กบง.เห็นชอบปรับลดอัตราเงินเข้ากองทุนน้ำมันฯ หลัง ครม. มีมติปรับเพิ่มอัตราภาษีสรรพสามิตน้ำมันเชื้อเพลิง

ข่าวเศรษฐกิจ Friday January 30, 2009 07:29 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--30 ม.ค.--ก.พลังงาน นายแพทย์วรรณรัตน์ ชาญนุกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยหลังประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) ว่า เนื่องด้วยวันที่ 28 มกราคม 2552 ที่ผ่านมา คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้มีมติเห็นชอบให้ปรับเพิ่มอัตราภาษีสรรพสามิตน้ำมันเชื้อเพลิง โดยจะมีผลตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2552 นี้ ซึ่งจะทำให้อัตราภาษีสรรพสามิตน้ำมันเพิ่มขึ้นดังนี้ น้ำมันเบนซิน 95 และ 91 ณ วันที่ 31 ม.ค. 52 จาก 3.6850 บาทต่อลิตร เพิ่มขึ้น 1.32 บาทต่อลิตร เป็น 5 บาทต่อลิตร น้ำมันแก๊สโซฮอล 95 และ 91 จาก 0.0165 บาทต่อลิตร เพิ่มขึ้น 4.48 บาทต่อลิตร เป็น 4.50 บาทต่อลิตร น้ำมันแก๊สโซฮอล 95 E20 จาก 0.0165 บาทต่อลิตร เพิ่มขึ้น 3.98 บาทต่อลิตร เป็น 4.00 บาทต่อลิตร น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว B2 จาก 0.0050 บาทต่อลิตร เพิ่มขึ้น 3.30 บาทต่อลิตร เป็น 3.305 บาทต่อลิตร น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว B5 จาก 0.0898 บาทต่อลิตร เพิ่มขึ้น 2.10 บาทต่อลิตร เป็น 2.19 บาทต่อลิตร การปรับเพิ่มภาษีสรรพสามิตครั้งนี้จะทำให้ราคาขายปลีกเพิ่มขึ้นดังนี้ น้ำมันเบนซิน 95 และ 91 เพิ่มขึ้น 1.55 บาทต่อลิตร เป็น 33.74 และ 25.14 บาทต่อลิตร น้ำมันแก๊สโซฮอล 95 และ 91 เพิ่มขึ้น 5.28 บาทต่อลิตร เป็น 24.17 และ 23.37 บาทต่อลิตร น้ำมันแก๊สโซฮอล 95 E20 เพิ่มขึ้น 4.69 บาทต่อลิตร เป็น 22.28 บาทต่อลิตร น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว B2 เพิ่มขึ้น 3.88 บาทต่อลิตร เป็น 22.22 บาทต่อลิตร น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว B5 เพิ่มขึ้น 2.47 บาทต่อลิตร เป็น 19.31 บาทต่อลิตร ทั้งนี้การปรับเพิ่มภาษีสรรพสามิตครั้งนี้จะกระทบต่อประชาชนค่อนข้างมากในราคาขายปลีกครั้งเดียว ดังนั้นเพื่อ เพื่อบรรเทาผลกระทบจากราคาน้ำมันที่สูงขึ้นหลังการปรับเพิ่มอัตราภาษีสรรพสามิตน้ำมันที่ประชุมจึงเห็นชอบให้สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) ลดอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงอัตราหนึ่งในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2552 นี้ ซึ่งจะทำให้ราคาขายปลีกน้ำมันทุกชนิดยกเว้น E85 เพิ่มขึ้นประมาณ 1.55 บาทต่อลิตร และหลังจากนั้นจะทยอยปรับเพิ่มอีกครั้งละไม่เกิน 1.50 บาทต่อลิตร ซึ่งจะปรับมากกว่า 1 ครั้ง เพื่อให้อัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ กลับไปอยู่ในอัตราเดิม โดยจะพิจารณาปรับในช่วงเวลาที่เหมาะสม ซึ่งคาดว่าจะใช้ระยะเวลาประมาณ 2 เดือน และจะใช้เงินจากกองทุนน้ำมันฯ ประมาณ 4,311 ล้านบาท อนึ่งทุกๆ ครั้งที่มีการเปลี่ยนแปลงของราคาขายปลีกน้ำมันเชื้อเพลิงตามที่ สนพ. กำหนดจะมีการตรวจสอบปริมาณน้ำมันเชื้อเพลิงคงเหลือ ณ คลังน้ำมันและสถานีบริการ เพื่อนำมาเรียกเก็บส่วนเกินของปริมาณน้ำมันเชื้อเพลิงคงเหลือจากผู้ประกอบการคลังน้ำมันและสถานีบริการนำส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ ต่อไป นายแพทย์วรรณรัตน์ กล่าวว่า นอกจากนี้ที่ประชุมยังเห็นชอบให้ปรับเพิ่มอัตราเงินเข้ากองทุนฯ ของน้ำมันเบนซิน 91 เพิ่มขึ้นจาก 4.00 บาทต่อลิตร เพื่อรักษาส่วนต่างราคาขายปลีกระหว่างน้ำมันเบนซินและแก๊สโซฮอลในการส่งเสริมการใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล อีกทั้งได้เห็นชอบในการกำหนดหลักเกณฑ์ราคาน้ำมันแก๊สโซฮอล95 E85 ใน 3 หลักการ คือ 1.ราคา ณ โรงกลั่น 15% ของราคาเบนซิน 95 + 85% ของราคาเอทานอล 2.ให้ค่าการตลาดของ E85 สูงกว่า E10 ประมาณ 1.20 บาทต่อลิตร และ 3.ราคาขายปลีก E85 ต้องต่ำกว่าราคาขายปลีก E10 30% ทั้งนี้รัฐบาลได้ส่งเสริมให้ประชาชนใช้พลังงานทดแทนตามนโยบายของประเทศอย่างต่อเนื่อง เพราะยิ่งประชาชนหันมาใช้พลังงานทดแทนมากขึ้น ก็จะช่วยลดการนำเข้าน้ำมันจากต่างประเทศได้ต่อไป สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ ไก่ JJJ 086-6055510

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ