กรุงเทพฯ--17 พ.ค.--ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
บมจ.สหมิตรเครื่องกล เข้าซื้อขายในกลุ่มวัตถุดิบและสินค้าอุตสาหกรรม ด้วยทุนจดทะเบียน 530 ล้านบาท เตรียมนำเงินที่ระดมได้ไปลงทุนในโครงการโรงงานชุบแข็งเหล็ก ชำระหนี้เงินกู้ และใช้เป็น เงินทุนหมุนเวียน
นางสาวโสภาวดี เลิศมนัสชัย รองผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า คณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์ฯ อนุมัติรับหุ้นสามัญของบริษัท สหมิตรเครื่องกล จำกัด (มหาชน) เป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนกลุ่มวัตถุดิบและสินค้าอุตสาหกรรม หมวดธุรกิจยานยนต์ โดยซื้อขายตั้งแต่วันที่ 18 พฤษภาคม 2548 ใช้ชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์ว่า “SMIT”
“บริษัท สหมิตรเครื่องกล จำกัด (มหาชน) เป็นบริษัทของคนไทยที่มีประวัติอันยาวนานกว่า 30 ปี ด้วยวิสัยทัศน์ของทีมผู้บริหารที่เล็งเห็นถึงโอกาสทางธุรกิจ ในการเข้าไปมีส่วนสนับสนุนการเติบโตของ อุตสาหกรรมโดยรวมของประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งอุตสาหกรรมยานยนต์ที่จัดเป็นฐานลูกค้าสำคัญของบริษัทและด้วยความมุ่งมั่นในการสร้างรากฐานของธุรกิจให้มีความมั่นคง แข็งแกร่ง โดยการเน้นนโยบายการตอบสนองความต้องการของลูกค้าด้วยคุณภาพของสินค้าและบริการ ทำให้ปัจจุบันบริษัทมีฐานลูกค้ากว่า 2,000 ราย และมีผลการดำเนินงานที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง ทำให้เชื่อได้ว่าบริษัทจะนำพาความสำเร็จและสร้างมูลค่าเพิ่มตลอดจนสร้างผลตอบแทนที่ดีให้แก่ผู้ถือหุ้นในระยะยาว” นางสาวโสภาวดีกล่าว
SMIT มีทุนจดทะเบียนชำระแล้ว 530 ล้านบาท ประกอบด้วยหุ้นสามัญเดิม 440 ล้านหุ้น หุ้นสามัญ เพิ่มทุน 90 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท โดยบริษัทได้เสนอขายให้แก่ประชาชนทั่วไป (ไอพีโอ) ระหว่างวันที่ 10 — 11 พฤษภาคม 2548 ในราคาหุ้นละ 2.75 บาท โดยมีบริษัท โกลเบล็ก แอ็ดไวเซอรี่ จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และบริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด เป็นแกนนำในการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย
ภายหลังจากการระดมทุน SMIT จะนำเงินที่ได้ไปลงทุนในโครงการโรงงานชุบแข็งเหล็ก 130 ล้านบาท และอีก 100 ล้านบาทจะใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนภายในบริษัท ส่วนที่เหลือจะนำเงินที่ได้ไปชำระคืนเงินกู้ SMIT มีนโยบายจ่ายเงินปันผลไม่น้อยกว่าร้อยละ 40% ของกำไรสุทธิหลังหักภาษีสำรองตามกฎหมาย
และสำรองเพื่อการขยายของบริษัท โดยที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นของบริษัทประจำปี 2548 เมื่อวันที่ 29 เมษายน 2548 ได้มีมติจ่ายเงินปันผลประจำปี 2547 ให้กับผู้ถือหุ้นของบริษัทที่มีรายชื่อปรากฏใน สมุดทะเบียน ณ วันที่ 25 พฤษภาคม 2548 เวลา 12.00 น. ในอัตรา 0.10 บาทต่อหุ้น รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 53 ล้านบาท โดยกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 30 พฤษภาคม 2548
การกำหนดราคาหุ้นเพิ่มทุนที่เสนอขายต่อประชาชนในครั้งนี้ บริษัทกำหนดราคาโดยใช้วิธีอัตราส่วนราคาหุ้นต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (P/E) โดยเปรียบเทียบกับหลักทรัพย์ในหมวดธุรกิจยานยนต์ ซึ่งมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 12.56 เท่า ขณะที่หุ้นของบริษัทคำนวณจากกำไรต่อหุ้นของปี 2547 โดยปรับฐานให้เป็นจำนวนหุ้น ภายหลังเสนอขายไอพีโอ ซึ่งมีค่า P/E ที่ระดับ 11.46 เท่า นอกจากนี้บริษัทยังใช้วิธีการทำ Book Building จากการสอบถามปริมาณความต้องการซื้อหุ้นจากนักลงทุนสถาบันด้วย
SMIT ดำเนินธุรกิจนำเข้าและจัดจำหน่ายเหล็กอุตสาหกรรม กระดาษพิมพ์ เครื่องจักรและอุปกรณ์ เพื่อให้บริการที่ครบวงจรกับภาคอุตสาหกรรมการผลิตที่สำคัญของประเทศ เช่น อุตสาหกรรมแม่พิมพ์ชิ้นส่วนและเครื่องมือ อุตสาหกรรมรถยนต์ อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ อุตสาหกรรมกระดาษ อุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์ไม้ เป็นต้น
ทั้งนี้ สัดส่วนการถือหุ้นหลังขายหุ้นเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนทั่วไปของกลุ่มผู้ถือหุ้น 3 อันดับแรก ได้แก่ 1) กลุ่มนายชัยศิลป์ แต้มศิริชัย ถือหุ้นร้อยละ 17.50 2) กลุ่มนายประสงค์ ศรีธรรัตน์กุล ถือหุ้นในอัตราร้อยละ16.93 และ3) กลุ่มนายปราโมทย์ ศิวรักษ์ ถือหุ้นในอัตราร้อยละ 14.32 ของทุนจดทะเบียนชำระแล้วหลังเสนอขายหุ้นแก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก
ผู้สนใจข้อมูลของ บมจ.สหมิตรเครื่องกล สามารถติดตามได้จากเว็บไซต์ของบริษัทที่ www.sahamit.co.th และเว็บไซต์ของตลาดหลักทรัพย์ฯที่ www.set.or.th และเว็บไซต์ของบริษัท เซ็ท เทรด ดอท คอม จำกัด ที่ www.settrade.com
ติดต่อส่วนสื่อมวลชนสัมพันธ์ ฝ่ายสื่อสารองค์กร :
ลดาวัลย์ กันทวงศ์ โทร. 0-2229—2036
กุลวิดา จินตกะวงส์ โทร. 0-2229 —2037
ณัฐพร บุญประภา โทร. 0-222 2049
วรรษมน เสาวคนธ์เสถียร โทร. 0-2229 — 2797--จบ--