ไอบีเอ็มเผย 3 กลยุทธ์สู่ความสำเร็จในสภาพเศรษฐกิจแบบใหม่ แนะธุรกิจไทย ฝ่าอุปสรรคด้วยการ สร้างคุณค่า หาโอกาส สตาร์ททันที

ข่าวเทคโนโลยี Wednesday January 28, 2009 15:17 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--28 ม.ค.--ไอบีเอ็ม ประเทศไทย ไอบีเอ็มเผยกลยุทธ์สู่ความสำเร็จ 3 ประการ สร้างคุณค่า หาโอกาส สตาร์ททันที ซึ่งจะช่วยให้องค์กรธุรกิจของไทยสามารถฟันฝ่าวิกฤตเศรษฐกิจและประสบความสำเร็จในสภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่เปลี่ยนไป สืบเนื่องจากวิกฤตการณ์ในภาคธุรกิจการเงิน ส่งผลให้เศรษฐกิจของสหรัฐฯ เข้าสู่ภาวะถดถอยเมื่อปีที่แล้ว และส่งผลกระทบต่อเนื่องถึงภาวะเศรษฐกิจในทุกประเทศทั่วโลก ด้วยเหตุนี้ บริษัทส่วนใหญ่จึงต้องเผชิญกับข้อจำกัดมากมายอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนในการเข้าถึงสินเชื่อและแหล่งเงินทุน และในขณะเดียวกันยังต้องรับมือกับความต้องการที่ลดลงและการให้ความสำคัญกับเรื่องของระดับราคามากขึ้นอันเนื่องมาจากกำลังซื้อที่ลดลงทั้งในส่วนของผู้บริโภคและองค์กรธุรกิจ ในสภาพแวดล้อมแบบใหม่นี้ มีความเป็นไปได้ที่จะเกิดการหยุดชะงักในระบบซัพพลายเชน รวมถึงการติดต่อประสานงานกับคู่ค้าและลูกค้า ปัจจุบันบริษัทอาจประสบความล้มเหลวหรือประกาศขายกิจการเพียงชั่วข้ามคืน และด้วยเหตุนี้ ธุรกิจต่างๆ จึงต้องเร่งมือปรับโครงสร้างเป็นการใหญ่ คุณธันวา เลาหศิริวงศ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไอบีเอ็ม ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า “ในภาวะเศรษฐกิจขณะนี้ องค์กรต่างๆที่ต้องการก้าวสู่ตำแหน่งผู้นำตลาดควรจัดทำแผนงานที่ชัดเจนเพื่อรับมือกับสถานการณ์ทางเศรษฐกิจ โดยจะต้องระบุถึงโอกาสในการปรับโครงสร้างธุรกิจ เก็บรักษาเงินทุน เพิ่มความคล่องตัวในการดำเนินงาน และแสวงหาโอกาสใหม่ๆ ในการขยายกิจการให้เติบโต โดยแผนงานดังกล่าวควรมุ่งเน้น 3 กลยุทธ์สำคัญ ได้แก่ การมุ่งเน้นคุณค่าทางธุรกิจ การแสวงหาโอกาสใหม่ๆ และการดำเนินการได้อย่างฉับไว หรือกล่าวสั้นๆ ว่าธุรกิจควร สร้างคุณค่า หาโอกาส และสตาร์ททันที” กลยุทธ์สู่ความสำเร็จ 3 ประการ การมุ่งเน้นคุณค่าทางธุรกิจ (Focus on Value): การเก็บรักษาเงินทุนและลดค่าใช้จ่ายในส่วนที่แทบจะไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ แล้วจัดสรรเงินทุนดังกล่าวให้กับกิจกรรม ผลิตภัณฑ์ ตลาดที่ช่วยเพิ่มรายได้ ปรับปรุงผลกำไร และสร้างความแตกต่างให้กับธุรกิจ ทั้งนี้เพราะกระแสเงินสดถือว่ามีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการอยู่รอด และช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นในการดำเนินกลยุทธ์ องค์กรต่างๆอาจปรับใช้กลยุทธ์นี้ด้วยการทำงานให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น แต่ใช้ทรัพยากรน้อยลง โดยมุ่งเน้นเฉพาะงานหลักๆ และใช้ประโยชน์จากความร่วมมือทางธุรกิจ เพื่อให้บริหารจัดการความเสี่ยงและความผันผวนได้อย่างเข้มงวด การแสวงหาโอกาสใหม่ๆ(Exploit Opportunities): ความรุนแรงของวิกฤตเศรษฐกิจในครั้งนี้จะก่อให้เกิดโอกาสในการเพิ่มส่วนแบ่งตลาดและเสริมสร้างขีดความสามารถหลักๆ องค์กรที่มีวิสัยทัศน์กว้างไกลจะสามารถพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส โดยอาศัยกลยุทธ์ต่างๆ เช่น การขยายส่วนแบ่งตลาด การสร้างทักษะความสามารถสำหรับอนาคต และการปฏิรูปอุตสาหกรรม การดำเนินการอย่างฉับไว (Act with Speed): ในสภาพแวดล้อมแบบใหม่นี้ จำเป็นที่จะต้องมีการดำเนินการที่รวดเร็วและคล่องตัว ซึ่งนับเป็นโอกาสที่ดีสำหรับการขจัดระบบงานที่เชื่องช้าและอุปสรรคที่ขัดขวางการปฏิรูปองค์กร ด้วยเหตุนี้ องค์กรต่างๆ จึงต้องกำหนดวิสัยทัศน์สำหรับอนาคต ลงมือดำเนินการอย่างฉับไวและยืดหยุ่น และจัดตั้งระบบบริหารความเสี่ยงโดยอาศัยการผนวกรวมข้อมูลธุรกิจ เกือบศตวรรษ ไอบีเอ็มได้ประยุกต์ใช้ 3 กลยุทธ์ข้างต้นในการดำเนินธุรกิจ สร้างความแตกต่าง และยืนหยัดความเป็นผู้นำธุรกิจไอทีจนปัจจุบัน ไอบีเอ็มเล็งเห็นประโยชน์จากการประยุกต์ใช้ทั้ง 3 กลยุทธ์สำหรับธุรกิจไทย นอกจากนี้ ท่ามกลางความท้าทายทางธุรกิจในปัจจุบัน ไอบีเอ็ม ยังมีความมุ่งมั่นที่จะนำกลุ่มผลิตภัณฑ์ และบริการที่ครบวงจรของไอบีเอ็ม รวมถึงบุคลากรที่เปี่ยมด้วยความเชี่ยวชาญ สร้างสรรค์นวัตกรรมเพื่อให้องค์กรธุรกิจของไทยสามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่องและประสบความสำเร็จอย่างยั่งยืน เผยแพร่โดย บริษัท ไอบีเอ็ม ประเทศไทย จำกัด ศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ โทรศัพท์: 02-273-4889 อีเมล: sasikarn@th.ibm.com

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ