กรุงเทพฯ--13 พ.ย.--ซิงเกิ้ล พอยท์ พาร์ท
ซิงเกิ้ล พอยท์ พาร์ท เผยรายได้ไตรมาส 3 รวม 180 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 25% พร้อมขยายฐานลูกค้าสู่กลุ่มคอนซูมเมอร์ อิเล็คทรอนิคส์ หวังยอดสั่งซื้อเพิ่มขึ้นอีก 40 ล้านบาทในปี 2550
นายชาคริต เมธิกุลชนันทร์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซิงเกิ้ล พอยท์ พาร์ท (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตชิ้นส่วนโลหะเพื่อใช้ในอุตสาหกรรมการผลิตฮาร์ดดิสก์ เปิดเผยผลประกอบการประจำไตรมาส 3/2549 ว่า บริษัทมีรายได้รวม 180 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 25 เมื่อเทียบกับไตรมาสที่แล้ว แบ่งเป็นรายได้จากการขาย และการให้บริการ 160 ล้านบาท และรายได้อื่นๆ 20 ล้านบาท ทั้งนี้ บริษัทมีกำไรสุทธิหลังหักค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานทั้งสิ้น 50 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 37 เมื่อเทียบกับไตรมาสที่แล้ว อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ สามารถรักษาระดับอัตรากำไรขั้นต้นที่สูงถึง 28% ซึ่งปรับตัวสูงขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบกับไตรมาสที่ผ่านมา
ผลประกอบการงวด 9 เดือนแรกของปี 2549 บริษัทมีรายได้รวม 470.9 ล้านบาท ลดลง 1.76% จากจำนวน479.4 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 121.9 ล้านบาท ลดลง 0.53% จากจำนวน 122.6 ล้านบาท ปรับตัวลดลงเล็กน้อยจากปีก่อน
อัตรากำไรขั้นต้นของ 9 เดือนของปี 2549 อยู่ที่ 28.06% ปรับตัวลดลงเล็กน้อยจาก 28.95% ของปีก่อนจากการเพิ่มขึ้นของต้นทุนวัตถุดิบ อัตรากำไรสุทธิงวด 9 เดือน 25.89% ปรับตัวสูงขึ้นเล็กน้อยเทียบช่วงระยะเดียวกันของปีก่อนที่ 25.57% บริษัทยังสามารถรักษาอัตรากำไรสุทธิอยู่ในเกณฑ์ที่คาดการณ์ไว้ได้
ปัจจุบัน บริษัทฯ ได้ขยายฐานลูกค้าสู่กลุ่มคอนซูมเมอร์ อิเล็คทรอนิคส์ และเอนเตอร์เทนเมนท์ (Consumer Electronic & Entertainment) เช่น MP3, Video Camcorder, Digital Camera เพื่อรองรับการเติบโตของอุตสาหกรรมอิเล็คทรอนิคส์ และเอ็นเตอร์เทนเมนท์ ส่งผลให้ปริมาณความต้องการชิ้นส่วนโลหะ เพื่อนำไปประกอบอุปกรณ์ต่างๆ เหล่านี้เพิ่มมากขึ้น โดยกลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่ เป็นผู้ผลิตรายใหญ่จากประเทศญี่ปุ่น ซึ่งมีฐานการผลิตในไทย และมีความต้องการซัพพลายเออร์ ผู้ผลิตชิ้นส่วนโลหะที่มีศักยภาพสูง สามารถผลิตสินค้าที่มีความเที่ยงตรง และแม่นยำสูง ซึ่งสอดคล้องกับศักยภาพในการผลิตของบริษัทฯ จึงมีโอกาสที่จะได้รับปริมาณการสั่งซื้อชิ้นส่วนโลหะเพิ่มมากขึ้น
“การแตกไลน์สินค้าด้าน Consumer Electronic & Entertainment จะช่วยเพิ่มฐานลูกค้ากลุ่มอื่น ซึ่งไม่ใช่ฮาร์ดดิสก์ไดร์ฟ ทำให้บริษัทฯ สามารถบริหารความเสี่ยงได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น อีกทั้ง การผลิตชิ้นส่วนโลหะที่ใช้สำหรับสินค้าประเภท Consumer Electronic & Entertainment นี้ ต้องการความเที่ยงตรง และแม่นยำสูง จึงทำให้บริษัทฯ มีคู่แข่งน้อย และมีโอกาสได้รับยอดการสั่งซื้อเพิ่มมากขึ้น โดยคาดว่า จะมีปริมาณการสั่งซื้อในปี 2550 เพิ่มขึ้นถึง 40 ล้านบาท” นายชาคริต กล่าว
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ได้ที่
วิไลพร สุอังคะ PR Consultant
โทร. 081-1738233