่งเป็นความผิดตามมาตรา 137 แห่งประมวลกฎหมายอาญา มีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 1,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับด้วย ”
ส่วนประชาสัมพันธ์ สำนักบริหารกลาง กรมสรรพากร
เลขที่ 90 ถนนพหลโยธิน 7 พญาไท กรุงเทพฯ 10400 โทร. 0 2617 3321 โทรสาร 0 2617 3324