กรุงเทพฯ--27 ม.ค.--คต.
นางอภิรดี ตันตราภรณ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ (คต.) เปิดเผยว่าสหภาพยุโรปได้ออกคำสั่ง Commission Directive 2008/123/EC เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2551 แจ้งปรับเปลี่ยนรายการสารที่ห้ามใช้ในสินค้าเครื่องสำอาง (Cosmetics) เนื่องจากอาจเป็นอันตรายต่อผู้บริโภค โดยสารที่ได้ประกาศห้ามใช้เพิ่มเติมคือ 4-aminobenzoic acid (PABA) and its esters, with the free amino group ซึ่งเดิมเคยอนุญาตให้ใช้เป็น UV-filter ในผลิตภัณฑ์กันแดด (sunscreen products) และอนุญาตการใช้สาร Diethylamino Hydroxybenzoyl Hexyl Benzoate (INCI) ที่ความเข้มข้นสูงสุดร้อยละ 10 ในสินค้าเครื่องสำอาง รวมถึงผลิตภัณฑ์กันแดด ทั้งนี้ ประเทศสมาชิก EU จะต้องออกกฎระเบียบของตนให้สอดคล้องกับคำสั่งดังกล่าว อย่างช้าไม่เกินวันที่ 8 กรกฎาคม 2552
อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศกล่าวเพิ่มเติมว่า ไทยส่งออกเครื่องสำอางไปอียู มูลค่าเฉลี่ยปีละ 2,700 ล้านบาท โดยในปี 2551 (มค.- พย.)ไทยส่งออกมูลค่า 3,300 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนในช่วงเวลาเดียวกัน คิดเป็นร้อยละ 11 ดังนั้น ผู้ประกอบการไทยหรือผู้ผลิตจึงควรศึกษาและติดตามรายการสาร ที่ห้ามใช้ในเครื่องสำอาง โดยสามารถดูรายละเอียดได้จากเว็บไซต์
http://eur-lex.europa.eu/LexUriServ.do?uri=CONSLEG:1976l0768:20070919:EN:PDF
รายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อที่ โทร 1385
กลุ่มงานประชาสัมพันธ์ กรมการค้าต่างประเทศ
โทร. 0 2547 4721 , 08 1700 1817
โทรสาร 02 547 4816 www.dft.go.th, e-mail: tpdft@mocnet.moc.go.th