กรุงเทพฯ--5 ม.ค.--สวทช.
นายเกียรติศักดิ์ ว่องพานิช หัวหน้าฝ่ายประชาสัมพันธ์กรมสรรพากร เปิดเผยว่า มาตาการภาษีเพื่อส่งเสริมการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีนี้ ถือเป็นวาระแห่งชาติที่รัฐบาลให้การสนับสนุนและส่งเสริมให้เกิดสถาบัน หรือ ศูนย์การวิจัยและพัฒนาของภาคเอกชนไทยขึ้นในประเทศ เพื่อที่เราจะไม่ต้องสูญเสียเงินตราไปว่าจ้างต่างประเทศทำวิจัยอีกต่อไป อีกทั้ง อาจช่วยดึงเอกชนต่างชาติหันมาใช้บริการว่าจ้างเอกชนไทย ทำวิจัย เป็นการดึงเงินตราเข้าประเทศได้อีกทางหนึ่งด้วย
“ ทั้งนี้ในแง่ของการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีแล้ว ถือว่ามีความจำเป็นและเป็นประโยชน์ต่อประเทศค่อนข้างมาก เรื่องของความรู้ความสามารถ สิ่งที่เป็นภูมิปัญญาไทย เป็นเรื่องที่รัฐบาลให้การสนับสนุนผลักดันอยู่แล้ว โดยเฉพาะการพัฒนาสภาพจากขั้นพื้นฐาน ไปสู่นวัตกรรมการเชิงประยุกต์ได้ เชื่อว่า ต่อไปประเทศไทยสามารถเป็นผู้กำหนดรูปแบบของมาตรฐานในการพัฒนาได้เองในอนาคต” นายเกียรติศักดิ์ กล่าว
สำหรับผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการ จะต้องเป็นผู้ที่สนใจ หรือ ต้องการทำวิจัย และพัฒนาเทคโนโลยี เพื่อให้เกิดนวัตกรรม หรือ ผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ โดยค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่เกิดขึ้นทั้งหมดจากการทำวิจัยฯ สามารถนำมาขอยกเว้น หรือ ขอคืนภาษีได้ถึง 2 ต่อ หรือคิดเป็น 200% โดยมีเงื่อนไขว่า จะต้องเป็น สถาบัน หรือ ศูนย์วิจัยและพัฒนา ที่จดทะเบียนไว้กับกรมสรรพากรเท่านั้น จึงจะสามารถดำเนินการยื่นขอรับสิทธิประโยชน์ดังกล่าวได้ และจะต้องผ่านการรับรองจาก สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ ( สวทช.)
โดยบริษัทที่ต้องการทำวิจัย สามารถนำฝ่ายวิจัยของตน มาจดทะเบียนกับกรมสรรพากร ส่วนเอกชนใดที่ไม่มีหน่วยวิจัยเป็นของตนเอง ก็สามารถใช้บริการของหน่วยงานที่รับทำวิจัยและพัฒนาที่มีอยู่ทั้งในส่วนของหน่วยงานรัฐ และสถาบันอุดมศึกษาต่างๆ ที่จดทะเบียนไว้กับกรมสรรพากร จากนั้นนำค่าใช้จ่ายทั้งหมดมาขอคืนภาษีเงินได้ โดยให้ยื่นโครงการฯ ไปยังสำนักงานเลขานุการคณะกรรมการรับรองโครงการวิจัยและพัฒนา (RDC) ซึ่งเป็นหน่วยงานหนึ่งภายใต้การกำกับของศูนย์บริหารเทคโนโลยี (TMC) สวทช. จัดตั้งขึ้นเพื่อให้การสนับสนุนเอกชนที่ลงทุนเพื่อการทำวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีให้ได้รับสิทธิประโยชน์ของการยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลจากกรมสรรพากร
ปัจจุบัน มีหน่วยงานที่รับทำการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยี ตามประกาศของกระทรวงการคลังเกี่ยวกับภาษีเงินได้ ทั้งสิ้น 75 ราย ( ข้อมูล ณ เดือน ธ.ค.47)
นายสมชาย สุวิชาวรพันธุ์ หัวหน้าสำนักงานเลขานุการคณะกรรมการรับรองโครงการวิจัยและพัฒนา (RDC) เปิดเผยว่า--จบ--