PYLON โล่งอกกำไรไตรมาส3/49 ฟื้นจากจุดต่ำสุด ชี้ปัญหาต้นทุนพุ่งเริ่มคลี่คลายหนุนกำไรดีต่อเนื่อง

ข่าวทั่วไป Tuesday November 14, 2006 10:20 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--14 พ.ย.--ไพลอน
PYLON ยอมรับปัญหาต้นทุนวัสดุก่อสร้างและราคาน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้น กดดันผลการดำเนินงานไตรมาส3/49 เมื่อเทียบกับปีก่อน แต่ปรับตัวดีขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 2/49 เนื่องจากบริษัทสามารถปรับแผนการดำเนินงานให้เข้ากับสถานการณ์ได้ทันท่วงที เชื่อจากนี้แนวโน้มรายได้เริ่มดีขึ้นเป็นลำดับ โดยเฉพาะหลังราคาวัสดุเสถียรขึ้น น้ำมันลด และงานรัฐเริ่มเปิดประมูลรอบใหม่ มั่นใจจะเห็นการเติบโตชัดตั้งแต่ปี 50 ส่วนปีนี้ยังคงเป้าหมายรายได้ไว้ที่ระดับ 500-600 ล้านบาท
นายชเนศวร์ แสงอารยะกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไพลอน จำกัด (มหาชน) หรือPYLON กล่าวถึงประกอบการประจำไตรมาสที่ 3/2549 ว่า มีกำไรสุทธิ 5.02 ล้านบาท ลดลง 53.73% เมื่อเทียบกับไตรมาส 3/2548 ที่มีกำไร10.85 ลบ. ส่วนงวด 9 เดือนมีกำไร 21.79 ลบ. ทั้งนี้สาเหตุที่ทำให้กำไรของ PYLON ลดลง เกิดจากราคาวัสดุก่อสร้างและราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งทำให้ต้นทุนการก่อสร้างปรับเพิ่มสูงขึ้นไปในทิศทางเดียวกัน
อย่างไรก็ตาม เมื่อเปรียบเทียบกับผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2549 กับไตรมาสที่ 2/2549 พบว่ากำไรสุทธิของบริษัทเพิ่ม 1.43 ล้านบาท หรือ 39.83% เนื่องจากอัตรากำไรขั้นต้นในไตรมาส 3 อยู่ที่ 13.99% มีการปรับสูงขึ้นจากไตรมาส 2 ซึ่งอยู่ที่ 8.61 % ซึ่งเกิดจากงานเก่าที่จบลง และการปรับราคาขายของงานใหม่ให้เหมาะสมกับต้นทุน นอกจากนี้ยังเป็นผลจากนโยบายการบริหารจัดการภายในที่เน้นการใช้ทรัพยากรต่างๆ ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
“ผลประกอบการในไตรมาสที่ 3 ของปีนี้ถือว่าเริ่มฟื้นตัวดีขึ้น หลังจากไตรมาส 2 ของปีนี้ถือเป็นช่วงที่ผลประกอบการของ PYLON อยู่ในระดับที่ต่ำที่สุดแล้ว และค่อยๆ ฟื้นตัวขึ้นเรื่อยๆ เริ่มตั้งแต่ไตรมาส 3 และจะต่อเนื่องไปจนถึงไตรมาส4 เพราะนอกจากเราจะปรับนโยบายการบริหารจัดการภายในที่เน้นการใช้ทรัพยากรต่างๆ ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น สามารถปรับราคาขายงานใหม่ให้สอดคล้องกับต้นทุนที่เป็นจริงแล้ว ต้นทุนวัตถุดิบที่เริ่มมีเสถียรภาพและราคาน้ำมันที่เริ่มลดลงก็ถือว่าเป็นผลดีที่หนุนให้ผลประกอบการของบริษัทฯปรับตัวดีขึ้นเป็นลำดับดังกล่าว โดยเป้าหมายรายได้ปี 2549 ยังคงเดิมที่ระดับ 500-600 ล้านบาทเทียบกับปี 2548 ที่ 290 ล้านบาท ซึ่งน่าจะเติบโตไม่ต่ำกว่า80 %”
นายชเนศวร์กล่าวต่อว่า ในช่วงหลายปีที่ผ่านมางานส่วนใหญ่ของบริษัทจะเป็นงานภาครัฐ แต่ในปี 2549 งานภาครัฐเริ่มสะดุดจากภาวะทางการเมือง จึงเป็นโอกาสที่ทำให้บริษัทได้มีการขยายฐานงานไปสู้ภาคเอกชนมากขึ้น ดังนั้นภายหลังจากปัญหาการเมืองเริ่มคลี่คลาย และคาดว่าในปี 2550 งานของภาครัฐจะกลับมาสู่ภาวะปกติ ซึ่งเชื่อว่าจะเป็นปีที่ดีของ PYLON ที่จะทำให้มีทั้งงานภาครัฐและเอกชนหนุนเข้ามาพร้อม ๆ กัน นอกจากนี้งานปรับปรุงคุณภาพดินซึ่งล่าช้ามากว่า 7-8 เดือนจากปัญหาการเวนคืนที่ก็ได้เริ่มทำงานแล้วในเดือนพฤศจิกายน ซึ่งจะทำให้มีการใช้กำลังผลิตของเครื่องจักรสำหรับงานปรับปรุงคุณภาพดินอย่างเต็มกำลังตลอดปี 2550 ซึ่งคาดว่าปัจจัยเหล่านี้จะส่งผลดีต่อผลประกอบการของบริษัทอย่างชัดเจนในปี 2550
ส่วนแผนงานในอนาคต บริษัทเตรียมบุกตลาดใหม่ๆ เพิ่มขึ้น นอกเหนือจากงานเจาะเสาเข็มที่เป็นธุรกิจหลักในปัจจุบัน ด้วยการขยายผลิตภัณฑ์เพิ่มในงานระบบชิ้นส่วนคอนกรีตสำเร็จรูป (Prefabricated Concrete System) ซึ่งเป็นระบบก่อสร้างโดยการหล่อชิ้นส่วนต่างๆ เช่น เสา, คาน, พื้น, ผนัง, บันได ขึ้นมาแล้วยกติดตั้งซึ่งทำให้งานก่อสร้างทำได้รวดเร็วขึ้นและน่าจะเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีศักยภาพในการเติบโตในอนาคต ซึ่งเชื่อว่าจะเป็นอีกช่องทางที่ช่วยเสริมให้ผลประกอบการของบริษัทโดดเด่นยิ่งขึ้น
9เดือน/ 2548 9 เดือน/ 2549 เพิ่มขึ้น/ลดลง
รายได้ 192.47 445.02 + 131.22 %
กำไรสุทธิ 30.04 21.79 -27.46 %

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ