บลจ.กสิกรไทย มั่นใจลุยตลาดกองทุนตราสารหนี้อีกระลอก ส่ง 3 กองทุนตราสารหนี้ตระกูลกองทุนเปิดรวงข้าวธนรัฐ ออกขายพร้อมกันระหว่างวันที่ 19-26 มิถุนายน ศกนี้

ข่าวทั่วไป Friday June 16, 2006 14:23 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--16 มิ.ย.--นิโอ ทาร์เก็ต
บลจ.กสิกรไทย เดินหน้าลุยตลาดกองทุนตราสารหนี้ต่อ ประเดิมขาย IPO กองทุนใหม่พร้อมกัน 3 กองทุน คือ “กองทุนเปิดรวงข้าวธนรัฐ 06”, “กองทุนเปิดรวงข้าวธนรัฐ 0107 เอ” และ “กองทุนเปิดรวงข้าวธนรัฐ 0107 บี” ระหว่างวันที่ 19 — 26 มิถุนายน 49 นี้
นางวิวรรณ ธาราหิรัญโชติ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัด (บลจ.กสิกรไทย) เปิดเผยว่า “กองทุนเปิดรวงข้าวธนรัฐ 06 (RG06)”, กองทุนเปิดรวงข้าวธนรัฐ 0107เอ (R0107A) และ กองทุนเปิดรวงข้าวธนรัฐ 0107 บี (RG0107B) เป็นกองทุนประเภทตราสารหนี้ ประเภทรับซื้อคืนหน่วยลงทุน เป็นอีกหนึ่งทางเลือกให้แก่นักลงทุนที่กำลังมองหาผลตอบแทนจากการลงทุนที่มีความเสี่ยงต่ำ และมุ่งหวังผลตอบแทนที่กองทุนจะได้รับจากดอกเบี้ยหรือกำไรส่วนเกินจากการลงทุนในพันธบัตร หรือตราสารแห่งหนี้ที่รัฐบาล กระทรวงการคลังหรือธนาคารแห่งประเทศไทยเป็นผู้ออก ผู้รับรอง ผู้อาวัล หรือผู้ค้ำประกัน ทั้ง 3 กองทุนนี้ไม่มีค่าธรรมเนียมการขายและรับซื้อคืนหน่วยลงทุน”
กองทุนเปิดรวงข้าวธนรัฐ 06 (RG06) เป็นกองทุนรวมตราสารแห่งหนี้ แบบไม่กำหนดอายุโครงการ ประเภทรับซื้อคืนหน่วยลงทุนปีละ 1 ครั้ง มีขนาดกองทุน 5,000 ล้านบาท และจะทำรายการซื้อขายคืนหน่วยลงทุนในวันทำการสุดท้ายของเดือนมิถุนายน ส่วนกองทุนเปิดรวงข้าวธนรัฐ 0107เอ (R0107A) และกองทุนเปิดรวงข้าวธนรัฐ 0107บี (R0107B) เป็นกองทุนรวมตราสารแห่งหนี้ ที่ไม่กำหนดอายุโครงการ ประเภทรับซื้อคืนหน่วยลงทุนปีละ 2 ครั้ง โดยทั้ง 2 กองทุนมีขนาดกองทุนเท่ากัน คือ 2,000 ล้านบาท
นางวิวรรณกล่าวต่อไปว่า “กองทุนทั้ง 3 ข้างต้น เน้นลงทุนในพันธบัตรหรือตราสารแห่งหนี้ที่รัฐบาล กระทรวงการคลัง หรือธนาคารแห่งประเทศไทยเป็นผู้ออก ผู้รับรอง ผู้อาวัล หรือผู้ค้ำประกัน ในอัตราส่วนเฉลี่ยรอบอายุกองทุนไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนตามลำดับ เงินลงทุนส่วนที่เหลือจะลงทุนในตราสารแห่งหนี้และหรือเงินฝากของสถาบันการเงินหรือธนาคารที่มีกฎหมายเฉพาะจัดตั้งขึ้นและจะไม่ลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้าหรือตราสารหนี้ที่มีการจ่ายผลตอบแทนอ้างอิงกับตัวแปร (Structure Notes)“
สำหรับ อัตราผลตอบแทนต่อปีของพันธบัตรรัฐบาลหลังหักค่าใช้จ่ายกองทุน ระยะเวลา 6 เดือน เท่ากับร้อยละ4.50 และระยะเวลา 1 ปี เท่ากับร้อยละ 4.75 (อัตราผลตอบแทนอ้างอิงจากเส้นผลตอบแทนโดยประมาณของพันธบัตรรัฐบาล อายุ 6 เดือนและ 1 ปี ณ วันที่ 24 พฤษภาคม โดย สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย)
ผู้ลงทุนที่สนใจสามารถซื้อหน่วยลงทุนขั้นต่ำเพียงกองทุนละ 10,000 บาท ราคาขายหน่วยลงทุนที่ 10 บาทต่อหน่วย โดยสามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม หรือซื้อหน่วยลงทุนได้ทุกสาขาของธนาคารกสิกรไทย โทร 0-2888-8888 และที่บลจ.กสิกรไทย โทร 0-2276-2233
นางวิวรรณ กล่าวเพิ่มเติมว่า “ตั้งแต่ต้นปี 2549 เป็นต้นมา บลจ.กสิกรไทยได้เปิดขายกองทุนตราสารแห่งหนี้ทั้งสิ้นจำนวน 9 กองทุน ด้วยยอดขายรวมสูงถึง 39,483.03 ล้านบาท ซึ่งนอกจากจะสะท้อนให้เห็นถึงความต้องการของประชาชนที่แสวงหาการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่าดอกเบี้ยเงินฝาก ภายใต้ความเสี่ยงต่ำ ยังเป็นผลมาจากความเชื่อถือในผลการดำเนินงานที่โปร่งใสมาโดยตลอด และความเชี่ยวชาญในการบริหารกองทุนของบริษัทฯ อีกทั้งยังได้ตัวแทนจำหน่ายที่มีประสิทธิภาพที่สามารถเสนอข้อมูลและให้บริการที่ดีแก่นักลงทุน จึงทำให้ได้รับความไว้วางใจจากนักลงทุนจำนวนมาก”
บลจ.กสิกรไทยได้รับใบอนุญาตให้ประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ประเภทกิจการลงทุนจากกระทรวงการคลัง เมื่อวันที่ 18 มีนาคม 2535 ปัจจุบัน บลจ.กสิกรไทย เป็นบริษัทในกลุ่ม KBank Group ของ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) โดย ณ วันที่ 28 เมษายน 2549 บริษัทฯ มีทรัพย์สินสุทธิภายใต้การจัดการ เท่ากับ 228,583.96 ล้านบาท (ข้อมูล สมาคมบริษัทจัดการลงทุน )
ต้องการข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ
บ.นิโอ ทาร์เก็ต จำกัด
นฤพร ชีวนันทพรชัย / สาวิตรี ตรีวัชระนุกูล
โทร (02) 631-2290-5 ต่อ 310/222 แฟกซ์ (02) 234-6192-3
E-Mail : neotarget.com /savitri@neotarget.co

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ