กรุงเทพฯ--21 ม.ค.--ไทยออยล์
บมจ.ไทยออยล์ แต่งตั้ง ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารกรุงไทย และธนาคารไทยพาณิชย์ ธนาคารพาณิชย์ชั้นนำของประเทศ เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ไทยออยล์ ซึ่งบริษัทได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือจาก Fitch Ratings ที่ระดับ AA- โดยจะเสนอขายหุ้นกู้ทั้งนักลงทุนสถาบันและประชาชนทั่วไปผ่านสาขาของธนาคาร ประมาณต้นเดือนกุมภาพันธ์ 2552 นี้
นายวิโรจน์ มาวิจักขณ์ กรรมการอำนวยการ บริษัทไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “ ทางบริษัทฯ ซึ่งเป็นบริษัทในกลุ่มปตท. ได้แต่งตั้ง ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) และธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ให้เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ของทางบริษัทฯ เพื่อเสนอขายแก่นักลงทุนสถาบัน และนักลงทุนรายย่อยผ่านเครือข่ายสาขาของธนาคารทั้ง 4 แห่ง ประมาณต้นเดือนกุมภาพันธ์ 2552 โดยเงินทุนที่ได้จากการจำหน่ายหุ้นกู้ครั้งนี้จะนำไปใช้ในการจ่ายชำระคืนเงินกู้ เป็นเงินทุนหมุนเวียน และเพื่อใช้ในการลงทุนของบริษัท ส่วนอัตราดอกเบี้ยหุ้นกู้ของบริษัทคาดว่าจะมีการประกาศภายในสิ้นเดือนมกราคมนี้ หลังจากที่มีการยื่นอัตราดอกเบี้ยให้แก่ กลต. ”
บมจ.ไทยออยล์นั้น มีบมจ.ปตท. ถือหุ้นในอัตรา 49.10% ดำเนินธุรกิจโรงกลั่นน้ำมันที่ใหญ่ที่สุดของกลุ่มปตท. และนับเป็นโรงกลั่นที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย โดยเป็นโรงกลั่นแบบ Complex ที่มีความทันสมัยแห่งหนึ่งในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค สามารถกลั่นน้ำมันดิบได้หลายประเภท โดยเฉพาะอย่างยิ่งสามารถกลั่นผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมสำเร็จรูปประเภทเบาและกลางได้ในสัดส่วนที่สูง ซึ่งมีมูลค่าสูงกว่าปิโตรเลียมประเภทหนัก และบริษัทขยายการลงทุนไปยังธุรกิจอื่นที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ ธุรกิจปิโตรเคมี ธุรกิจหล่อลื่น ผลิตไฟฟ้า เรือขนส่งผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมและปิโตรเคมี และธุรกิจโซลเว้นท์ นับเป็นจุดเด่นสำคัญที่ทำให้ทางบริษัทมีสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง มีอัตราผลกำไรจากการกลั่นสูง โดยมี Financial Leverage ที่ไม่สูงนัก ปัจจุบันทางบมจ.ไทยออยล์ ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือจากฟิทช์ เรตติ้ง (ประเทศไทย) ที่ระดับ AA- และแนวโน้มเครดิตมีเสถียรภาพ
Niramol Likitprathan (COPA 1/1)
Assistant Manager - Public Affairs
Thai Oil Public Company Limited
Tel: 0-2299-0000 ext. 7121
mobile phone: 081-624-2991