ฟิทช์ ประเทศไทย ปรับลดอันดับเครดิตของหุ้นกู้ค้ำประกันและตั๋วแลกเงินค้ำประกันของบริษัท ไพรมัส ลีสซิ่ง เป็น ‘BBB-(tha)’

ข่าวทั่วไป Wednesday June 21, 2006 13:26 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--21 มิ.ย.--ฟิทช์ เรทติ้งส์
บริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด ประกาศลดอันดับเครดิตภายในประเทศ (National Rating) ของหุ้นกู้ค้ำประกันภายใต้ Medium-Term Note Programmes และตั๋วแลกเงินค้ำประกันที่ออกโดยบริษัทไพรมัส ลีสซิ่ง จำกัด (“ไพรมัส”) เป็น ‘BBB-(tha)’ (BBB ลบ (tha)) จากระดับ ‘BBB+(tha)’ แนวโน้มอันดับเครดิตยังคงเป็นลบ การปรับลดอันดับเครดิตดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากการปรับลดอันดับเครดิต IDR (Issuer Default Rating) ของบริษัทฟอร์ด มอเตอร์เครดิต (“ฟอร์ด เครดิต”) เป็น ‘B+’ จาก ‘BB’ ไพรมัสเป็นบริษัทย่อยที่ตั้งอยู่ในประเทศไทยของ ฟอร์ด เครดิต แห่งสหรัฐอเมริกา โดยฟอร์ด เครดิตยังเป็นผู้ค้ำประกันตราสารหนี้ของไพรมัส อันดับเครดิตภายในประเทศของตราสารหนี้ค้ำประกันที่ออกโดยไพรมัส มีพื้นฐานมาจากการค้ำประกันอย่างไม่มีเงื่อนไขและเต็มจำนวนจาก ฟอร์ด เครดิต และความน่าเชื่อถือของบริษัทฟอร์ด มอเตอร์ (“ฟอร์ด”) และฟอร์ด เครดิต ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของไพรมัส บริษัททั้งสองนี้ตั้งอยู่ในสหรัฐอเมริกา
ในปัจจุบัน อันดับเครดิตสากลสกุลเงินในประเทศระยะยาวของประเทศไทยอยู่ที่ระดับ ‘A’ แนวโน้มมีเสถียรภาพ ในขณะที่อันดับเครดิตของตราสารหนี้ของไพรมัส อยู่ที่ระดับ ‘BBB-(tha)’ (BBB ลบ (tha)) มีแนวโน้มอันดับเครดิตเป็นลบ การปรับลดอันดับเครดิต IDR ของฟอร์ด เครดิต หรือการปรับเพิ่มอันดับเครดิตของประเทศไทย ในอนาคต จะยังคงส่งผลกระทบต่ออันดับเครดิตภายในประเทศของตราสารหนี้ของไพรมัส โดยทั่วไปแล้ว แนวโน้มอันดับเครดิตจะบ่งชี้ถึงทิศทางการปรับอันดับเครดิตที่น่าจะเกิดขึ้นในช่วง 1 — 2 ปีข้างหน้า
ในฐานะที่เป็นบริษัทสนับสนุนการให้สินเชื่อของรถยนต์ที่จำหน่ายในประเทศของฟอร์ด ไพรมัสนับว่ามีความสำคัญต่อการดำเนินงานของฟอร์ดในประเทศไทย ยอดสินเชื่อเช่าซื้อของไพรมัสลดลงถึง 14% ในปี 2548 โดยมีสาเหตุมาจากการแข่งขันที่สูงขึ้น ในขณะที่อัตราผลตอบแทนจากสินเชื่อเช่าซื้อได้ลดลงอย่างต่อเนื่อง ต้นทุนการปล่อยสินเชื่อได้เพิ่มขึ้นเนื่องมาจากอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น ส่งผลให้อัตรากำไรส่วนต่างดอกเบี้ยสุทธิลดลงเป็น 3.9% ในปี 2548 จาก 4.8% ในปีก่อนหน้า อย่างไรก็ตาม ความสามารถในการทำกำไรของบริษัทยังคงอยู่ในระดับสูง โดยมีอัตราผลตอบแทนต่อสินทรัพย์เฉลี่ยที่ 1.4% และอัตราผลตอบแทนต่อส่วนของผู้ถือหุ้นเฉลี่ยที่ 24% กำไรสุทธิในปี 2548 เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญโดยมีสาเหตุหลักจากการบันทึกการกลับรายการค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญและค่าใช้จ่ายทางภาษีอากรที่ลดลง รายได้ของบริษัทยังคงต้องพึ่งพายอดขายของรถยนต์ ฟอร์ด, มาสด้า, แลนด์ โรเวอร์ และ วอลโว่ แม้ว่ายอดขายรถยนต์ในปี 2548 เพิ่มขึ้น ส่วนแบ่งทางการตลาดของ ฟอร์ด (รวมไปถึงมาสด้า, แลนด์ โรเวอร์ และวอลโว่) ได้ลดลงเป็น 6.1% จาก 6.4% ในปีก่อนหน้า การออกรถรุ่นใหม่ๆ ของฟอร์ด ในปี 2549 น่าจะช่วยเพิ่มยอดขายของฟอร์ด ถึงแม้ว่าผู้ผลิตรถยนต์จากประเทศญี่ปุ่นจะยังคงเป็นผู้นำตลาดในประเทศไทย
คุณภาพสินทรัพย์ของไพรมัสยังคงแข็งแกร่งอยู่ ถึงแม้ว่ายอดรวมสินเชื่อที่ไม่ก่อให้รายได้และหนี้สูญตัดบัญชีได้เพิ่มขึ้นเป็น 135.9 ล้านบาท ณ สิ้นปี 2548 จาก 95.8 ล้านบาท ณ สิ้นปี 2547 อัตราส่วนยอดรวมสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้และหนี้สูญตัดบัญชีต่อยอดสินเชื่อทั้งหมด เพิ่มขึ้นเป็น 1% ณ สิ้นปี 2548 ซึ่งยังถือว่าอยู่ในระดับที่ต่ำ จาก 0.6% ณ สิ้นปี 2547 เนื่องมาจากกลยุทธ์การปล่อยสินเชื่อเชิงรุกท่ามกลางสภาวะการแข่งขันที่รุนแรง ระดับสำรองหนี้สูญมีมูลค่ามากกว่า 2 เท่าของยอดสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ ณ สิ้นปี 2548 การเติบโตที่สูงของสินเชื่อของไพรมัสซึ่งต้องพึ่งพาการจัดหาเงินทุนจากการก่อหนี้ ส่งผลให้อัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้นอยู่ในระดับสูง ถึงแม้ว่าอัตรานี้จะลดลงมาสู่ระดับ 12.6 เท่า ณ สิ้นปี 2548 จากระดับ 19.4 เท่า ณ สิ้นปี 2547 ความกังวลของฟิทช์เกี่ยวกับอัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้นที่สูงของบริษัทถูกลดทอนด้วยการค้ำประกันหุ้นกู้ของฟอร์ด เครดิต
หมายเหตุ : การจัดอันดับเครดิตภายในประเทศ (National Ratings) ใช้วัดความน่าเชื่อถือของบริษัทในประเทศที่อันดับเครดิตของประเทศนั้นอยู่ในระดับต่ำกว่าอันดับเครดิตระดับเพื่อการลงทุน หรือมีอันดับเครดิตอยู่ในระดับต่ำแม้จะอยู่ในระดับเพื่อการลงทุน อันดับเครดิตของบริษัทที่ดีที่สุดของประเทศจะอยู่ที่ระดับ “AAA” และการจัดอันดับเครดิตอื่นในประเทศ จะเป็นการเปรียบเทียบความเสี่ยงกับบริษัทที่ดีที่สุดนี้เท่านั้น อันดับเครดิตภายในประเทศนั้นถูกออกแบบมาเพื่อนักลงทุนภายในประเทศในแต่ละประเทศนั้นๆ และมีสัญลักษณ์ที่กำหนดไว้ต่อท้ายจากอันดับเครดิตสำหรับแต่ละประเทศ เช่น “AAA(tha)” ในกรณีของประเทศไทย อันดับเครดิตภายในประเทศนั้นไม่สามารถนำไปใช้เปรียบเทียบระหว่างประเทศได้
คำจำกัดความของอันดับเครดิตและการใช้อันดับเครดิตดังกล่าวของ ฟิทช์ เรทติ้งส์ สามารถหาได้จาก www.fitchratings.com อันดับเครดิตที่ประกาศ หลักเกณฑ์และวิธีการจัดอันดับเครดิต ได้แสดงไว้ในเว็บไซต์ดังกล่าวตลอดเวลา หลักจรรยาบรรณ การรักษาข้อมูลภายใน ความขัดแย้งทางผลประโยชน์ที่อาจเกิดขึ้น แนวทางการเปิดเผยข้อมูลระหว่างบริษัทในเครือ กฏข้อบังคับรวมทั้งนโยบายและกระบวนการที่เกี่ยวข้องอื่นๆของฟิทช์ ได้แสดงไว้ในส่วน ‘หลักจรรยาบรรณ’ ในเว็บไซต์ดังกล่าวเช่นกัน
ติดต่อ
ชัยพัฒน์ ไพฑูรย์, Vincent Milton, กรุงเทพฯ +662 655 4762/4759
David Marshall, ฮ่องกง +852 2263 9963

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ