กรุงเทพฯ--18 ส.ค.--ปชส.จร.
กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ จัดสัมมนาให้ความรู้แก่ผู้ประกอบการ นักธุรกิจ เกษตรกร และประชาชนในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ หวังผลักดันสินค้าเกษตรและสินค้า OTOP สู่ตลาดเอเชียใต้
นางอภิรดี ตันตราภรณ์ อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า กรมฯ ได้จัดสัมมนาเชิงวิชาการในรูปแบบการเสวนาเรื่อง “การค้าไทยในเอเชียใต้ : ตลาดที่ถูกมองข้าม” โดยจัดสัมมนามาแล้วถึง 2 ครั้ง ครั้งแรกที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งได้รับความสนใจอย่างมาก จึงได้จัดสัมมนาเรื่องดังกล่าวขึ้น ครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2549 ที่จังหวัดอุดรธานี มีผู้เข้าร่วมสัมมนากว่า 140 คน การจัดสัมมนามีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจและเผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับเอเชียใต้ ให้แก่ผู้ประกอบการ นักธุรกิจ เกษตรกร เกษตรจังหวัด พาณิชย์จังหวัดและประชาชนทั่วไปในภูมิภาคให้รับทราบโอกาสใน การขยายการค้า การลงทุน โดยเฉพาะสินค้าสำคัญของภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่มีศักยภาพในการส่งออก เช่น กล้วยไม้หอมอุดรซันไชมน์ ข้าว อ้อย มันสำปะหลัง และสินค้า OTOP เช่น ผ้าไหมขิด ผ้าหมัดหมี่ย้อมคราม เครื่องปั้นดินเผาเขียนสีลายบ้านเชียง เป็นต้น
การสัมมนานี้ได้รับการสนับสนุนเป็นอย่างดีจากผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี ที่ให้ความสำคัญและกระตุ้นผู้ประกอบการให้มาสนใจตลาดเอเชียใต้มากขึ้น ซึ่งสอดคล้องกับการขยายการค้าไทยในตลาดเอเชียใต้ โดยมีนายชนะ คณารัตนดิลก รองอธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศมาถ่ายทอดประสบการณ์เกี่ยวกับตลาดเอเชียใต้ว่าเป็นตลาดที่ใหญ่สามารถรองรับสินค้าไทยและกระจายไปยังภูมิภาคใกล้เคียงได้ เพื่อให้ผู้เข้าร่วมสัมมนามีมุมมองที่กว้างขึ้นเกี่ยวกับนโยบายในการเจาะตลาดเอเชียใต้
นอกจากนี้การสัมมนายังมีประเด็นอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการค้า เช่น ขั้นตอนการส่งออก การนำเข้า รวมถึงการนำทรัพย์สินทางปัญญามาใช้ประโยชน์เชิงธุรกิจ โดยมีสาระสำคัญ คือ กรมส่งเสริมการส่งออก ให้ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับโอกาสและศักยภาพของสินค้าที่สามารถขยายการส่งออกสินค้าในภาคอีสานสู่ตลาดเอเชียใต้ได้ รวมทั้งประชาสัมพันธ์การจัดงานแสดงสินค้าในประเทศแถบเอเชียใต้ ดำเนินการจับคู่ ทางธุรกิจและกิจกรรมส่งเสริมการค้าต่างๆ กรมทรัพย์สินทางปัญญา ให้ความรู้ความเข้าใจในการนำทรัพย์สินทางปัญญามาใช้ประโยชน์เชิงพาณิชย์เพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าในเชิงธุรกิจ รวมทั้งการจดทะเบียนให้ความคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาอย่างถูกประเภทแก่สินค้าOTOP และการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาในต่างประเทศ กรมศุลกากร ให้ความรู้ความเข้าใจขั้นตอนการดำเนินการพิธีศุลกากรในการส่งออกและนำเข้า กฎแหล่งกำเนิดสินค้า การใช้สิทธิประโยชน์ทางการค้าและการใช้สิทธิจากแหล่งกำเนิดสินค้า
นางอภิรดี กล่าวต่อว่า ผลจากการสอบถามปรากฎว่าผู้เข้าร่วมสัมมนาได้รับความรู้ความเข้าใจมากขึ้น และมีความสนใจที่จะขยายการส่งออกสินค้าสู่ตลาดเอเชียใต้ นอกจากนี้ยังมีเกษตรกรแลผู้ประกอบการจำนวนมากต้องการให้กรมฯ จัดสัมมนาในหัวข้อต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะตามจังหวัดอื่นๆ ที่เป็นแหล่งผลิตสินค้าสำคัญ โดยกรมฯ มีแผนที่จะจัดสัมมนาครั้งต่อไปในวันที่ 5 กันยายน 2549 ที่จังหวัดพิษณุโลก