กบข. มั่นใจผลประกอบการปีนี้พลิกฟื้นดีขึ้น ผลตอบแทนตั้งแต่ตั้งกองทุนอยู่ที่ร้อยละ 7.04

ข่าวทั่วไป Tuesday January 20, 2009 15:06 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--20 ม.ค.--กบข. กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) รายงานผลการดำเนินงานปี 2551 มีสินทรัพย์สุทธิทั้งสิ้น 391,882.24 ล้านบาท ผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่เริ่มก่อตั้งกองทุนจนถึงสิ้นปี 2551 (2540-2551) อยู่ที่ร้อยละ 7.04 ซึ่งยังคงเป็นไปตามเป้าหมายของการบริหารเงินออมระยะยาว พร้อมรับวิกฤติเศรษฐกิจโลกที่ผ่านมาส่งผลให้ผลตอบแทนของปี 2551 ติดลบเป็นครั้งแรก นายวิสิฐ ตันติสุนทร เลขาธิการคณะกรรมการกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ(กบข.) เปิดเผยว่าจากภาพรวมการลงทุนในปีที่ผ่านมาเป็นปีที่ท้าทายในการบริหารจัดการลงทุนของนักลงทุนสถาบันและนักลงทุนทั่วไปอย่างมาก เนื่องจากผลตอบแทนการลงทุนปรับตัวลดลงทั่วโลก ประกอบกับได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว ขณะเดียวกันปัญหาเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นในสหรัฐและราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้นในช่วงต้นปียังเป็นแรงกดดันให้เกิดปัญหาเงินเฟ้อ และที่สำคัญการเคลื่อนย้ายเงินทุนจากตลาดหุ้นที่มีการไหลออกอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้ตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวลดลงอย่างรุนแรงกว่าร้อยละ 40 ในขณะที่ตลาดหุ้นไทยได้ปรับตัวลดลงเป็นอย่างมากถึงร้อยละ 50 สำหรับผลตอบแทนการลงทุนของ กบข. ในช่วงที่ผ่านมา ต้องเผชิญต่อผลกระทบที่ทั้งจากปัญหาเศรษฐกิจโลกและเสถียรภาพทางการเมืองในประเทศ แต่อย่างไรก็ตามผลตอบแทนการลงทุนของ กบข.ยังคงเป็นไปตามเป้าหมาย โดยผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่เริ่มก่อตั้งกองทุน (2540-2551) อยู่ที่ร้อยละ 7.04 ผลตอบแทนย้อนหลัง 5 ปี (2547-2551) อยู่ที่ร้อยละ 3.16 และผลตอบแทนสุทธิย้อนหลัง 3 ปี (2549-2551) อยู่ที่ร้อยละ 2.34 ส่วนผลการดำเนินงานของ กบข. ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2551 กบข. มีสินทรัพย์สุทธิทั้งสิ้น 391,882.24 ล้านบาท อัตราผลตอบแทนการลงทุนย้อนหลัง 12 เดือน (ม.ค.-ธ.ค.51) ติดลบร้อยละ 5.12 ทั้งนี้ ซึ่งยังนับว่าอยู่ในระดับที่ดีกว่าการลดลงของตลาดหุ้น รวมทั้งดีกว่ากองทุนบำนาญทั่วโลกด้วย” นอกจากนี้ นายวิสิฐยังได้กล่าวเสริมว่า “การลงทุนทุกประเภทเป็นไปได้ทั้งด้านบวก และด้านลบ โดยหากพิจารณาผลตอบแทนในระยะสั้นเป็นช่วงเวลา เช่น รายวัน รายเดือน และรายปี ก็จะเห็นได้ว่าในแต่ละช่วงเวลานั้นจะพบความผันผวนในระยะสั้นได้ทั้งบวกและลบ ดังนั้น กบข. ซึ่งเป็นกองทุนเงินออมระยะยาวก็ต้องดูผลตอบแทนในระยะยาวเป็นสำคัญ อีกทั้งปัจจุบันโดยเฉลี่ยแล้วสมาชิกมีระยะเวลาในการเป็นสมาชิก กบข. อีกถึง12 ปี จึงจะเกษียณอายุราชการ ดังนั้นสำหรับสมาชิกที่ยังไม่เกษียณอายุราชการ เงินของสมาชิกก็จะถูกนำไปลงทุนหาผลตอบแทนต่อเนื่อง ส่วนผู้ที่เกษียณหรือออกจากราชการแล้วถ้ายังไม่มีความจำเป็นต้องใช้เงินในทันที ก็สามารถที่จะออมต่อกับ กบข. ต่อเนื่องต่อไป และภายหลังเมื่อมีความจำเป็นหรือเมื่อประสงค์จะยื่นขอรับเงินคืนก็สามารถดำเนินการได้ในภายหลัง ทั้งนี้ ขอให้สมาชิก กบข. มีความมั่นใจต่อการดำเนินงานของ กบข. ในการสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับสมาชิกซึ่งนับแต่ตั้งกองทุนมายังคงดำเนินการได้ตามเป้าหมาย และขอให้ความมั่นใจอีกครั้งว่าผลตอบแทนการลงทุนในปี 2552 นี้จะฟื้นดีขึ้นอย่างแน่นอน” โอกาสนี้ นายวิสิฐยังให้มุมมองเกี่ยวกับแนวโน้มการลงทุนของ กบข.ปีนี้ว่า “ยังเชื่อว่าตลาดการเงินโลกยังมีความผันผวนสูง กบข. จึงได้มีการเตรียมปรับแผนการลงทุน และศึกษาลู่ทางการลงทุนใหม่ๆ ทั้งในและต่างประเทศ เพื่อป้องกันและลดความเสี่ยงการลงทุน โดยมองหาโอกาสการลงทุนเพิ่มเติมทั้งในและต่างประเทศมากขึ้น อนึ่ง ปัจจุบัน กบข. มีสัดส่วนการลงทุนในตราสารหนี้ในประเทศร้อยละ 66.95 ตราสารทุนในประเทศร้อยละ 7.00 ตราสารหนี้ต่างประเทศร้อยละ 4.36 ตราสารทุนต่างประเทศร้อยละ 9.07 กองทุนอสังหาริมทรัพย์ร้อยละ 4.74 และลงทุนทางเลือกร้อยละ 7.88 รายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ ยุวพร นนท์ภาษโสภณ กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ ( กบข.) Government Pension Fund Tel. 02-636-1000 Ext.263 , 01-612-2322 Fax. 02-636-1691

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ