การแข่งขันขี่ม้าโปโล “เมอร์ซิเดสการ์ด — บี. กริม โปโล คัพ 2006” คลาคล่ำไปด้วยผู้คนที่หลงใหลในมนต์เสน่ห์ของม้า

ข่าวทั่วไป Wednesday February 15, 2006 14:10 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--15 ก.พ.--แม็กซิม่า คอนซัลแตนท์
ฯพณฯ พลากร สุวรรณรัฐ องคมนตรี ให้เกียรติเป็นประธานในพิธีเปิดงานแข่งขันขี่ม้าโปโล “เมอร์ซิเดส การ์ด — บี. กริม โปโล คัพ 2006” ณ สนามไทย โปโล คลับ พัทยา ซึ่งจัดโดย มร.ฮาราลด์ ลิงค์ ประธานกรรมการ กลุ่มบริษัท บี. กริม ร่วมกับ เมอร์ซิเดส — เบนซ์ ประเทศไทย โดยรายได้จากการจัดงานมอบให้โครงการการศึกษา ในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
ภายในงานมีบุคคลที่มีชื่อเสียงมาร่วมชมการแข่งขันมากมาย อาทิ เจ้าชายอับดุลลาห์ แห่งรัฐปาหัง ประเทศมาเลเซีย (H.R.H.Crown Prince Abdullah of Pahang), เจ้าชายราชิด ฮัสซัน แห่งจอร์แดน (H.R.H.Rashid Eh Hassan), คุณหญิงทิพาวดี เมฆสวรรค์, ม.ล.ลักษสุภา กฤดากร,วรพงศ์ นันทาภิวัฒน์, กีรติ - ยูริ อัสสกุล, วิชา — ภารดี พลูวรลักษณ์, สริยา สิวายุ, จิตรามณฑน์ — สรัญทร เตชะไพบูลย์, ปณัฐทรา สูตะบุตร, เป็นต้น ซึ่งผู้ที่มาร่วมงานต่างพร้อมใจแต่งตัวเฉิดฉายสวมหมวกปีก เพื่อสร้างสีสันให้กับบรรยากาศการชมการแข่งขัน ขี่ม้าโปโล ซึ่งนับเป็นกีฬาสำหรับวงการชนชั้นสูงในแถบยุโรป ที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายของธรรมชาติที่สวยงามเขียวขจี และตื่นตาไปกับรถเมอร์ซิเดส เบนซ์ รุ่นใหม่ล่าสุด นำมาจัดแสดงให้ผู้ร่วมงานได้ยลโฉมกันอย่างใกล้ชิด อีกทั้งยังมีการเล่นเกมส์การกุศลต่าง ๆ อาทิ เกมปาเป้า, เกมตีกอล์ฟ, เกมปาลูกดอก พร้อมร่วมรับประทานอาหารกลางวันเคล้าเสียงเพลงสุนทรีย์จากบางกอก ซิมโฟนี่ ออร์เคสตร้า ในเต้นท์ติดแอร์ที่ตกแต่งอย่างสวยงาม จากนั้นผู้ชมจึงทยอยมาจับจองที่นั่งชมการแข่งขันขี่ม้าโปโล “เมอร์ซิเดสการ์ด — บี. กริม โปโล คัพ 2006” ซึ่งเป็นการแข่งขันระหว่างทีมไทย โปโล นำโดย มร.ฮาราลด์ ลิงค์ กับทีมรอยัล ปาหัง ประเทศมาเลเซีย ซึ่งการแข่งขันดำเนินไปด้วยความสนุกสนาน และลุ้นระทึกไปกับการทำคะแนนของทั้งสองทีม ช่วงแรกทีมรอยัล ปาหังนำไปก่อน แต่ช่วงหลังทีมไทย โปโล คับเคี่ยวทำคะแนนจนจบเกมชนะทีมรอยัล ปาหัง ก่อนหมดเวลาไปอย่างเฉียดฉิ่วด้วยสกอร์ 7 — 6 โดยช่วงพักเบรค 5 นาที ได้ให้ผู้ชมการแข่งขันออกมาย่ำพื้นสนามแข่งขันกลบดิน ซึ่งถือเป็นประเพณีการปฏิบัติสำหรับการแข่งขันกีฬาขี่ม้าโปโล
ปิดท้ายงานแขกทุกท่านยังได้ร่วมสังสรรค์ในค็อกเทลปาร์ตี้ พร้อมตื่นตาตื่นใจกับดอกไม้ไฟหลากหลายสีสันที่งดงามตระการตา การขี่ม้าโปโลนับเป็นกีฬาประเภทหนึ่งที่ให้อารมณ์ของความสุข สนุกสนาน คลายเครียด และกระชับมิตรเป็นอย่างดีระหว่างผู้เล่นด้วยกันเอง และกับผู้ชมด้วย
ส่วนหนึ่งของผู้หลงใหลใหลในมนต์เสน่ห์ของม้า ต่างร่วมให้ความคิดเห็นเกี่ยวกับการกีฬาการขี่ม้า โดย ม.ร.ว.ปรียนันทนา รังสิต อดีตแชมป์ขี่ม้ากระโดดข้ามเครื่องกีดขวาง ปี 1997 ที่ประเทศไทย กล่าวว่า “ตนเริ่มขี่ม้าตั้งแต่อายุ 4 ขวบ ซึ่งเรียกได้ว่าตนเป็นทาสของม้าก็ว่าได้ ตอนนี้ที่บ้านตนมีม้าอยู่ 3 ตัว ซึ่งเราพามันไปออกกำลังกายทุกวัน เนื่องจากม้าต้องได้รับการฝึกทุกวัน จะไม่เหมือนการซื้อรถจักรยานที่สามารถจอดเฉยๆ ได้ แต่ถ้าม้าไม่ได้รับการฝึกฝนอาจทำให้เป็นโรคกระเพาะอุดตัน อันตรายต่อม้ามาก ซึ่งแม้ว่าจะต้องดูแลม้า ทุกวันก็ไม่เบื่อ เนื่องจากเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ในชีวิตตน หากวันไหนที่ไม่ได้ขี่ม้าจะรู้สึกหงุดหงิด การขี่ม้าสำหรับตนเป็นการแก้เซ็ง ทำให้จิตใจเราแจ่มใส อีกทั้งเป็นการฝึกสมาธิที่ดีด้วย”
วงค์เดือน ประทุมลี หญิงนักขี่ม้าโปโล กล่าวว่า “ตนได้คลุกคลีกับวงการขี่ม้ามานานกว่า 15 ปีมาแล้ว เริ่มแรกฝึกด้วยการขี่ม้า ต่อมาเป็นการควบคุมม้า ฝึกตีเข้าโกล และฝึกฝนเป็นประจำ ตนคิดว่าการขี่ม้าโปโลเป็นกีฬาที่สนุก เป็นสิ่งที่ท้าทายความสามารถอย่างมาก เพราะต้องใช้เทคนิคหลาย ๆ อย่าง ซึ่งตั้งแต่ตนขี่ม้ายังไม่เคยป่วยเลย ทำให้ร่างกายแข็งแรง เป็นการออกกำลังกายทุกส่วน ล่าสุดตนได้มีโอกาสไปฝึกขี่ม้าโปโลที่ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยคุณลิงค์ เป็นคนสปอนเซอร์ ที่นั่นเค้าจะฝึกหนักมาก ผู้หญิงที่นั่นเก่งมาก สามารถทัดเทียมกับผู้ชายได้เลย ซึ่งบางครั้งผู้หญิงเก่งกว่าด้วยซ้ำ แต่ขี่ที่เมืองไทยสนุกกว่าเนื่องจากอากาศที่นี่ดีกว่า ซึ่งทุกวันนี้ตนจะต้องขี่ม้าช่วงเย็นทุกวันเรียกว่าขาดไม่ได้เลย แม้ว่าทำงานมาตลอดวันแล้วก็ไม่รู้สึกเหนื่อย ทำให้ร่างกายกระปรี่กระเปร่า และนอนหลับสนิท”
มาร์ค-ธนพ เอี่ยมอมรพันธ์ กล่าวว่า “ขี่ม้าโปโล เป็นกีฬาที่มีเสน่ห์ในตัวเอง เพราะให้ทั้งความสนุกสนาน และช่วยฝึกจิตใจของผู้เล่น นับตั้งแต่ก้าวแรกที่ขึ้นอยู่บนหลังม้า สำหรับตนเล่นบ้างหยุดบ้างมาประมาณ 3 ปีแล้ว เป็นกีฬาที่มีเสน่ห์มากเพราะทุกครั้งที่เล่นกีฬาขี่ม้าโปโล ตนจะลืมเรื่องเครียดหรือความกดดันทุกอย่าง เพราะจะต้องใช้สมาธิไปกับลูกบอลและการขี่ม้า เรียกว่าพอขึ้นบนหลังม้า ก็ลืมสิ่งวุ่นวายต่างๆ บนโลกนี้ไว้ข้างหลังทีเดียว”
อนงค์นาฎ อำนวยพล นิสิตสาวนิเทศจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า “เล่นกีฬาขี่ม้าประมาณ 6 ปีแล้ว ตั้งแต่เมื่อครั้งได้เรียนที่นอรเวย์ และข้างๆ บ้านที่พักนั้นเป็นฟาร์มม้า คิดว่าเสน่ห์ของกีฬาขี่ม้านี้ ช่วยเสริมสร้างบุคลิกของเรา ให้นั่งตัวตรงหลังตรง นอกจากนี้ยังช่วยฝึกสมาธิและการสื่อสาร คือใจของเราต้องประสานไปกับมือ อยากจะให้ม้าไปทางไหนมือเราต้องบังคับได้ รวมทั้งยังฝึกจิตใจให้มีความเชื่อมั่นในตนเองอีกด้วย เพราะม้าจะรับรู้ได้หากผู้ขี่ไม่มีความเชื่อมั่นในตนเอง”
จิตรามณฑน์ เตชะไพบูลย์ ได้เปิดเผยว่า “เคยขี่ม้ามาก่อนค่ะ ชอบการขี่ม้าประเภทกระโดดข้ามเครื่อง กีดขวาง และประเภทสวยงาม ที่ต้องโชว์การบังคับม้า การขี่ม้าจะฝึกในเรื่องของบุคลิกภาพของผู้ขี่ ให้ดูสวยงามสง่า เพราะว่าม้าจะวิ่งเร็วมาก ตัวเราเองก็ต้องบังคับตัวเราให้นิ่งด้วย ขี่ม้าดูเหมือนง่ายสบายๆ แต่จริงๆ แล้วเหนื่อยมากๆ และได้เหงื่อเยอะด้วย โดยเฉพาะหัวเข่าและส้นเท้าที่จะใช้กำลังมาก เพราะว่าม้าจะรับคำสั่งเราจากหัวเข่าและส้นเท้า สำหรับการแข่งโปโลครั้งนี้มาดูเป็นครั้งที่ 3 แล้ว สนุกดีค่ะแต่ต้องคอยติดตามดูตลอดนะ เพราะว่าเขาจะเล่นเปลี่ยนฝั่งกันตลอดเพราะฉะนั้นเราต้องติดตามดูอยู่ตลอดเวลา ถ้ายังสาวอยากลองเล่นโปโลดูเหมือนกัน”
มาริสสา มหาวงศ์ตระกูล ผู้หญิงที่ชื่นชอบการขี่ม้าเป็นชีวิตจิตใจ กล่าวถึงมนต์เสน่ห์ในการขี่ม้าว่า “โดยปกติกีฬาทั่วไปเราจะเล่นกับสิ่งของ สิ่งไม่มีชีวิต แต่การขี่ม้าเป็นการเล่นกีฬากับสิ่งที่มีชีวิต ทำให้เรารู้จักคำว่า “เสียสละ และความเข้าใจกัน” เสียสละความหงุดหงิด จุกจิกจู้จี่ของเรา เสียสละเวลาของเราคอยพาม้าไปอาบน้ำ มีเวลาก็ไปพูดไปคุยกับเขา เวลาเขาทำดีก็ชมเขา ให้รางวัลกับเขา ส่วนความเข้าใจกัน คือการที่เราต้องคอยดูแลเอาใจใส่ม้า ดูว่าเขาอารมณ์เป็นอย่างไร เหนื่อยมั้ย อยากให้เราเล่นกับเขาต่อรึเปล่า หรือต้องการพักแล้ว กีฬาขี่ม้าเป็นกีฬาที่ต้องอาศัยทีมเวิร์คระหว่างคนขี่ม้ากับม้า โดยส่วนตัวแล้วชื่นชอบการขี่ม้ามาก เพราะรู้สึกว่าเวลาเราอยู่บนหลังม้า เราดูสง่างาม เราสามารถบังคับทุกอย่างให้เคลื่อนไปตามแต่ใจเราปรารถนาได้ การขี่ม้าจะช่วยฝึกให้เราอ่อนโยน คิดถึงจิตใจผู้อื่นมากยิ่งขึ้น เพราะคนขี่ม้า และม้าต้องไปด้วยกัน เวลาไปขี่ม้ามักจะไปขี่ที่เขาใหญ่ จันทบุรี แบบเป็นไร่ เป็นธรรมชาติ เพราะอากาศดี ทำให้จิตใจปลอดโปร่ง เสริมให้การ ขี่ม้าน่ารื่นรมย์มากยิ่งขึ้น”
หากต้องการรายละเอียดเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ
บริษัท แม็กซิม่า คอนซัลแตนท์ จำกัด โทร.0-2434-8300
คุณสุจินดา, คุณแสงนภา, คุณเนาวรักษ์
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net--จบ--

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ