ประกาศหลักการกู้เงิน Short term facility สำหรับรัฐวิสาหกิจ วงเงินไม่เกิน 200,000 ล้านบาท

ข่าวทั่วไป Tuesday January 20, 2009 13:58 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--20 ม.ค.--กลุ่มการประชาสัมพันธ์ สำนักงานปลัดกระทรวงการคลัง จากสภาวการณ์เศรษฐกิจโลกในปัจจุบันที่มีแนวโน้มการเติบโตชะลอตัวได้ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจในประเทศรวมถึงตลาดการเงินและตลาดทุนเป็นอย่างมาก และจากความผันผวนที่เกิดขึ้นในตลาดเงินและตลาดทุนในประเทศ ทำให้สถาบันการเงินได้มีความเข้มงวดและจำกัดในการให้สินเชื่อ ส่งผลให้เกิดข้อจำกัดในการกู้เงินในประเทศของรัฐวิสาหกิจ นอกจากนี้ ในส่วนการค้ำประกันรัฐวิสาหกิจและสถาบันการเงินภาครัฐโดยกระทรวงการคลังในช่วงที่ผ่านมาพบว่ามีแนวโน้มสัดส่วนการค้ำประกันที่เพิ่มสูงขึ้น โดยในปีงบประมาณ 2552 คาดว่าจะมีรัฐวิสาหกิจเสนอขอให้กระทรวงการคลังค้ำประกันเต็มกรอบภาระการค้ำประกันเงินกู้และการให้กู้ต่อตามที่กฎหมายได้กำหนดไว้เป็นสกุลเงินบาทไม่เกินร้อยละ 20 ของงบประมาณรายจ่ายประจำปี กระทรวงการคลังจึงเห็นควรนำเครื่องมือทางการเงินมาใช้เพื่อเสริมความคล่องตัวในการบริหารและจัดการเงินกู้ในประเทศให้แก่รัฐวิสาหกิจได้อย่างเหมาะสม และสามารถดำเนินการค้ำประกันเงินกู้ได้เป็นไปตามกรอบความยั่งยืนทางการคลัง โดยการจัดตั้ง Short term facility เพื่อให้รัฐวิสาหกิจและสถาบันการเงินภาครัฐสามารถกู้เงินในประเทศระยะสั้นได้โดยตรงเพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นในการบริหารและจัดการ โดยมีโครงสร้าง/การดำเนินการ/วิธีการสอดคล้องกับความต้องการกู้เงินของรัฐวิสาหกิจ ฯลฯ นอกจากนี้ยังสามารถใช้เป็นเครื่องมือในการจัดสรรการกู้เงินของภาครัฐไม่ให้เกิดภาวะกระจุกตัวในช่วงใดช่วงหนึ่งได้ (Bunching) และจากการมี Short term facility ไว้เพื่อเป็นวงเงินสำรองการกู้เงินจะทำให้รัฐวิสาหกิจมีทางเลือกในการกู้เงินได้ (Alternative source of fund) โดยกระทรวงการคลังจะค้ำประกันวงเงินแบบเต็มจำนวนหรือแบบบางส่วน (Partial guarantee) เพื่อลดสัดส่วนของการค้ำประกัน เพื่อให้ภาระการค้ำประกันอยู่ในกรอบเพดานในแต่ละปี โดยมีรายละเอียด ดังนี้ วงเงิน ไม่เกิน 200,000 ล้านบาท ระยะเวลา 3 ปี แหล่งเงิน ธนาคารพาณิชย์ที่ประกอบกิจการในประเทศและธนาคารออมสิน ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายอื่นๆ เป็นไปตามข้อเสนอของธนาคาร ซึ่งจะได้เจรจาต่อรองต่อไป การรายงานผลการกู้เงิน เป็นรายไตรมาสต่อคณะรัฐมนตรี โดยในส่วนกรอบและเงื่อนไขการกู้เงิน Short term facility ดังนี้ ผู้กู้ รัฐวิสาหกิจ วัตถุประสงค์ของการกู้เงิน 1. เพื่อเป็นค่าใช้จ่าย/โครงการลงทุนของรัฐวิสาหกิจ /ชำระคืนเงินกู้เดิม เพื่อเป็นการบริหารและจัดการเงินกู้ในประเทศของรัฐวิสาหกิจที่ ที่ได้รับการบรรจุในแผนการบริหารหนี้สาธารณะ 2. เพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นแก่กระทรวงการคลังในกรณี ที่เกิดความเสี่ยงในการผิดชำระดอกเบี้ยหรือเงินต้นของรัฐวิสาหกิจ (Default risk) ระยะเงินกู้ อายุเงินกู้ระยะไม่เกิน 18 เดือน อัตราดอกเบี้ย ใช้อัตราต่ำสุดของอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำ 6 เดือน ประเภท บุคคลธรรมดาของ 4 ธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ (FDR) เฉลี่ยหรือ อัตราดอกเบี้ยเงินให้สินเชื่อของ 4 ธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ (MLR) (ธนาคารกรุงเทพฯ ธนาคารกรุงไทยฯ ธนาคารไทยพาณิชย์ฯ และ ธนาคารกสิกรไทยฯ) เป็นฐานในการคำนวณดอกเบี้ยเงินกู้สำหรับ ทุกอายุเงินกู้ การเบิกจ่ายเงินกู้ รัฐวิสาหกิจจะขอเบิกจ่ายเงินกู้จากธนาคารพาณิชย์ที่เสนอเงื่อนไข ต้นทุนการกู้เงินที่ต่ำที่สุดก่อน โดยจะแจ้งให้ทราบล่วงหน้าไม่น้อย กว่า 5 วันทำการ การค้ำประกัน การค้ำประกันเงินกู้ (ต้นเงินและดอกเบี้ย) แบบบางส่วน (Partial guarantee) ก่อน และจะพิจารณาค้ำประกันเต็มจำนวนเมื่อมีความ จำเป็นเท่านั้น โดยวงเงินการค้ำประกันต้องไม่เกินกว่าที่กฎหมาย กำหนดไว้ การคิดค่าธรรมเนียม การค้ำประกัน ตามสัดส่วนของวงเงินที่กระทรวงการคลังค้ำประกัน และตามประ กาศกระทรวงการคลังได้กำหนดอัตราค่าธรรมเนียม การค้ำประกัน เงินกู้ของรัฐวิสาหกิจ ทั้งนี้ การจัดตั้งวงเงิน Short term facility ดังกล่าวสำหรับการบริหารหนี้ในประเทศของรัฐวิสาหกิจและสถาบันการเงินภาครัฐจะมีลักษณะคล้ายกับการจัดตั้งวงเงิน ECP (Euro Commercial Paper) ของกระทรวงการคลังที่ใช้ในการบริหารหนี้ต่างประเทศภาครัฐ วงเงิน 2,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งจะสร้างความคล่องตัวในการบริหารหนี้ภาครัฐได้เป็นอย่างดี จึงขอประกาศให้ทราบโดยทั่วกัน สำนักจัดการหนี้ 2 ส่วนจัดการเงินกู้รัฐวิสาหกิจ 2สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ โทร. (02) 265-8050 ต่อ 5405

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ