สำนักงานสถิติแห่งชาติ บุกเขตหลักสี่ สร้างความเข้าใจ ให้เห็นประโยชน์เพื่อทำสำมะโนประชากรลงสนาม ประเดิมเขตแรก 1 ก.พ.นี้

ข่าวทั่วไป Friday January 30, 2009 10:06 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--30 ม.ค.--อิมเมจ โซลูชั่น นางธนนุช ตรีทิพยบุตร เลขาธิการสถิติแห่งชาติ เปิดเผยหลังการแถลงข่าวเมื่อวันที่ 29 มกราคม 2552 ว่าสำนักงานสถิติแห่งชาติจะจัดทำสำมะโนประชากรและเคหะทดลองใน กทม. ช่วงวันที่ 1-28 กุมภาพันธ์ 2552 เพื่อทดสอบการเก็บข้อมูลในพื้นที่ที่เข้าถึงยาก เช่น คอนโดมิเนียม อพาร์ทเม้นท์ หมู่บ้านจัดสรร และชุมชนเมือง การเลือกทดลองในพื้นที่ กทม. จะทำให้รู้สถานภาพความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนที่อยู่ในเขตเมืองใหญ่ที่มีความเจริญซึ่งมีผู้ย้ายถิ่นฐานเข้ามามาก มีความเป็นอยู่หลากหลาย และเข้าถึงยาก ในแต่ละพื้นที่ในช่วงกลางวันหรือกลางคืนมีจำนวนคนอยู่ไม่เท่ากัน เพราะเนื่องจากในเวลากลางวันคนทำงาน คนเรียนหนังสือในกรุงเทพฯ แต่ในเวลาเย็นกลับบ้านในจังหวัดรอบ ๆ กรุงเทพฯ ทำให้เกิดปรากฏการณ์คนในกรุงเทพฯมีความหนาแน่นของประชากรช่วงกลางวันและกลางคืนแตกต่างกัน อีกทั้งมีประชากรที่อยู่ในกรุงเทพฯ จำนวนมากที่ไม่ได้ย้ายทะเบียนบ้าน ทำให้ต้องมีการทำสำมะโนประชากรและเคหะเพื่อให้ได้ข้อมูลที่สะท้อนภาพที่เป็นจริง ให้หน่วยงานภาครัฐนำไปใช้ในการวางแผนจัดหาสาธารณูปโภค จัดบริการด้านสาธารณสุขให้เพียงพอ สอดคล้องกับจำนวนคนที่อยู่จริง ในแต่ละพื้นที่ เช่น จัดเตรียมวัคซีนให้เพียงพอกับทารกและเด็ก จัดเตรียมครูและโรงเรียนให้เหมาะสม จัดเตรียมเบี้ยยังชีพให้ผู้สูงอายุ ตลอดจนสร้างโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมได้อย่างถูกต้อง เพียงพอ และเหมาะสม การทำสำมะโนทดลองในกรุงเทพฯ ได้เลือก 51 พื้นที่ในเขตหลักสี่ ได้แก่ ชุมชนอยู่ดีมีสุขร่วมใจ ชุมชนก้าวหน้า ชุมชนหลักสี่พัฒนา คอนโดบ้านสวนรัชธานี คอนโดพูนทิพย์ หมู่บ้านวิสต้าปาร์ค หมู่บ้านราณี และในช่วง 29 มกราคม — 15 กุมภาพันธ์ 2552 จะทำการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนในพื้นที่รับรู้ และเข้าใจประโยชน์ของการทำสำมะโนประชากรและเคหะของประเทศ โดยกำหนด Road Show วันที่ 29-31 มกราคม 2552 และ8,15 กุมภาพันธ์ 2552 เพื่อประชาสัมพันธ์งานสำมะโนประชากรฯ ทั้งนี้คาดว่าการประชาสัมพันธ์ให้เห็นประโยชน์ที่ประชาชนจะได้รับอย่างต่อเนื่อง ทั้งก่อนและระหว่างการเก็บข้อมูลในพื้นที่จะได้รับความร่วมมือจากประชาชนอย่างดี หลังจากการทำสำมะโนฯ ในพื้นที่กทม. เสร็จแล้วจะมีการทบทวนกระบวนการจัดทำสำมะโนอีกครั้ง โดยนำบทเรียนที่ได้รับครั้งนี้เพื่อเตรียมการทำสำมะโนประชากรทั่วประเทศในปี 2553 นางธนนุช กล่าวเพิ่มเติมว่าการทำสำมะโนฯ ทุกครั้งที่ผ่านมา สำนักงานสถิติแห่งชาติจะรับผิดชอบดำเนินโครงการเบ็ดเสร็จเพียงหน่วยงานเดียว แต่การทำสำมะโนประชากรและเคหะ ปี 2553 ครั้งนี้ สำนักงานฯ ได้ปรับเปลี่ยนกลยุทธ์มาใช้การสร้างพันธมิตรกับหน่วยงานต่างๆ เพื่อบูรณาการองค์ความรู้และทรัพยากรในการจัดทำโครงการ นอกจากนี้ ยังคำนึงถึงความสำคัญของประชาชนซึ่งเป็นผู้ให้ข้อมูลจึงได้ปรับกลยุทธ์ โดยเน้นการสร้างความเข้าใจให้ประชาชนเห็นถึงประโยชน์ที่จะได้รับจากการให้ข้อมูลที่ถูกต้อง ภายใต้โครงการ “สร้างเครือข่ายภาคประชาชน” แทนการใช้กฎหมายบังคับ (ตาม พ.ร.บ. สถิติ 2550) โดยจัดประชุมเครือข่ายภาคประชาชนไปแล้ว 1,900 ชุมชน รวมทั้งจัดประชุมเครือข่ายอาคารสูงในกรุงเทพฯ ทุกเขต และได้นำร่องในภูมิภาคที่จังหวัดพิษณุโลก ทั้งนี้จะได้สร้างเครือข่ายให้ครบก่อนการทำสำมะโนฯ จริงในปี 2553 “จากการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ในการดำเนินโครงการดังกล่าวข้างต้น เชื่อว่าจะทำให้สำมะโนประชากรและเคหะครั้งนี้ ได้ข้อมูลที่ครบถ้วนสมบูรณ์ เป็นเข็มทิศที่เที่ยงตรงที่หน่วยงานภาครัฐจะได้นำไปใช้ประโยชน์ได้ตรงเป้า ซึ่งผู้ที่ได้รับประโยชน์ก็คือประชาชนนั่นเอง” นางธนนุชกล่าว สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ บริษัท อิมเมจ โซลูชั่น จำกัด เบอร์โทรศัพท์ : 02784 6135

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ