กรุงเทพฯ--19 ม.ค.--เฟรเกรนท์ พร็อพเพอร์ตี้
เฟรเกรนท์ พร็อพเพอร์ตี้, ผู้พัฒนาโครงการ The Circle มูลค่ากว่า 4,000 ล้านบาทยังคงมั่นใจในศักยภาพตลาดอสังหาไทย ไม่หวั่นวิกฤตเศรษฐกิจ ตั้งเป้าปิดการขาย 2 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 5,000 ล้านบาท ปีนี้ เผยเตรียมงบกว่า 1,000 ล้านซื้อที่ดินเพื่อพัฒนา โครงการใหม่ย่านใจกลางธุรกิจ
คุณเจมส์ ดูอัน กรรมการผู้จัดการ บ. เฟรเกรนท์ พร็อพเพอร์ตี้ จก. เปิดเผยว่า ในปี 2551 ที่ผ่านมา บริษัทสามารถดำเนินธุรกิจได้ตามเป้าที่ตั้งไว้ โดยเฉพาะการสร้างยอดขายให้กับ 2 โครงการคอนโดมิเนียมของบริษัทฯ ได้แก่โครงการ The Prime 11 บนถ. สุขุมวิท 11 ซึ่งมีมูลค่า 1,300 ล้านบาท และสามารสร้างยอดขายได้กว่า 90% ในปัจจุบัน ส่วนโครงการ The Circle บนถ. เพชรบุรี ซึ่งมีมูลค่าโครงการมากกว่า 4,000 ล้านบาท สามารสร้างยอดขายได้แล้วประมาณ 70% และบริษัท ฯ ได้ตั้งเป้าว่าทั้ง 2 โครงการจะสามารถขายได้หมดภายในปี 2552 แม้ว่าตลาดอสังหาในปีนี้จะประสบกับสภาวะชะลอตัวก็ตาม
“เรามั่นใจว่าเราจับกลุ่มเป้าหมายได้ถูกต้อง ซึ่งเป็นกลุ่มที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจน้อยที่สุด จะได้เห็นได้จากโครงการ The Prime 11 นั้นไม่มีลูกค้ารายใดยื่นเรื่องขอกู้เงินเลย และสำหรับโครงการ The Circle นั้นก็ไม่ปรากฏว่ามีการทิ้งดาวน์แต่อย่างไร” เขากล่าว
คุณเจมส์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ตลาดอสังหาไทยนั้นชะลอลงตั้งแต่ช่วงปลายปีที่แล้ว ทำให้การขายโครงการนั้นชะลอตัวลงด้วย แต่ เนื่องจากบริษัทฯ มีสถานะการเงินที่แข็งแกร่ง และการวางแผนการที่ดี ทำให้เราสามารถเริ่มการก่อสร้างได้เร็วกว่า กำหนด และแทบจะไม่ได้รับผลกระทบทางด้านอื่น ๆ เลยในสภาวการณ์ปัจจุบัน
“เราคงไม่รีบร้อนที่จะลงทุนในสถานการณ์เช่นนี้ แต่จะรอดูสถานการณ์ก่อน อย่างไรก็ตาม เราเชื่อว่า เศรษฐกิจในเอเชียจะสามารถฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็วในวิกฤตปัจจุบัน โดยเริ่ม จากประเทศจีน ก่อน สำหรับไทยนั้น ก็คงจะใช้เวลาไม่นานเช่นกัน ซึ่งบริษัท ฯ ยังคงมองหาที่ดินแปลงใหม่ในย่านใจกลางธุรกิจเพื่อพัมนาโครงการใหม่ โดยวางงบประมาณไว้ประมาณ 1,000 ล้านบาท โดยน่าจะดำเนินการได้ในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ เพราะเรายังมีความเชื่อมั่นว่า การเร่งรัดเบิกง่ายงบประมาณของรัฐบาล และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ต่าง ๆ จะส่งผลดี ต่อกำลังซื้อของผู้บริโภคในระยะยาว” คุณเจมส์กล่าว
เฟรเกรนท์ฯ ยังคาดหวังว่า การเปิดดำเนินการของ โครงการ แอร์พอร์ตลิ้งค์ ในเดือนสิงหาคม จะส่งผลดีต่อโครงการ The Circle ซึ่งเป็นคอนโดมิเนียมที่ตั้งอยู่ใกล้กับสถานีเดินรถ สะดวกต่อการเดินทางของผู้ที่พักอาศัย และจะทำให้สามารถขายห้องพักที่เหลืออีกประมาณ 250 ยูนิต จาก 901 ยูนิตของทั้งหมดได้หมดภายในปีนี้
คุณเจมส์ เปิดเผยว่า ในครึ่งปีแรก บริษัทฯจะเน้นทำการตลาดที่สามารถเข้าถึงผู้บริโภคได้โดยตรง เช่นการจัดอีเวนท์ ออกบู๊ธ ควบคู่ไปกับการสร้างแบนรด์ ของบริษัท ฯให้เป็นที่รู้จักในกลุ่มเป้าหมาย เช่นในเดือนหน้า เฟรเกรนท์ก็จะร่วมเป็นส่วนหนึ่งของงานมหกรรมบ้านและคอนโด ที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิตติ์ สำหรับในเดือนพ.ค. ก็จะมีการออกบู๊ธที่สยามพารากอน ส่วนในครึ่งปีหลัง ซึ่งเศรษฐกิจน่าจะเริ่มฟื้นตัวนั้น บริษัท ฯ จะเริ่มทำการตลาดอย่างเข้มข้น โดยเฉพาะในช่วงการเปิดดำเนินการของแอร์พอร์ตลิ้งค์ซึ่งจะมีส่วนช่วยให้โครงการที่พักอาศัยซึ่งตั้งบนเส้นทางการเดินรถ กลับมาได้รับความนิยมอีกครั้ง
“เราจะยังเดินหน้าพัฒนาโครงการอย่างต่อเนื่อง โดยการพัฒนาคอนโดมิเนียมในระดับราคา 3-20 ล้านบาท เน้นย่านใจกลางแหล่งธุรกิจ เพราะเมื่อเกิดวิกฤตเศรษฐกิจ กลุ่มที่จะได้รับผลกระทบรุนแรง คือผู้บริโภคในกลุ่มระดับพรีเมียม และระดับล่าง แต่จะมีผลกระทบน้อยกับกลุ่มผู้บริโภคระดับกลาง-ระดับบน นอกจากนั้นแล้วบริษัทฯ ยังมีความเชื่อมั่นในศักยภาพของตลาดอสังหาไทยในระยะยาวอีกด้วย โดยการพัฒนาโครงการจะเน้นสร้างความแตกต่างและความโดดเด่นให้กับโครงการ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคในกลุ่มเป้าหมายให้ได้อย่างเต็มที่” คุณเจมส์ กล่าวสรุป
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
คุณมล 081-906-5096