กรุงเทพฯ--19 ม.ค.--กรมสรรพากร
ด้วยปัจจุบันมีกลุ่มมิจฉาชีพแอบอ้างใช้ชื่อกรมสรรพากรหรือแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่กรม ฯ ใช้วิธีการโทรศัพท์หรือส่งจดหมายไปหลอกลวงผู้ประกอบการ ผู้เสียภาษีและประชาชนทั่วไปให้หลงเชื่อด้วยวิธีการต่าง ๆ สร้างความเดือดร้อนรำคาญ บางรายถูกหลอกต้องสูญเสียทรัพย์สินเงินทองเป็นจำนวนมาก ถึงแม้จะมีการดำเนินการทางกฎหมายไปแล้วแต่การกระทำดังกล่าวยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่องและขยายขอบเขตสร้างความเสียหายไปเรื่อยๆ โดยรูปแบบการหลอกลวงดังกล่าว เท่าที่ตรวจพบในขณะนี้ มีการกระทำในลักษณะสำคัญ 2 กรณี ได้แก่
1. แอบอ้างเรื่องคืนภาษี โดยใช้โทรศัพท์หมายเลข 13 หลัก หรือโทรศัพท์ไม่แสดงเลขหมายเป็นระบบอัตโนมัติ รวมทั้งอ้างเป็นเจ้าหน้าที่กรมฯ แจ้งให้ไปรับเช็คคืนภาษี พร้อมขอข้อมูลส่วนบุคคล หรือหลอกให้เหยื่อหลงเชื่อไปที่ตู้ ATM และใช้อุบายต่างๆหลอกให้โอนเงินเข้าบัญชีของมิจฉาชีพโดยไม่รู้ตัว หรือนำข้อมูลส่วนบุคคลไปใช้เพื่อทำการทุจริตในทางอื่นต่อไป
ในกรณีนี้ กรมสรรพากรได้ประสานงานกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติโดยความร่วมมือของอีกหลายหน่วยงานที่ถูกแอบอ้างในลักษณะเดียวกัน จับกุมกลุ่มผู้ดำเนินการได้ภายในประเทศจำนวน 2 กลุ่ม และสืบสวนขยายผลจนสามารถจับเครือข่าย Call Center ใหญ่ ณ มณฑลจูไห่ สาธารณรัฐประชาชนจีน เดือนมีนาคม 2551 ที่ผ่านมา ได้ผู้กระทำความผิดซึ่งเป็นคนไทยรวมทั้งสิ้น 42 คน
2. แอบอ้างชื่อกรมสรรพากรเพื่อขอรับบริจาคเงินไถ่ชีวิตโค - กระบือ หรือบริจาคเพื่อช่วยการสาธารณกุศลในรูปแบบต่าง ๆ โดยมีการทำหนังสือและใบโฆษณาชวนเชื่อให้ไปร่วมพิธีส่งมอบหรืออื่นๆ เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้เหยื่อหลงเชื่อมอบเงินบริจาคให้โดยง่าย
ในกรณีนี้ กรมสรรพากรได้ประสานความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แม่ปิง ดำเนินการจับกุมผู้กระทำความผิดได้ 7 คน โดยส่งคดีขึ้นสู่ศาล ซึ่งศาลได้พิจารณาคดีถึงที่สุดแล้ว โดยจำคุกตัวการใหญ่ 3 รายเป็นเวลา 3 ปี สำหรับอีก 4 คนที่เหลือไม่มีหลักฐานเพียงพอในการดำเนินคดี ดังนั้นการกลับมาแอบอ้างขอรับเงินบริจาคอีกครั้งในช่วงหลังนี้ คาดว่าคงเป็นฝีมือของกลุ่มบุคคลดังกล่าว และได้ประสานงานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในเบื้องต้นติดตามพฤติกรรมเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
นายวินัย วิทวัสการเวช อธิบดีกรมสรรพากร กล่าวว่า “ กรมฯไม่มีนโยบายให้เจ้าหน้าที่โทรศัพท์ไปสอบถามข้อมูลส่วนบุคคลของผู้เสียภาษีเพิ่มเติม เนื่องจากกรมฯ มีข้อมูลของผู้เสียภาษีในฐานข้อมูลอยู่แล้ว โดยเฉพาะการคืนภาษีนั้น กรมฯ จะคืนให้เป็นเช็คธนาคารโดยระบุชื่อ-สกุลของผู้ขอคืนและส่งไปให้ทางไปรษณีย์ตามภูมิลำเนาที่ผู้ขอแจ้งคืนไว้เท่านั้น จึงขอแจ้ง ให้ทราบว่า กรมฯ ไม่มีระเบียบปฏิบัติใดๆ ให้เจ้าหน้าที่โอนเงินภาษีที่ขอคืนผ่านระบบ ATM หรือดำเนินการเรียกรับเงินบริจาค หรือให้การรับรององค์การสาธารณกุศลใดๆ ดำเนินการเรียกรับเงินบริจาคแทนกรมสรรพากรอีกด้วย ดังนั้น หากพบผู้แอบอ้างที่มีพฤติกรรมดังกล่าว สามารถสอบถามข้อมูลก่อนดำเนินการใดๆ โดยตรงได้ที่ RD Call Center โทร. 0 2272 8000 หรือแจ้ง ได้ที่สำนักงานสรรพากรพื้นที่ หรือพื้นที่สาขาใกล้บ้านท่าน ทุกวันในเวลาราชการ”
ส่วนประชาสัมพันธ์ สำนักบริหารกลาง กรมสรรพากร
เลขที่ 90 ถนนพหลโยธิน 7 พญาไท กรุงเทพฯ 10400 โทร. 0 2617 3321 โทรสาร 0 2617 3324