กรุงเทพฯ--8 พ.ย.--ฟิทช์ เรทติ้งส์
บริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด ประกาศให้อันดับเครดิตภายในประเทศ (National Rating) แก่หนี้ไม่มีหลักประกัน ไม่ด้อยสิทธิของ บมจ. ดิ เอราวัณ กรุ๊ป (Erawan) ที่ระดับ ‘BBB (tha)’ และอันดับเครดิตระยะสั้นในประเทศ (Short-term National Rating) ที่ระดับ ‘F3 (tha)’ แนวโน้มมีเสถียรภาพ อันดับเครดิตสะท้อนถึงคุณภาพสินทรัพย์ของบริษัทที่อยู่ในระดับสูง ชื่อเสียงของโรงแรมและศูนย์การค้าในกลุ่ม Erawan ที่เป็นที่รู้จักอย่างดี และความสัมพันธ์ที่ดีอันยาวนานของ Erawan กับกลุ่มโรงแรมชั้นนำระดับโลก ได้แก่ Hyatt และ Marriott นอกจากนี้ สินทรัพย์หลักของ Erawan ทั้งหมดยังตั้งอยู่ในทำเลที่ดีใจกลางกรุงเทพฯ โรงแรมในกลุ่มของ Erawan ซึ่งได้แก่ Grand Hyatt Erawan Bangkok (GHEB) และ JW Marriott (JWM) นั้น ยังเป็นที่ยอมรับทั่วไปในด้านคุณภาพของการบริการที่สูง
อันดับเครดิตยังพิจารณาถึงความเสี่ยงที่เกิดจากกระจายตัวของรายได้ที่ต่ำ เนื่องจากรายได้ส่วนใหญ่ของ Erawan มาจากโรงแรม GHEB และ JWM ที่มีกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่คล้ายคลึงกันและยังตั้งอยู่ในกรุงเทพๆ ทั้งสองแห่ง รวมถึงภาวะการแข่งขันของกลุ่มธุรกิจโรงแรมในกรุงเทพฯ ที่คาดว่าจะสูงขึ้นอีกในอนาคต อย่างไรก็ตาม แผนการขยายธุรกิจของ Erawan ที่เพิ่มกลุ่มลูกค้าเป้าหมายและขยายไปในพื้นที่นอกกรุงเทพฯ ซึ่งคาดว่าจะเสร็จสิ้นในปี 2550 น่าจะช่วยลดทอนผลกระทบจากปัจจัยด้านลบดังกล่าวได้ อันดับเครดิตได้สะท้อนถึงการที่ผลประกอบการของกลุ่มธุรกิจโรงแรมนั้น มีความแปรผันค่อนข้างสูงต่อวัฏจักรเศรษฐกิจและเหตุการณ์ที่อาจก่อให้เกิดผลกระทบอย่างรุนแรงต่อภาคธุรกิจท่องเที่ยว ดังจะเห็นได้ชัดจากผลกระทบทางด้านลบจากเหตุการณ์การแพร่ระบาดของโรค Severe Acute Respiratory Syndrome (SARS) ต่อกลุ่มธุรกิจนี้ในช่วงไตรมาสที่ 2 ของปี 2546 นอกจากนี้ ปัจจัยเสี่ยงจากการก่อการร้ายที่ทวีความรุนแรงขึ้นไปทั่วโลก รวมถึงผลกระทบทางลบต่อเศรษฐกิจที่อาจเกิดขึ้นจากภาวะราคาน้ำมันแพงยังได้ถูกนำมาพิจารณาในการจัดอันดับเครดิตครั้งนี้ด้วย
แม้ว่าระดับหนี้สินในงบการเงินรวมของ Erawan ได้ปรับลดลงอย่างมากในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ระดับหนี้สินของกลุ่ม Erawan ยังคงถือว่าอยู่ในระดับค่อนข้างสูง โดยมีอัตราส่วนหนี้สินสุทธิที่ปรับปรุงแล้วต่อกำไรจากการดำเนินงานก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษีเงินได้ ค่าเสื่อมราคา ค่าตัดจำหน่าย และค่าเช่า (Adjusted Net Debt to EBITDAR) อยู่ที่ระดับ 4.7 เท่า ณ สิ้นปี 2547 ซึ่งหากพิจารณาถึงแผนการใช้เงินลงทุนที่สูงของบริษัท ระดับหนี้สินของ Erawan น่าจะเพิ่มสูงขึ้นในปี 2548 ก่อนที่จะทยอยปรับลดลงหลังจากนั้น นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากการดำเนินงาน (Execution Risk) ที่สืบเนื่องมาจากการลงทุนใหม่นี้ด้วย ถึงแม้ว่าความเสี่ยงส่วนหนึ่งอาจสามารถลดทอนลงได้จากที่ Erawan มีการทำสัญญาจัดการกับผู้ประกอบการโรงแรมระดับสากล ในขณะเดียวกัน แนวโน้มอัตราการรับชำระหนี้ คืน (Potential Recovery) ของหนี้ไม่มีหลักประกัน ไม่ด้อยสิทธิของ Erawan ยังได้รับผลกระทบจากโครงสร้างทางการเงินของกลุ่มที่มีหนี้สินมีหลักประกันและมีหนี้สินที่บริษัทลูกอยู่ในระดับสูง คิดเป็นประมาณ 80% ของหนี้สินรวม ณ สิ้นครึ่งปีแรกของปี 2548
Erawan ทำหน้าที่เป็นแหล่งเงินกู้ระยะสั้นของบริษัทในกลุ่ม โดยผ่านการเพิ่มทุนในรูปแบบของผู้ถือหุ้นหรือการให้เป็นเงินกู้ยืมแก่บริษัทในกลุ่ม ในขณะที่บริษัทลูกจะเป็นผู้จัดหาแหล่งเงินทุนระยะยาวเอง กระแสเงินสดรับจากบริษัทลูกจะอยู่ในรูปของการจ่ายเงินปันผลหรือเงินกู้ยืมแก่ Erawan ซึ่งโดยทั่วไป อัตราการจ่ายเงินปันผลของบริษัทลูกจะถูกกำหนดที่ระดับ 100% สำหรับโครงสร้างหนี้สินของกลุ่ม Erawan ณ สิ้นครึ่งปีแรกของปี 2548 นั้น ส่วนใหญ่ประกอบไปด้วยหนี้สินไม่มีหลักประกันและมีหลักประกันของ Erawan และหนี้สินมีหลักประกันของบริษัทลูกหลักอีก 2 แห่ง ซึ่งในจำนวนหนี้สินรวมของกลุ่ม Erawan ทั้งหมดนี้ คิดเป็นหนี้สินระยะสั้นประมาณ 20% และหนี้สินระยะยาวอีก 80% อย่างไรก็ดี สัดส่วนของหนี้สินระยะสั้นนั้นมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นในปี 2549 และปี 2551 เมื่อเงินกู้ยืมระยะยาวของบริษัทลูกทั้ง 2 แห่งครบกำหนดชำระ ซึ่งหากพิจารณาถึงการคาดการณ์ว่าผลประกอบการของบริษัทลูกทั้ง 2 แห่งจะค่อนข้างแข็งแกร่งและมีหนี้สินที่อยู่ในระดับที่สามารถจัดการได้ ความเสี่ยงในการจัดหาเงินกู้ใหม่เพื่อชำระคืนเงินกู้เดิม (Refinancing Risk) นั้นอยู่ในระดับที่ยอมรับได้ โดย ณ วันสิ้นงวด 6 เดือนแรกของปี 2548 Erawan มีเงินสดในงบการเงินรวมจำนวน 174 ล้านบาท และมีวงเงินสินเชื่อระยะสั้นจากธนาคารที่ยังไม่ได้ใช้อีกจำนวน 763 ล้านบาท ซึ่งในช่วงไตรมาสที่ 3 ของปี 2548 Erawan ได้ทำการเบิกใช้วงเงินสินเชื่อระยะสั้นดังกล่าวจำนวน 345 ล้านบาท เพื่อนำมาใช้ในการลงทุน โดย Erawan มีแผนที่จะเปลี่ยนเงินกู้ยืมระยะสั้นดังกล่าวเป็นเงินกู้ยืมระยะยาวภายในสิ้นปี 2548
แนวโน้มมีเสถียรภาพของอันดับเครดิตสะท้อนถึงคุณภาพสินทรัพย์ที่อยู่ในระดับสูงของ Erawan และระดับหนี้สินที่คาดว่าจะทยอยปรับลดลงในอีก 18-24 เดือนข้างหน้า
ติดต่อ: อรวรรณ การุณกรสกุล, Vincent Milton, +662 655 4755
หมายเหตุ : การจัดอันดับเครดิตภายในประเทศ (National Ratings) เป็นการวัดระดับความน่าเชื่อถือในเชิงเปรียบเทียบกันระหว่างองค์กรในประเทศนั้นๆ โดยจะใช้ในประเทศที่อันดับเครดิตแบบสากลของรัฐบาลในประเทศนั้นอยู่ในระดับที่ค่อนข้างต่ำ อันดับเครดิตขององค์กรที่ดีที่สุดของประเทศได้จัดไว้ที่ระดับ “AAA” และการจัดอันดับเครดิตอื่นในประเทศ จะเป็นการเปรียบเทียบความเสี่ยงกับองค์กรที่ดีที่สุดนี้เท่านั้น อันดับเครดิตภายในประเทศได้ถูกจัดทำขึ้นเพื่อใช้ในตลาดในประเทศเป็นหลักและจะมีสัญลักษณ์ที่กำหนดไว้ต่อท้ายจากอันดับเครดิตสำหรับประเทศนั้นๆ เช่น “AAA(tha)” ในกรณีของประเทศไทย ดังนั้นอันดับเครดิตภายในประเทศจึงไม่สามารถใช้เปรียบเทียบระหว่างประเทศได้
คำจำกัดความของอันดับเครดิตและการใช้อันดับเครดิตดังกล่าวของ ฟิทช์ เรทติ้งส์ สามารถหาได้จาก www.fitchratings.com อันดับเครดิตที่ประกาศ หลักเกณฑ์และวิธีการจัดอันดับเครดิต ได้แสดงไว้ในเว็บไซต์ดังกล่าวตลอดเวลา หลักจรรยาบรรณ การรักษาข้อมูลภายใน ความขัดแย้งทางผลประโยชน์ที่อาจเกิดขึ้น แนวทางการเปิดเผยข้อมูลระหว่างบริษัทในเครือ กฏข้อบังคับรวมทั้งนโยบายและกระบวนการที่เกี่ยวข้องอื่นๆของฟิทช์ ได้แสดงไว้ในส่วน ‘หลักจรรยาบรรณ’ ในเว็บไซต์ดังกล่าวเช่นกัน--จบ--