กรุงเทพฯ--21 ม.ค.--สหมงคลฟิล์ม
“หลวงพี่กับผีขนุน” ศึกนี้ใครจะอยู่หรือจะไป
HEAD TO HEAD
VS
ประวัติ ประวัติ
ชื่อ สมชาย นามสกุล ไม่ระบุ ชื่อ ปริกศรี นามสกุล ไม่ระบุ (เช่นกัน)
ชื่อในวงการ ไอ้เสือ ชื่อที่ทุกคนเรียกขาน ยายปริกหน้าเลือด
สถานะก่อนบวช เป็นเซลล์แมนจอมลวงโลก สาเหตุการตาย โดนขุนยักษ์ในตำนานหล่น
นิยมเหยื่อที่เป็นคนแก่ วัยรุ่น เด็ก คนพิการ ทับตาย
(สรุปแล้วชอบต้มตุ๋นทุกเพศทุกวัย) ความสามารถพิเศษ ขยันกัดจิก ฟิตด่า ไม่
ความสามารถพิเศษ โกหก ปลิ้นปล้อน ว่าหมาหรือคน แม้กระทั่งพระยายปริกก็ยังไม่เว้น
กะล่อน ตอแหล พอตายไปเป็นผีขนุนเลยเพิ่มดีกรีความเฮี้ยนเป็น
สถานะหลังบวช นุ่งจีวรยังไม่ทันคล่อง สิบเท่า
ก็มีกิจเข้าเต็มๆ เมื่อเป็นความหวังเดียว ประโยคติดปาก
ของชาวบ้านในการปราบผีขนุน “เอาขนุนตูคืนมา...เดี๋ยวแม่หลอกให้จับไข้หัว
ประโยคติดปาก โกร๋นทั้งหัวโล้นหัวดำเลยนี่”
“คืนนี้มีโยมคน
ไหนสนใจไปนอนเป็นเพื่อนอาตมา
ที่วัดมั้ย”
คาแรกเตอร์
ทศพล ศิริวิวัฒน์ (ทศ 108 มงกุฎ) รับบทเป็น พระเสือ
เสือ เซลล์แมนหนุ่มจอมลวงโลก ที่ชีวิตมาถึงทางตันเมื่อโดนจ่าคงเดชตามล่าหัว จนชีวิตต้องพลิกผันมาเป็นพระแบบไม่ทันตั้งตัว เมื่อพระใหม่อย่างเสือต้องกลายเป็นความหวังเดียวของชาวบ้านในการปราบผีขนุนสุดเฮี้ยน พระเสือจึงต้องเจอเรื่องราววุ่นๆ ที่จะทำให้พระเสือไม่มีวันลืมครั้งหนึ่งในชีวิตที่ได้บวชแน่นอน
ถ้าพูดถึงบท “เสือ” นักต้มตุ๋นจอมลวงโลก หรือ “พระเสือ” พระใหม่ที่ต้องเป็นความหวังเดียวของชาวบ้านในการปราบผีขนุนสุดเฮี้ยน ถือเป็นตัวละครสำคัญในการเดินเรื่องที่จะทำให้ทุกคนได้ติดตามเรื่องราวขำขันสุดหรรษาที่เกิดขึ้นกับตัวเขา ซึ่งบทนี้ผู้กำกับดุลยสิทธิ์ก็ได้ทำการเลือกเฟ้นมาเป็นอย่างดี จนฟ้าประทานให้เขามาเจอกับ “ทศพล ศิริวิวัฒน์” หรือที่รู้จักกันดีในนาม “ทศ 108 มงกุฏ”
“สำหรับบทเสือหรือพระเสือ ถือเป็นตัวละครสำคัญของหนังเรื่องนี้ ซึ่งทศเนี่ยตรงกับที่อยากได้ไว้เลย คือตั้งแต่เริ่มเขียนบทเราคุยกับพี่ปรัช (ปรัชญา ปิ่นแก้ว) ซึ่งเป็นโปรดิวเชอร์ ใครที่จะมารับบทนี้ได้ ซึ่งต้องเป็นตัวแทนของคนที่ทำงานอยู่ในเมือง หลังจากได้คุยกับทศแล้วก็ยิ่งรู้สึกว่า ทศ เหมาะกับบทนี้มาก คือยังไม่เคยบวชมาก่อน ก็เหมาะกับบทพระใหม่พอดี background ของทศเองก็มาจากทีม 108 มงกุฎ ดูใกล้ๆ กับ 18 มงกุฏนะ (หัวเราะ) คือคาแร็กเตอร์ของทศ คือดูเป็นคนกะล่อน พอที่จะหลอกลวงชาวบ้านอะไรอย่างนี้ได้ ทศก็เหมาะที่สุดแล้ว ทำให้เราไม่สนใจมาริโอ้เลย”
ผลงานที่ผ่านมา
- ออกแสดงกับเพื่อนๆ โดยใช้ชื่อว่ากลุ่ม 108 มงกุฏ
- กำกับและเขียนบทภาพยนตร์เรื่อง “นายอโศก กับ น.ส.เพลินจิต” และ “สวยลากไส้”
- ผลงานแสดงภาพยนตร์ “7 ประจัญบานภาค 1 และ 2”
- ผลงานแสดงละครซิตคอม “เทวดาสาธุ”
- ปัจจุบันดำรงตำแหน่งผู้จัดการฝ่ายผลิตบริษัท “สหเทเลวิชั่นจำกัด”
เพ็ชรทาย วงษ์คำเหลา รับบทเป็น จ่าคงเดช
จ่าคงเดช เป็นสายสืบมือดีของกรมตำรวจ มุ่งมั่นที่จะปราบปราบพวกสิบแปดมงกุฎในสังคมให้หมดสิ้น โดยเฉพาะเสือเซลล์แมนจอมต้มตุ๋นฝีมือฉกาจ ที่จ่าคงเดชตามจับตัวอย่างถึงพริกถึงขิง ถึงแม้ว่าเสือจะกลายเป็นพระเสือ แต่โปลิสหน้าเหลี่ยมคนนี้ก็กัดไม่ยอมปล่อยแน่นอน
อีกบทบาทหนึ่งที่ถือว่าเป็นสีสันที่ขาดไม่ได้เลยในหนังเรื่องนี้ นั่นคือบทของสายสืบมือดีแห่งยุคที่ตามล่าอาชญากรลวงโลกอย่างไม่ลดละ ที่มีนามว่า “จ่าคงเดช” ซึ่งงานนี้ก็ได้ตลกมากฝีมือและเสียงฮาอย่าง “หม่ำ จ๊กมก” มาสวมบทคุณโปลิศหน้าเหลี่ยม ที่ตามล้างตามเช็ดจอมลวงโลกอย่างเสือตั้งแต่เป็นเซลล์แมนยันเป็นพระ ซึ่งคงพอการันตีได้ว่าศึกครั้งนี้ไม่ได้มีเพียง “หลวงพี่ VS ผีขนุน” เท่านั้น
“ตอนแรกที่ชวนพี่หม่ำมาก็แอบลุ้นว่า แกจะมาร่วมโปรเจกต์นี้ด้วยคนหรือเปล่า พอแกตอบตกลงก็เลยสร้างตัวละครตัวนี้มาเพื่อเขาโดยเฉพาะเลย คือในเรื่องนี้ต้องมีต้องมีตัวละครตัวหนึ่งที่คอยตามล้างตามเช็ด 18 มงกุฐตัวฉกาจนี้ ซึ่งต้องได้คู่ต่อกรที่สมน้ำสมเนื้อกัน ซึ่งมองอีกมุมก็เหมือนกับได้ตลกในสไตล์มีชั้นเชิงอย่างทศมาเจอกับตลกชั้นเซียนอย่างพี่หม่ำ ซึ่งอารมณ์ที่ออกมาคงให้การันตีถึงความหรรษาแน่นอน”
ผลงานที่ผ่านมา
- พิธีกรรายการ “ชัยบดินทร์โชว์”
- พิธีกรรายการ “หม่ำโชว์”
- พิธีกรร่วมรายการ “ชิงร้อยชิงล้าน”
- แสดงภาพยนตร์เรื่อง 2โทน, กวนโอ้ย, บ้านผีปอบ มือปืน/โลก/พระ/จันทร์, องค์บาก, ต้มยำกุ้ง, เฉิ่ม, ผีฉลุย และนักแสดงรับเชิญในอีกหลายเรื่อง
- 2547 กำกับและแสดงนำภาพยนตร์เรื่อง “บอดี้การ์ดหน้าเหลี่ยม”
- เปิดตัว “บั้งไฟฟิล์ม” สำหรับผลิตภาพยนตร์
- 2548 กำกับและแสดงนำภาพยนตร์เรื่อง “แหยม ยโสธร”
- ดำรงตำแหน่งประธานบริหารบริษัท ลำน้ำชี จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่าย เพลง , CD
- เปิดบริษัท บั้งไฟสตูดิโอร่วมกับบริษัท เวิร์คพอยท์ ผลิตรายการหม่ำโชว์
- พิธีกรรายการหม่ำโชว์
- 2549 กำกับและแสดงนำในภาพยนตร์เรื่อง “บอดี้การ์ดหน้าเหลี่ยม 2”
- 2550 แสดงนำภาพยนตร์เรื่อง “คู่แรด”
- 2550 ร่วมกำกับและแสดงนำในภาพยนตร์เรื่อง “หม่ำเดียว หัวเหลี่ยมหัวแหลม”
- โปรดิวเซอร์ภาพยนตร์เรื่อง “ว้อ…หมาบ้ามหาสนุก”
- 2551 แสดงนำภาพยนตร์เรื่อง “ฮะเก๋า”
อาชิรญาณ์ ภีระภัทร์กุญช์ชญา รับบทเป็น กุ๊กไก่
กุ๊กไก่ เจ้าหน้าที่อนามัยประจำตำบล น้องสาวของต๋อง เป็นคนน่ารัก นิสัยเรียบร้อยแบบชาวบ้านๆ คอยช่วยดูแลแม่พระเสือ ในขณะที่พระเสือกำลังง่วนอยู่กับการปราบผีขนุนสุดเฮี้ยน
ใช่ว่า “หลวงพี่กับผีขนุน” จะมีแต่เรื่องราวของพระใหม่ไม่รู้ประสาธรรม กับผีขนุนสุดแสบเท่านั้น เพราะยังมีอีกหนึ่งสีสันที่อาจจะทำให้คุณลืมเรื่องสุดผวาฮาแตกไปได้ชั่วคราว นั่นคือความน่ารักสดใสของ หนูจ๋า-อาชิรญาณ์ กับบทบาทของกุ๊กไก่ เจ้าหน้าที่อนามัยแสนเรียบร้อย ซึ่งเจ้าตัวพูดถึงบทบาทที่ได้รับในเรื่องนี้ว่า
“หนูจ๋ารับบทเป็นกุ๊กไก่ เจ้าหน้าที่อนามัยประจำหมู่บ้านที่พระเสือมาบวช ซึ่งบังเอิญว่าเป็นน้องสาวของอบต.ต๋องเพื่อนเก่าของพระเสือ ซึ่งกุ๊กไก่ก็เป็นคนที่คอยดูแลแม่ของพระเสือ เพราะว่าพระเสือต้องไปช่วยชาวบ้านปราบผีขนุนอยู่ ซึ่งบทบาทที่ได้รับในเรื่องนี้ก็แตกต่างจากที่ผ่านมาเยอะเลยนะคะ อย่างเรื่องมนุษย์เหล็กไหลก็จะออกแนวบู๊หน่อย พอมาเรื่องคนไฟลุกก็จะออกแนวลึกลับ มาเรื่องนี้ก็เป็นธรรมชาติมากกว่าบทอื่นที่เคยรับมาค่ะ ยังไงก็ฝากผลงานเรื่องนี้ด้วยได้สนุกหรรษาแล้วยังได้ข้อคิดดีๆ กลับไปอีกด้วย”
ผลงานที่ผ่านมา
- มนุษย์เหล็กไหล (2549),
- คนไฟลุก (2551)
และที่ขาดไม่ได้....
นทีพร เชื้อบัณฑิตย์ รับบทเป็น ผีขนุน
เมื่อตอนยังมีชีวิต ยายปริกเป็นคนที่ทั้ง งก และ ปากร้าย แม้กระทั่งพระยายปริกก็ยังไม่ไว้หน้า จนเป็นที่เกลียดชังของชาวบ้าน จนมาวันหนึ่งฟ้าก็ลงโทษเมื่อยายปริกต้องมาตายด้วยขนุน จึงกลายสภาพเป็นผีขนุนสุดเฮี้ยนออกอาละวาดชาวบ้าน
Director’s Note
ฤดูร้อน หลังสงกรานต์, ผมได้ข่าวว่า“จุ๊บ” เพื่อนสนิทที่เป็นผู้กำกับหนังจะบวชที่วัดเล็กๆ ท่ามกลางหุบเขาแห่งหนึ่งในอำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่, ผมกับ“โป๋ย” เพื่อนที่เป็นผู้กำกับหนังอีกคนตัดสินใจเดินทางไปร่วมงาน แต่ด้วยความเละเทะของเรางานเลี้ยงเมื่อคืนทำให้เราตื่นกันสายโด่ง เลยต้องตาลีตาเหลือกรีบเดินทางออกจากตัวเมือง ก่อนจะพบว่าเราหลงทางอยู่ในสวนส้มตรงไหนซักแห่งระหว่างทางแม่ริม-แม่แตง และทำให้กว่าที่เราจะถึงวัดพิธีกรรมทุกอย่างก็สิ้นสุดไปแล้ว
ผมยังจำภาพวันนั้นได้ดี เมื่อก้าวเข้าไปในวัด สิ่งที่สัมผัสได้อย่างแรกนอกจากความความเงียบสงบแล้ว สิ่งที่เห็นตรงหน้าคือเพื่อนของเรา กลายเป็นพระไปแล้ว เหลือบไปข้างๆ พระก็เห็นหมาวัดกับเด็กตัวคนหนึ่งนั่งอยู่ข้างๆ บนพื้นบันไดหน้าโบสถ์ รอบตัวมีเณรตัวเล็กที่บวชพร้อมกัน กับเพื่อนเณรตัวเล็กตัวน้อยอีกโขยงหนึ่งวิ่งไล่เตะกันอยู่รอบๆ วัด ณ จังหวะนั้นว่า ผมรู้สึกเลยว่า นั่นคือ Inspiration ของผม เป็นครั้งแรกในชีวิตที่ไปงานบวชของเพื่อน ความรู้สึกที่เคยสนิท เคยคุยมุขตลกโปกฮา เขกหัว หรือไล่เตะกัน อยู่ๆ ก็รู้สึกว่า มันทำไม่ได้แล้ว คำพูดหลายคำที่เคยเรียก เคยพูดกันง่ายๆ ต้องเปลี่ยนไปหมด สรรพนามแทนตัวก็เปลี่ยนไป ทั้งเราและเพื่อนพระคงรู้สึกแปลกๆ โดยเฉพาะผมซึ่งไม่เคยคิดมาก่อน และไม่ได้เตรียมตัวมารับมือกับความเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วอันนี้
ณ เวลานั้น เราทั้งคู่ เหมือนอยู่คนละโลกแม้จะกระท่อนกระแท่นหน่อย แต่เราก็ยังนั่งคุยกันได้ เมื่อถามถึงพระองค์อื่นๆ เพื่อนพระบอกว่าตอนนี้วัดมีพระองค์เดียว คือเจ้าอาวาส ซึ่งตอนนี้ก็ไม่อยู่แล้ว น่าจะติดรถพระลำดับเมื่อเช้าไปธุระ คืนนี้คงจำวัดอยู่วัดอื่น ผมแปลกใจมาก ไม่รู้จะขำหรือจะยังไงดี นึกภาพไม่ออกเลยว่า พรุ่งนี้พระใหม่กับเณรใหม่จะเดินไปบิณฑบาตกันยังไง แล้วอยู่ๆ หัวโจกตัวกระเปี๊ยกของพวกเด็กวัดก็เงยหน้าจากวงเป่าหนังยางแถวนั้น บอกเราว่า ไม่ต้องกังวล เขาผ่านพระใหม่มาเยอะ ก่อนจะอธิบายให้เราฟังถึงภารกิจของพระใหม่อย่างเป็นขั้นเป็นตอน ทำเอาผมกับพระใหม่ค่อยๆ หันมามองหน้ากันเหวอๆ โดยไม่ได้นัดหมาย
ผมเลยเปรยขึ้นมาลอยๆ ว่า “เออ เรื่องนี้น่าเอาไปทำเป็นหนังว่ะ” เพื่อนพระชะงักไปนิดก่อนจะยิ้มละไม แล้วผสมโรงด้วย สุดท้ายคือ ผมกับเพื่อนพระเริ่มต้นนั่งคุยพล็อคหนังใหม่กันณ บันไดหน้าโบสถ์แห่งนั้น……..
ดุลยสิทธิ์ นิยมกุล
มกราคม 2552
Director’s profile
ชื่อ ดุลยสิทธิ์ นิยมกุล
เกิดเมื่อวันที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2509
การศึกษา : จบด้านจิตวิทยา จากมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒประสานมิตร
ผลงานทางด้านภาพยนตร์ที่ผ่านมา :
- เริ่มต้นจากงานผู้ช่วยผู้กำกับภาพยนตร์ “ฝากฝันไว้เดี๋ยว จะเลี้ยวมาเอา” (พ.ศ.2535)
- ก่อนจะมารับเขียนบทภาพยนตร์ให้ อาร์เอสฟิล์ม อย่าง “เกิดอีกทีต้องมีเธอ” “เด็กระเบิด ยืดแล้วยึด”
ได้รับรางวัลบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม สุพรรณหงส์ทองคำ จาก ”โลกทั้งใบให้นายคนเดียว”
- ปี 2538 เขียนบทและร่วมกำกับ “เจนนี่ กลางวันครับ กลางคืนค่ะ” ได้รับรางวัลผู้กำกับยอดเยี่ยมจาก Cinemag Spirit Award ปี 2539
- ปี 2543 ผลงานเขียนบทอื่นๆ ได้แก่ โกลด์คลับ-เกมส์ล้มโต๊ะ และแม่เบี้ย
- ปี 2544 ร่วมกำกับภาพยนตร์ “ขวัญ-เรียม”
- ปี 2548 กำกับภาพยนตร์ “ก็เคยสัญญา”
- ปี 2549 กำกับภาพยนตร์ “ศพ”
- ปี 2552 กำกับภาพยนตร์ “หลวงพี่กับผีขนุน”
Kornpanut Chainichayakul .. moonOi
Online Marketing Executive
Sahamongkolfilm International Co., Ltd.
388 S.P. Building 9th B Fl. Phaholyothin Road
Samsennai Phayathai
Bangkok 10400 Thailand
Tel. 0-2273-0939 - 9 ext. 135
Fax. 0-2273-0989
Mobile. 08-1580-3266
E-Mail : kornpanut@sahamongkolfilm.com
msn : jackanapes_noi@hotmail.com
http://www.sahamongkolfilm.com